สตม.แถลงคดีสำคัญ จับชาวเมียนมาพาต่างด้าวส่งโรงงานย่านแสมดำเก็บค่าหัวคิว /ตั้งด่านตรวจจับหนุ่มใหญ่ขนยาไอซ์ส่งขายภาคใต้/รวบชาวอิสราเอล อดีตผู้ต้องหาคดีฆ่าหั่นศพเมียคนไทยคาด่าน
วันที่ 24 มิถุนายน พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผบช.สตม. ,พล.ต.ต.สุรพงษ์ ชัยจันทร์ รอง ผบช.ภ.7 ปฏิบัติราชการ สตม., พล.ต.ต.อิทธิพล อิทธิสารรณชัย .,พล.ต.ต.สรายุทธ สงวนโภคัย รอง ผบช.สตม., พล.ต.ต.อาชยน ไกรทอง ผบก.ตม.3 ร่วมกันแถลงข่าวคดีอาชญากรรมที่สำคัญ 3 คดี
โดยคดีแรก พล.ต.ต.อาชยน กล่าวว่า สืบเนื่องจากนโยบายรัฐบาล ได้สั่งการให้เร่งรัดตรวจสอบ กวดขัน และปราบปราม ป้องกันปราบปรามการค้ามนุษย์ โดยให้เพิ่มความเข้มในการสืบสวน จับกุม และขยายผลเพื่อดำเนินคดีกับผู้สนับสนุน ตลอดจนผู้มีส่วนเกี่ยวข้องอย่างจริงจัง ทางบก.ตม. 3 จึงได้ทำการสืบสวนหาข่าว กระทั่งสามารถจับกุมนาง ทิน มาร์ หวิน อายุ 40 ปี สัญชาติเมียนมา พร้อมคนต่างด้าว 7 คน ได้ที่จุดตรวจความมั่นคงด้านหน้าจุดตรวจถาวรไทรโยค ขณะโดยสารรถโดยสารประจำทางสาธารณะมุ่งหน้าเข้าอำเภอเมืองกาญจนบุรี ซึ่งจากการสอบถามหญิงชาวพม่ารายดังกล่าวให้การว่าเป็นผู้ที่นำพาคนต่างด้าวทั้ง7 คน มาจากอำเภอสังขละบุรี ก่อนจะพาไปทำงานที่กรุงเทพมหานคร ต่อมาชุดสืบสวนบก.ตม. 3 ได้ขยายผลตรวจสอบที่พักของหญิงชาวพม่ารายนี้ และยังพบข้อมูลว่ามีการนำแรงงานไปส่งให้กับโรงงานแห่งหนึ่งย่านแสมดำ จึงนำกำลังตรวจค้น จับกุมผู้ร่วมขบวนการได้เพิ่ม 6 คน โดยทั้ง 6 รายอ้างว่าเสียค่าดำเนินการให้หัวละ 1500 บาท
ทั้งนี้เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหาหญิงรายดังกล่าวและพวก ฐานค้ามนุษย์ ในส่วนบุคคลต่างด้าวทั้ง 7 คน ซึ่งผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ ให้ อยู่ในความคุ้มครองดูแลของ พมจ.บ้านพักเกร็ดตระการ อ.ปากเกร็ด ต่อไป นนทบุรี
นอกจากนี้ระหว่างตั้งจุดตรวจถาวรไทรโยค ยังได้จับกุมนายทวี ตาสว่าง อายุ 57 ปี กับพวกรวม 3 คน พร้อมยาไอซ์ 211 กิโลกรัม รถยนต์ยี่ห้อโตโยต้า คัมรี่สีบรอนซ์เทา และรถยนต์กระบะยี่ห้อนิสสันนาวาร่าสีขาว ซึ่งการจับกุมครั้งนี้มาจากการประสานความร่วมมือระหว่างเจ้าหน้าที่ด่านตรวจร่วมสามแยกบ้านท่าขนุนและจุดตรวจถาวรไทรโยค ให้ช่วยสกัดจับรถทั้งสองคัน ซึ่งหลบหนีการตรวจค้นคาดว่าภายในรถจะมีสิ่งผิดกฎหมาย กระทั่งรถสองคันขับด้วยความเร็วเข้ามาที่ด่าน จึงแสดงตนขอตรวจค้นก็พบตัวกระบะมี การดัดแปลงเป็นช่องเก็บของ ภายในซุกซ่อนห่อยาไอซ์สีทองวางเรียงกันอยู่ จึงจับกุมทั้งสามคน จากการสอบสวนทราบว่ายาเสพติดดังกล่าวรับมาจากนายเอ เอเย่นต์ชาวเมียนมาเพื่อนำมาส่งให้เอเย่นต์ในพื้นที่จ.กาญจนบุรี ส่วนหนึ่งส่งขายลงภาคใต้ จึงนำตัวทั้งสามส่งพนักงานสอบสวนสภ.ไทรโยคดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป
คดีที่สาม จับกุมนายยาเฮล อีลี่ ไมมอน โคเฮน อายุ 49 ปี สัญชาติอิสราเอล อดีตผู้ต้องหาที่เคยก่อเหตุฆาตกรรมฆ่าหั่นศพภรรยาคนไทย เมื่อปี 2547 ซึ่งถูกศาลตัดสินจำคุกและส่งผลักดันกลับประเทศไปเมื่อปี 2556 โดยฝ่ายสืบสวน สตม.จังหวัดสระแก้ว สามารถจับกุมตัวได้บริเวณตลาดโรงเกลือ อำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว จากการสอบสวน นายยาเฮล ยอมรับว่า เป็นคนเดียวกับนายอีลี่ ไมมอน โคเฮน โดยหลังถูกดำเนินคดีและส่งกลับประเทศ ก็ได้เพิ่มชื่อของตนเองและเปลี่ยนเล่มพาสปอร์ต เดินทางเข้าประเทศไทย ซึ่งก่อนหน้านี้ได้พยายามเข้าประเทศไทยมาแล้ว 4 ครั้ง แต่ไม่สามารถเข้ามาในไทยได้ ส่วนสาเหตุที่อยากเข้ามาในไทย เพราะชอบเมืองไทย ประกอบกับคดีที่เกิดขึ้น ทำให้เสี่ยงเป็นอันตรายเมื่ออยู่ในประเทศอิสราเอล และเมื่อเข้ามาเมืองไทยได้แล้ว ก็ตั้งใจจะปลอมสถานะของตนเองเป็นนักธุรกิจ เพื่อไปหางานทำในบริษัทเอกชนของคนในชาติเดียวกัน เพื่อขยายเวลาอยู่ต่อในไทยให้นานขึ้น ทั้งนี้ ตำรวจได้ทำการเพิกถอนการอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักร เพื่อผลักดันนายยาเฮลกลับประเทศต่อไป