ปอศ.-ทล.สกัดจับผู้ต้องหาแก๊งสกริมเมอร์
ผกก.5 บก.ปอศ. ประสานตำรวจบก.ทล. ตั้งจุดสกัดคนร้ายแก๊งสกริมเมอร์ หลังหลบหนีมากว่า 10 ปี
เมื่อเวลา 16.30 น. วันที่ 18 พ.ค. พล.ต.ต.ไมตรี ฉิมเฉิด ผบก.ปอศ. สั่งการให้ พ.ต.อ.ภาดล จันทร์ดอน ผกก.5 บก.ปอศ. พ.ต.ท.ประวิทย์ ว่องไว รอง ผกก.5 บก.ปอศ. ประสานข้อมูลกับ บก.ทล. ตั้งจุดตรวจจุดสกัดพร้อมกับจับกุม นายอำพล อนันมา อายุ 42 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ที่ จ.1136/2554 ลง 26 กันยายน 2554 ของ กก.5 บก.ปอศ. ข้อหา ปลอมและใช้บัตรอิเล็กทรอนิกส์ปลอมฯ โดยจับกุมได้ที่บริเวณ จุดตรวจจุดสกัด ทล.403 กม.66-67 ต.กะปาง อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช เมื่อช่วงเย็นของวันที่ 17 พ.ค.ที่ผ่านมา
พ.ต.อ.ภาดล กล่าวว่า เมื่อปี พ.ศ. 2552 พนักงานสอบสวน กก.5 บก.ปอศ. ได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่ควบคุมและป้องกันการทุจริต ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) ว่ามีรายการปฏิเสธการใช้บัตรเครดิตจากลูกค้าผู้ถือบัตรเครดิตของธนาคารไทยพาณิชย์ จำนวน 2 ราย น่าจะเป็นการใช้บัตรเครดิตปลอม เจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวนจึงสืบสวน ทราบว่าคนร้ายนำข้อมูลในแถบแม่เหล็กจากบัตรเครดิตจริงของลูกค้าไปคัดลอกลงบัตรปลอม (Skimmer) และนำไปใช้รูดซื้อสินค้ากระทั่งทราบว่าคนร้ายในคดีนี้คือ นายอำพล พนักงานสอบสวนจึงได้รวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติศาลอาญาออกหมายจับผู้ต้องหารายนี้ ในข้อหาปลอมและใช้บัตรอิเล็กทรอนิกส์ปลอม และได้ติดตามตัวมาโดยตลอด
ทั้งนี้ พล.ต.ต.ไมตรี เห็นว่าคดีนี้ก่อให้เกิดความเสียหายต่อความน่าเชื่อถือของธนาคารพาณิชย์ และอาจก่อให้เกิดผลกระทบต่อเศรษฐกิจในวงกว้างเนื่องจากประชาชนอาจขาดความมั่นใจในการใช้บัตรเครดิต จึงได้สั่งการให้ พ.ต.อ.ภาดล ติดตามจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดี จากการสืบสวนทราบว่า นายอำพล ผู้ต้องหาหลบหนีการจับกุมไปพักอาศัยอยู่ในพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราช จึงได้ประสานข้อมูลกับกองบังคับการตำรวจทางหลวง โดย พ.ต.อ.จิรประภาพ สุทธปรีดา ผกก.7 บก.ทล. และ พ.ต.ท.ศุภกร ตังคะประเสริฐ สว.ส.ทล.๔ กก.๗ บก.ทล.(นครศรีธรรมราช) ตั้งจุดสกัดเพื่อจับกุมผู้ต้องหารายนี้ตามเส้นทางที่คาดว่าจะหลบหนี และสามารถจับกุมนายอำพลได้ที่บริเวณจุดตรวจจุดสกัด บริเวณ ทล.403 กม.66-67 ต.กะปาง อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช หลังจากหลบหนีคดีมานานถึง 10 ปี
จากการสอบสวน นายอำพล ให้การรับสารภาพว่า นำบัตรเครดิตปลอมไปใช้ซื้อสินค้าจริง ได้รับบัตรปลอมมาจากเพื่อนซึ่งถูกจับไปก่อนแล้ว สินค้าที่ซื้อมานั้นนำไปให้เพื่อนคนดังกล่าว ตนเองได้รับส่วนแบ่งเป็นเงินค่าจ้างจำนวนหนึ่งนำไปใช้สอยส่วนตัว โดยก่อเหตุลักษณะนี้เพียงครั้งนี้ครั้งเดียว เมื่อทราบว่าตนถูกดำเนินคดีและถูกออกหมายจับจึงหลบหนีไปพักอาศัยที่จังหวัดนครศรีธรรมราช เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจนำตัวส่งพนักงานสอบสวน กก.5 บก.ปอศ. ดำเนินคดีต่อไป