ไม่ถึงเวลาแก้รธน.2มาตรา จวกอนค.ส่อสร้างปัญหานอกรัฐสภา

นายวันชัย สอนศิริ สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) ให้สัมภาษณ์ต่อกรณีที่พรรคอนาคตใหม่ เตรียมยื่นญัตติขอแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา 272 ว่าด้วยให้สิทธิ์ส.ว.ร่วมโหวตนายกฯ ในระยะเวลา 5 ปี และ มาตรา 279 ว่าด้วยการนิรโทษกรรมคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ว่า ตนมองว่ายังไม่ถึงเวลาที่จะเสนอให้แก้ไขรัฐธรรมนูญ เพราะเพิ่งผ่านการเลือกตั้งและเพิ่งถูกใช้บังคับ ซึ่งยังไม่พบประเด็นปัญหาของการบังคับใช้ โดยเฉพาะ 2 มาตราดังกล่าว อย่างไรก็ตามในข้อเสนอที่ให้แก้อำนาจ ส.ว. ร่วมโหวตนายกฯ​เพราะเป็นส.ว.คือกลไกสืบทอดอำนาจ คสช.​นั้น ตนมองว่าไม่มีประเด็นของการสืบทอดอำนาจ และการให้ส.ว.มีหน้าที่ดังกล่าวในช่วงเปลี่ยนผ่าน 5 ปี คือ บทพิสูจน์ว่าเป็นผลดี และเป็นกลไกแก้ปัญหาของบ้านเมืองให้ออกจากวิกฤต หรือไปในทางที่กลายเป็นเดดล็อคทางการเมืองในระยะเปลี่ยนผ่าน

“การให้อำนาจ ส.ว. ร่วมโหวตนายกฯ ตามที่คำถามพ่วงเสนอและบัญญัติไว้ในมาตรา 272 นั้น กำหนดหน้าที่ไว้เพียงระยะเวลาสั้นๆ คือ 5 ปีเท่านั้น ซึ่งกรณีดังกล่าวไม่ใช่การสืบทอดอำนาจ หากพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และหัวหน้า คสช. ไม่อยากเป็นอะไรต่อ ก็ยุติ แต่หากอยากอยู่ยาว และอยู่เพื่อสร้างประโยชน์ให้ประชาชนผมมองว่าไม่เห็นจะเป็นอะไร” นายวันชัย กล่าว

นายวันชัย กล่าวด้วยว่า ส่วนข้อเสนอของพรรคอนาคตใหม่ที่เตรียมจัดเวทีทั่วประเทศเพื่อรวบรวมเสียงต่อการแก้รัฐธรรมนูญนั้น ตนมองว่าเป็นการกระทำที่จะสร้างปัญหาการเมืองมากกว่าใช้เวทีของรัฐสภาเพื่อแก้ปัญหาของบ้านเมือง เนื่องจากเข้าข่ายเป็นการปลุกระดมประชาชนมากกว่า นอกจากนั้นตนมองว่าประเด็นที่พรรคอนาคตใหม่นำเสนอนั้น ต้องการสร้างประเด็นทางการเมืองมากกว่า ทั้งนี้ในข้อเท็จจริง การแก้ไขรัฐธรรมนูญหากจะทำให้เกิดขึ้นได้ต้องได้รับความเห็นร่วมกันจากฝ่ายรัฐบาล , ฝ่ายนิติบัญญัติ คือ รัฐสภาร่วมกัน รวมถึงฝ่ายค้านด้วย ทั้งนี้ใน 2 มาตรานั้น ตนมองว่ายังไม่ใช่สิ่งที่สร้างปัญหา เพราะมาตรา 279 ว่าด้วยการนิรโทษกรรม คสช. ถูกนิรโทษกรรมตั้งแต่รัฐธรรมนูญ ฉบับชั่วคราวแล้ว