11 พรรคเล็กยังไม่ตัดสินใจจับมือกับพลังประชารัฐ รอสัปดาห์หน้าสรุปจุดยืน

เมื่อวันที่ 11 พ.ค.62 ที่รัฐสภาใหม่ สำนักงานเลขาธิการผู้แทนราษฎร เปิดรับรายงานตัว ส.ส.เป็นวันที่ 4 โดยได้มี ส.ส.ทั้งแบบเขตและแบบบัญชีรายชื่อ เข้ารายงานอย่างต่อเนื่อง นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ หัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ กล่าวถึงความคืบหน้าการรวมกลุ่มพรรคเล็ก เพื่อเข้าร่วมจัดตั้งรัฐบาลว่า ขณะนี้ 11 พรรค บวก 1 คือ พรรคประชาชนปฏิรูป ของนายไพบูลย์ นิติตะวัน ได้ร่วมกลุ่มกัน แต่ยังไม่ได้ตัดสินใจว่าจะไปร่วมรัฐบาลกับพรรคพลังประชารัฐ หรือฝ่ายใด ต้องรอหารือกันในกลุ่มอีกครั้ง แต่ยอมรับว่า ด้รับการทาบทามมาจาก 3 กลุ่ม คือ 1.กลุ่มพรรคเพื่อไทย 2.กลุ่มพรรคพลังประชารัฐ 3.กลุ่มพรรคภูมิใจไทย-ประชาธิปัตย์ หากพรรคเล็กไม่ไปร่วมงานกับขั้วใดก็ตั้งรัฐบาลไม่ได้ ขณะนี้ยังไม่ได้มีการพูดถึงการต่อรองตำแหน่งใดๆ แต่ในสัปดาห์หน้ากลุ่มพรรคเล็กจะประชุมกันเพื่อกำหนดจุดยืน และร่างข้อบังคับการทำงานร่วมกันในสภาผู้แทนราษฎรให้ไปในทางเดียวกัน เช่น การเสนอกฎหมาย การแก้กฎหมาย การโหวตลงมติต่างๆ

ส่วนกรณีที่พรรคเพื่อไทยและพรรคอนาคตใหม่ระบุถึงความไม่เป็นธรรมที่พรรคเล็กซึ่งได้คะแนนต่ำกว่า 71,000 คะแนน แต่ได้ ส.ส.นั้น นายมงคลกิตติ์กล่าวว่า ขณะนี้เลยขั้นตอนดังกล่าวไปแล้ว เลยโหมดการร้อง กกต.และศาลรัฐธรรมนูญไปแล้ว เข้าโหมดจัดตั้งรัฐบาลแล้ว ร้องเรียนไปก็ไม่มีอะไร ไม่พอใจก็ไปร้องศาลอะไรไม่ได้แล้ว

ด้าน นายดำรงค์ พิเดช หัวหน้าพรรครักษ์ผืนป่าประเทศไทย ให้สัมภาษณ์หลังเข้ารายงานตัว ส.ส.ถึงจุดยืนในการร่วมรัฐบาลว่า ขณะนี้ยังไม่มีใครทาบทามมา คาดว่าน่าจะตกสำรวจแล้วหรือไม่ แต่ก็มีชื่อไปร่วมกับพรรคพลังประชารัฐแล้ว ส่วนเงื่อนไขในการร่วมรัฐบาลนั้น ไม่จำเป็นต้องเป็นฝ่ายไหน หรือเป็นรัฐมนตรี เพราะพรรคของเราเป็นพรรคเล็กมีแค่ 2 เสียง จึงขอให้ทำงานด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เพราะวันนี้ประเทศเราประสบปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็นฝุ่นละออง PM2.5 ไฟป่า สารเคมี ส่วนเรื่องกัญชา ตนสนับสนุนให้ผลิตเพื่อการแพทย์ แต่ไม่เห็นด้วยเพื่อสันทนาการ โดยเป็นการทำงานเพื่อบ้านเมือง ไม่ใช่รัฐบาลหรือพรรคใดพรรคหนึ่ง ถ้าไม่ใช่ตามนี้ก็ขอเป็นฝ่ายค้านอิสระ อย่างไรก็ตาม ยืนยันจะไม่จับมือกับพรรคเล็กอื่นๆ เพื่อต่อรองตำแหน่ง เพราะทุกคนก็มีอิสระ และตนไม่ใช่ล็อบบี้ยิสต์