'เนาวรัตน์' ลดเป้ารายได้เหตุงานรัฐชะลอ-แอลทีวีกระทบ
"เนาวรัตน์ฯ" ลดเป้ารายได้ปีนี้เหลือทรงตัว หลังคาดแนวโน้มไตรมาส 2 ขาดทุนต่อเนื่อง เหตุงานภาครัฐชะลอ-แอลทีวีกระทบอสังหาฯ
นายปสันน สวัสดิ์บุรี รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส แผนกธุรกิจใหม่ และวางแผนกลยุทธ์ บริษัท เนาวรัตน์พัฒนาการ จำกัด (มหาชน) หรือ NWR เปิดเผยว่า บริษัทปรับเป้ารายได้ปีนี้เหลือทรงตัวจากปีก่อนที่ทำได้ 10,037 ล้านบาท จากเดิมที่คาดว่าจะเติบโต 30-50% หลังจากที่การเปิดประมูลงานใหม่มีความล่าช้า และงานที่การประมูลแล้วเสร็จก็มีการล่าช้าด้วย
ในขณะเดียวกันมีการเปลี่ยนแปลงคณะรัฐบาลชุดใหม่ทำให้เกิดการหยุดชะงักของโครงการต่างๆ กระทบไปถึงผลประกอบการในช่วงไตรมาส 2/2562 ที่จะส่งผลให้บริษัทยังมีผลขาดทุนต่อเนื่องจากไตรมาส 1/2562 ที่ผ่านมาที่มีผลขาดทุนอยู่ 27.69 ล้านบาท
นอกจากนี้ในธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพื่อขายได้รับผลกระทบจากมาตรการกำกับดูแลสินเชื่อที่อยู่อาศัย โดยกำหนดเพดานอัตราส่วนเงินให้สินเชื่อต่อมูลค่าหลักประกัน (LTV) ทำให้ปรับลดเป้าหมายยอดโอนกรรมสิทธิลงเหลือ 500 ล้านบาท จากเดิมที่คาดว่าจะมียอดโอนกรรมสิทธิราว 800 ล้านบาท
ขณะที่ปัจจุบันบริษัทมีงานในมือ(Backlog) ราว 20,000 ล้านบาท โดยจะรับรู้รายได้ในปีนี้มูลค่ากว่า 7,000 ล้านบาท ของมูลค่างานทั้งหมด โดยแบ่งเป็นงานที่เซ็นสัญญาแล้วมูลค่า 14,606 ล้านบาท และงานที่เตรียมเซ็นสัญญาเพิ่มอีกมูลค่า 4,800 ล้านบาท แบ่งเป็นโครงการรถไฟฟ้าไทย-จีน สัญญาที่ 1 และโครงการทางด่วนพระราม 3-ดาวคะนอง พร้อมกันนี้บริษัทเตรียมที่จะเข้าประมูลงานใหม่ 16,000 ล้านบาท โดยหวังที่จะได้งาน 15% จากมูลค่างานทั้งหมด
ทั้งนี้ บริษัทยังมองหาโอกาสการเข้าประมูลงานใหม่ๆเพิ่มเติมอีก มูลค่ารวมกว่า 56,000 ล้านบาท อาทิ โครงการท่าเรือมาบตาพุดเฟส 3 โครงการท่าเรือแหลมฉบัง เฟส 3 รถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน รถไฟไทย-จีน ที่เหลืออีก 7 สัญญา และโครงการระบบรางอื่น ๆ ที่จะออกมาเพิ่มเติม
"สำหรับกรณีที่ภาครัฐจะนโยบายการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำเป็น 400-425 บาทนั้น มองว่าจะส่งผลกระทบต่อค่าใช้จ่าย 1-5% แต่อย่างไรก็ตามบริษัทสามารถต่อรองกับผู้ว่าจ้างเพื่อที่จะเพิ่มเงินชดเชยค่างานก่อสร้าง (ค่า K) ซึ่งสามารถทดแทนกับต้นทุนที่สูงขึ้นได้" นายปสันน กล่าว
นายปสันน กล่าวเพิ่มเติมเกี่ยวกับธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพื่อขายว่า เตรียมที่จะเปิดตัวโครงการใหม่ เอสเพน คอนโด ลาซาน C มูลค่าโครงการ 820 ล้านบาท โดยคาดว่าจะก่อสร้างแล้วเสร็จและโอนกรรมสิทธิได้ในช่วงไตรมาส 4/2563
ส่วนธุรกิจอาหาร ในปีนี้บริษัทเตรียมที่จะเปิดร้านอาหารแห่งที่ 3 เป็นร้านอาหารอิตาเลียน บนซอยสุขุมวิท 36 โดยคาดว่าจะเปิดในช่วงต้นไตรมาส 3/2562 นี้ โดยในธุรกิจดังกล่าวยังคงได้รับการตอบรับที่ดีและยอดขายเติบโตอย่างต่อเนื่อง