จยย.รับจ้างกว่า30ราย บุกร้องกรมการขนส่งทางบก โวยแกร็บไบค์ผิดกม.
นายกสมาคมผู้ขับขี่รถจักรยนต์แห่งประเทศไทย นำจยย.รับจ้างกว่า30ราย บุกร้องกรมการขนส่งทางบก โวยแกร็บไบค์ผิดกม.
จากกรณีที่มีการเสนอข่าวรองอธิบดีกรมการขนส่งทางบก ได้ให้สัมภาษณ์ผ่านสื่อมวลชนว่า จะแก้ปัญหาเรื่องแกร็บไบค์ที่ผิดกฏหมาย ให้ถูกต้องตามกฎหมายนั้น
ที่กรมการขนส่งทางบก เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 24 มิ.ย. นายเฉลิม ชั่งทองมะดัน นายกสมาคมผู้ขับขี่รถจักรยนต์แห่งประเทศไทย พร้อมด้วยสมาชิกวินจักรยานต์รับจ้างสาธารณะกว่า 30 คน เดินทางมายื่นหนังสือร้องเรียนต่อนางจันทิรา บุรุษพัฒน์ รองอธิปดีฝ่ายปฎิบัติการ กรมการขนส่งทางบก ว่าจะมีแนวทางการปฏิบัติอย่างไรและจะมีผลกระทบกับวินมอเตอร์ไซค์รับจ้างสาธารณะที่มีอยู่ในขณะนี้อย่างไร โดยที่ผ่านมาทางสมาคมและวินมอเตอร์ไซค์รับจ้างสาธารณะ ให้ความร่วมมือกับกรมการขนส่งทางบกทั้งทางดำนนโยบายและการจัดระเบียบวินมอเตอร์ไซค์ในรอบ 5 ปีที่ผ่านมาด้วยคี ให้เปินไปตามกฎหมายมาโดยดลอดแต่ในขณะนี้
ทางกรมการขนส่งทางบก จะมีการเปลี่ยนแปลงเพื่อตอบสนองนโยบายของรัฐบาลไหม่ ทางสมาคมและแกนนำกลุ่มต่างๆ จึงอยากทราบความชัดเจนของกรมการขนส่งทางบก เกี่ยวกับเรื่องนี้ เพราะที่ผ่านมาทางสมาคมฯและแกนนำกลุ่มต่างๆตลอดจนรถรับจ้างสาธารณะประเภทต่างๆ ได้รวมตัวกันไปยื่นหนังสือ แก่ พณฯ พล.อ.ประยุทธ จันทรโอชา มาครั้งหนึ่งแล้วเรื่องให้มีการบังคับใช้กฎหมายกับบริษัทแอพพิเคชั่นแกร๊ปที่สนับสนุนให้สมาชิกนำรถป้ายขาวมารับส่งผู้โดยสารและได้ทวงถามท่านรองอริบตึกรมการขนส่งในที่ประชุม ถึงเรื่องนี้ถึง 3 ครั้ง 3 วาระ แต่ไม่ได้คำตอบใดๆ ทั้งสิ้น และก็ไม่ได้มีการแก้ไขปัญหาเรื่องดังกล่าวเลย แต่พอมีจัดรัฐบาลชุดใหม่ไม่ทันได้แต่ตั้งอย่างเป็นทางการเลย กลับออกมาแถลงข่าวว่าจะสนองรับนโยบายใหม่เสียแล้ว แทนที่จะมีการบังคับใช้กฎหมายกับผู้ที่กระทำความผิด กลับไปแก้กฎต่างๆ เพื่อเอื้อประโยชน์ให้กับนายทุนต่างชาติที่ผิดกฎหมายและสร้างความแตกแยกให้กับคนไทย ดังข่าวที่เกิดขึ้นระหว่างแกร๊ปกับวินมอเตอร์ไซค์รับจ้างสาธารณะ
นางจันทิรา กล่าวว่า เบื้องต้นจะรับเรื่องร้องเรียนไว้พิจารณา ซึ่งที่ผ่านมาน่าจะเกิดจากความเข้าใจที่คลาดเคลื่อน ไม่ใช่ว่าทางเจ้าหน้าที่เพิกเฉย ไม่ได้ทำอะไร ทางเจ้าหน้าที่กำลังให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องศึกษาและวิจัยถึงผลกระทบที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของแท็กซี่สาธารณะและวินมอเตอร์ไซค์รับจ้าง โดยศึกษาถึงผลกระทบที่เกี่ยวข้องกับผู้ประกอบการเดิม รวมถึงประชาชนผู้ใช้บริการ เพื่อให้เกิดประโยชน์และเป็นธรรมกับทุกฝ่าย