กมอ.ไฟเขียวมาตรฐานบังคับเหล็กกล้าทรงแบนรีดเย็นเคลือบอะลูมิเนียม55% ผสมสังกะสี
กมอ.ไฟเขียวมาตรฐานบังคับเหล็กกล้าทรงแบนรีดเย็นเคลือบอะลูมิเนียม 55% ผสมสังกะสี ตามที่ สมอ. เสนอ เตรียมออกประกาศบังคับใช้ แนะให้ผู้ผลิตและผู้นำเข้าปรับตัว เพื่อคุ้มครองผู้บริโภค
นายวันชัย พนมชัยเลขาธิการสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) กล่าวว่า เมื่อวันที่ 18มิ.ย. 2562 คณะกรรมการมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (กมอ.)ได้มีมติเห็นชอบกำหนดมาตรฐานบังคับเหล็กกล้าทรงแบนรีดเย็นเคลือบอะลูมิเนียมตามที่สมอ.ได้จัดทำมาตรฐาน มอก.2228-2559 โดยกำหนดให้มาตรฐานเหล็กกล้าทรงแบนรีดเย็นเคลือบอะลูมิเนียม 55%ผสมสังกะสี ด้วยกรรมวิธีจุ่มร้อนแบบต่อเนื่องเป็นมาตรฐานบังคับเพื่อควบคุมคุณภาพผลิตภัณฑ์ให้เป็นไปตามมาตรฐานทั้งผู้ทำในประเทศและผู้นำเข้าทุกราย
ทั้งนี้ สมอ. จะดำเนินการตามขั้นตอนทางกฎหมายเพื่อประกาศเป็นมาตรฐานบังคับต่อไปจึงขอให้ผู้ประกอบการทั้งผู้ทำและผู้นำเข้าผลิตภัณฑ์ดังกล่าวเตรียมความพร้อมก่อนที่ สมอ. จะประกาศเป็นมาตรฐาน คาดว่าจะช่วยสามารถสร้างความมั่นใจในคุณภาพให้กับผู้ใช้ผลิตภัณฑ์และผู้ทำผลิตภัณฑ์ต่อเนื่องจากมอก.2228-2559 ทุกๆ ผลิตภัณฑ์มากขึ้นและที่สำคัญที่สุดคือความคุ้มค่าในการใช้ผลิตภัณฑ์ต่อเนื่องของผู้บริโภค
"เหล็กกล้าทรงแบนรีดเย็นเคลือบอะลูมิเนียม55% ผสมสังกะสี โดยกรรมวิธีจุ่มร้อนแบบต่อเนื่องเป็นวัตถุดิบสำคัญที่นำไปใช้ทำผลิตภัณฑ์ต่อเนื่องหลากหลายประเภททั้งผลิตภัณฑ์สำหรับงานก่อสร้าง งานอุตสาหกรรม เช่น หลังคา ผนังและส่วนประกอบของเครื่องใช้ไฟฟ้า เช่น ตัวถังภายนอกของตู้เย็น เครื่องปรับอากาศปัจจุบันพบว่าผลิตภัณฑ์ดังกล่าวมีนำเข้ามาจำหน่ายในท้องตลาดในราคาถูก มีคุณภาพต่ำคุณสมบัติความหนา ความกว้าง ความยาวและความหนาของชั้นเคลือบไม่ตรงตามที่ระบุในฉลากทำให้เกิดผลเสียหายและความปลอดภัยต่อผู้ใช้" นายวันชัย กล่าว
นอกจาก กมอ. ยังเห็นชอบให้มาตรฐานขั้วรับหลอดฟลูออเรสเซนซ์และขั้วรับสตาร์ตเตอร์มอก.344-25xx และมาตรฐานหลอดแอลอีดีมีบัลลาสต์ในตัวสำหรับการให้แสงสว่างทั่วไปด้วยแรงดันไฟฟ้ามากกว่า50 V มอก.2780-25xx เป็นมาตรฐานบังคับและเห็นชอบร่างมาตรฐานใหม่ อีก 11 เรื่อง อาทิ เครื่องจักรกลไฟฟ้าชนิดหมุนยางล้อแบบสูบลมหล่อดอกซ้ำสำหรับยานยนต์และส่วนพ่วง พอลิเมอร์เสริมเส้นใยสำหรับงานโครงสร้างคอนกรีตไม่อัดแรงและเหล็กกล้าทรงแบนเคลือบสังกะสีผสมอะลูมิเนียม 5% ถึง 13% และแมกนีเซียม 2% ถึง4% โดยวิธีจุ่มร้อน เป็นต้น
ปัจจุบัน สมอ.ประกาศให้ผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมต้องเป็นไปตามมาตรฐาน หรือมาตรฐานบังคับ จำนวน 115มาตรฐาน เพื่อคุ้มครองผู้บริโภคให้ได้รับความปลอดภัยจากการใช้ผลิตภัณฑ์ดังกล่าว