นักวิเคราะห์คาด ‘มาเลย์’ ทำเลทองธุรกิจชิพ

นายราช กุมาร ผู้ก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (ซีอีโอ) กลุ่มบริษัทไอจีเอสเอส เวนเจอร์ส เผยกับสำนักข่าวเบอร์นามาว่า มาเลเซียมีเสน่ห์สำหรับบริษัทข้ามชาติที่ช่วยดึงดูดบรรดาธุรกิจระหว่างประเทศที่กำลังหาทางเข้าลงหลักปักฐานในประเทศ

“ความน่าดึงดูดของมาเลเซียในที่นี้ ผมหมายถึงปัจจัยอย่างความพร้อมในการเข้าถึงแรงงานทักษะสูงด้านการวิจัยและพัฒนา (อาร์แอนด์ดี) ประชากรพูดภาษาอังกฤษได้ กฎหมายที่เอื้อต่อภาคธุรกิจ โครงสร้างพื้นฐานที่พัฒนาแล้ว รวมถึงความเชื่อมโยงของการคมนาคมที่ดีเยี่ยม และระบบการโทรคมนาคมที่เชื่อมถึงกัน”

ทั้งนี้ ไอจีเอสเอส เวนเจอร์ส เป็นบริษัทโฮลดิ้งด้านเทคโนโลยี ซึ่งให้ความสำคัญด้านการพัฒนาและการพาณิชย์เทคโนโลยีชิพกระแสหลัก (เมนสตรีม) และชิพเฉพาะกลุ่ม (นิช)

นอกจากนั้น นายราชเสริมว่า การจัดการด้านทรัพย์สินทางปัญญาของอุตสาหกรรมนี้ซึ่งพ่วงอยู่กับความสามารถที่เพิ่มขึ้นด้านการสร้างกิจกรรมออกแบบและอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องและสนับสนุน ช่วยเพิ่มมูลค่าให้กับมาเลเซียในฐานะทำเลยอดนิยมสำหรับการผลิตชิพ

“สำหรับการผลิตแผ่นเวเฟอร์ อุตสาหกรรมนี้จำเป็นต้องมีห้องที่สะอาดองค์ประกอบสำคัญในการผลิตแผ่นเวเฟอร์ ซึ่งต้องมีความบริสุทธิ์ 100 เท่า”

นายราช  ซึ่งคลุกคลีในอุตสาหกรรมนี้มานานราว 30 ปี ระบุว่า ปัจจุบันสิงคโปร์และมาเลเซียเป็น 2 ประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่มีโครงสร้างพื้นฐานและศักยภาพในการผลิตแผ่นเวเฟอร์ และว่ามาเลเซียเติบโตขึ้นจนเป็นส่วนหนึ่งในกลุ่ม 6 ชาติชั้นนำของโลกที่มีอีโคซิสเต็มด้านชิพที่น่าดึงดูด ตั้งแต่เรื่องต้นทุนไปจนถึงโครงสร้างพื้นฐาน

สำนักสถิติการค้าชิพโลก คาดการณ์ว่า การขายชิพทั่วโลกจะขยายตัวเพียง 2.6% ในปี 2562 ซึ่งแตกต่างอย่างชัดเจนเมื่อเทียบกับการเติบโต 21.6% และ 13.7% ในปี 2560 และ 2561 ตามลำดับ