ที่ปรึกษาศก.ทรัมป์ยอมรับบ.สหรัฐเจ็บหนักจากสงครามการค้า

ที่ปรึกษาศก.ทรัมป์ยอมรับบ.สหรัฐเจ็บหนักจากสงครามการค้า

นายคุดโลว์ระบุประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์พูดผิด

นายแลร์รี คุดโลว์ หนึ่งในทีมที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ และยังดำรงตำแหน่งประธานที่ปรึกษาเศรษฐกิจแห่งชาติของสหรัฐ ยอมรับว่า มาตรการตอบโต้จีนด้วยการจัดเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากจีนเพิ่มเป็น25% จาก10% ส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อชาวอเมริกันและธุรกิจสหรัฐ และการทำสงครามการค้าของสองประเทศก็สร้างความบอบช้ำต่อทั้งธุรกิจจีนและธุรกิจสหรัฐ

นายคุดโลว์ บอกด้วยว่า ประธานาธิบดีทรัมป์พูดผิดที่บอกว่าจีนเป็นฝ่ายจ่ายภาษีสินค้าที่ส่งออกไปยังสหรัฐ เพราะในความเป็นจริงแล้วภาคธุรกิจสหรัฐคือผู้จ่ายภาษีนำเข้าสินค้าเหล่านั้น 

เมื่อวันศุกร์ (10พ.ค.)ทรัมป์ ทวีตว่า “การเจรจากับจีนยังคงดำเนินไปด้วยความน่าพึงพอใจ โดยไม่มีความจำเป็นที่สหรัฐจะต้องเร่งการเจรจา เนื่องจากขณะนี้จีนกำลังจ่ายภาษีเพิ่มขึ้นเป็น 25% ต่อสินค้าวงเงิน 2.5 แสนล้านดอลลาร์ที่นำเข้าสู่สหรัฐ เงินจำนวนมหาศาลเหล่านี้จะเข้าสู่กระทรวงการคลังสหรัฐ และเรากำลังเริ่มกระบวนการในการเพิ่มการเรียกเก็บภาษีสู่ 25% สำหรับสินค้าจีนที่เหลือวงเงิน 3.25 แสนล้านดอลลาร์” ข้อความในทวิตเตอร์ระบุ

นอกจากนี้ ปธน.ทรัมป์ยังระบุด้วยว่า “ด้วยเงินภาษีกว่า 1 แสนล้านดอลลาร์ที่เราได้รับจากจีน เราจะนำเงินส่วนหนึ่งไปซื้อสินค้าเกษตรจากเกษตรกร และเราจะส่งสินค้าเกษตรเหล่านี้ไปยังประเทศยากจนในรูปแบบของการให้ความช่วยเหลือด้านสิทธิมนุษยชน โดยเงินภาษีเหล่านี้จะทำให้เรามีความมั่งคั่งมากกว่าการทำข้อตกลงแบบดั้งเดิม ขณะที่เกษตรกรของเราจะมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น และประเทศยากจนก็ได้รับความช่วยเหลือ”

คณะกรรมการการค้าระหว่างประเทศของสหรัฐ เปิดเผยว่า สินค้า10รายการที่นำเข้าจากจีนที่จะถูกเรียกเก็บภาษีในอัตรา25% ประกอบด้วย อุปกรณ์โทรคมนาคม มูลค่า 19.1 พันล้านดอลลาร์  แผงวงจรคอมพิวเตอร์ มูลค่า 12.5 พันล้านดอลลาร์ หน่วยประมวลผลคอมพิวเตอร์ มูลค่า 5.6 พันล้านดอลลาร์ เฟอร์นิเจอร์ โลหะ มูลค่า 4.1 พันล้านดอลลาร์  ชิ้นส่วนคอมพิวเตอร์ มูลค่า 3.1 พันล้านดอลลาร์

เฟอร์นิเจอร์ไม้ มูลค่า 2.9 พันล้านดอลลาร์ เครื่องแปลงพลังงาน มูลค่า 2.7 พันล้านดอลลาร์ กระเบื้องปูพื้นทำงานไวนีล มูลค่า 2.5พันล้านดอลลาร์  ที่นั่งมีโครงทำจากไม้ มูลค่า 2.5 พันล้านดอลลาร์ และชิ้นส่วนรถยนต์ มูลค่า 2.3 พันล้านดอลลาร์