ฝนหลวงฯ ขึ้นบนช่วยพื้นที่เกษตรภาคตะวันออก-เหนือ
ฝนหลวงฯ ขึ้นบนช่วยพื้นที่เกษตรภาคตะวันออก-เหนือ
นายสุรสีห์ กิตติมณฑล อธิบดีกรมฝนหลวงและการบินเกษตร เปิดเผยว่า จากผลการปฏิบัติการของฝนหลวงเมื่อวันศุกร์ที่ 17 พฤษภาคม 2562 ทั้งหมด 8 หน่วยปฏิบัติการ
ได้แก่ หน่วยปฏิบัติการฝนหลวง จ.เชียงใหม่ พิษณุโลก นครราชสีมา อุดรธานี ลพบุรี กาญจนบุรี จันทบุรี และหัวหิน ได้ขึ้นบินปฏิบัติการฝนหลวงเพื่อช่วยเหลือพื้นที่การเกษตรที่ประสบปัญหาภัยแล้ง พื้นที่เสี่ยงต่อ การขาดแคลนน้ำอุปโภคบริโภค และเพิ่มปริมาณน้ำเก็บกักให้แก่พื้นที่ลุ่มรับน้ำ ทำให้มีฝนตกในพื้นที่บางส่วนของ จ.บุรีรัมย์ สุรินทร์ อุดรธานี หนองบัวลำภู อุทัยธานี นครสวรรค์ กาญจนบุรี สุพรรณบุรี เพชรบุรี รวมถึงสามารถเพิ่มปริมาณน้ำให้กับพื้นที่ลุ่มรับน้ำเขื่อนแม่กวงอุดมธารา อ่างเก็บน้ำทับเสลา และอ่างเก็บน้ำกระเสียว ขณะที่ หน่วยปฏิบัติการฯ จ.พิษณุโลก และจันทบุรี ไม่มีฝนตกจากการปฏิบัติการ เนื่องจากกลุ่มเมฆเป้าหมายไม่สามารถพัฒนาตัวเป็นเมฆฝนได้
ด้านสถานการณ์ของพื้นที่ประสบภัยแล้งในวันนี้ ตามที่กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ได้ประกาศเขตจังหวัดที่ประสบภัยแล้ง ยังคงเป็น 7 จังหวัด 17 อำเภอ 60 ตำบล 442 หมู่บ้าน ขณะที่ปริมาณน้ำในเขื่อน/อ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่และขนาดกลางที่มีปริมาณน้ำน้อยกว่าร้อยละ 30 ของปริมาณน้ำใช้การ มีจำนวน อ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ 18 แห่ง อ่างเก็บน้ำขนาดกลาง 194 แห่ง โดยกรมฝนหลวงฯ จะเร่งปฏิบัติการอย่างต่อเนื่องเพื่อเพิ่มปริมาณน้ำในพื้นที่ลุ่มรับน้ำ และขอความร่วมมือประชาชนใช้น้ำอย่างประหยัด
พื้นที่ภาคกลาง หน่วยฯ จ.ลพบุรี และกาญจนบุรี ซึ่งทั้ง 2 หน่วยปฏิบัติการ จะดำเนินการวางแผนเพื่อมุ่งเน้นช่วยคลี่คลายสถานการณ์ให้กับพื้นที่ประสบภัยแล้งให้สัมฤทธิผลมากยิ่งขึ้น ทั้งนี้ที่ผ่านมาได้มีการปฏิบัติการฝนหลวง มาอย่างต่อเนื่อง และมีพื้นที่ได้รับปริมาณน้ำฝนบรรเทาความเดือดร้อนไปได้ในระดับหนึ่ง ซึ่งหลังจากนี้ จะดำเนินการช่วยเหลือพื้นที่ที่ได้รับความรุนแรงของภัยแล้งต่อไป
ด้านพื้นที่ภาคเหนือ หน่วยปฏิบัติการฯ จ.เชียงใหม่ และพิษณุโลกจึงตัดสินใจขึ้นบินปฏิบัติการช่วยเหลือพื้นที่การเกษตรบริเวณ อ.เมืองลำปาง อ.เกาะคา จ.ลำปาง อ.ดอยหล่อ อ.แม่แจ่ม จ.เชียงใหม่ อ.ลับแล จ.อุตรดิตถ์ และ อ.วัดโบสถ์ อ.พรหมพิราม จ.พิษณุโลก