ร้องตร.เอาผิดผู้เช่าอาคารเปิด 'ลิตเติ้ลดั๊ก อาบอบนวด' เปิดบริการสถานที่เดิม 'นาตารีฯ'
"หัวหน้าฝ่ายโยธาฯ" ร้องตร.เอาผิดผู้เช่าอาคารเปิดสถานบริการ "ลิตเติ้ลดั๊ก" พบมีดัดแปลงอาคารละเมิดคำสั่งศาลปกครอง เตรียมชง ป.ป.ง.พิจารณายึดทรัพย์
เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 27 มิ.ย.62 ที่สน.ห้วยขวาง นายบัญชา สืบกระพัน หัวหน้าฝ่ายโยธา สำนักงานเขตดินแดง เข้าพบ ร.ต.อ.สุจิน พรประภาพรชัย รอง สว.(สอบสวน) สน.ห้วยขวาง เพื่อแจ้งความเอาผิดกับ บริษัทพีเอสเอสเอ็นเตอร์เทนเมนต์ กรณีเช่าอาคารเปิดสถานบริการลิตเติ้ลดั๊ก ซึ่งตั้งอยู่บนอาบอบนวดนาตาลีเก่า ในย่านรัชดาภิเษก โดยมี พ.ต.อ.ภูริส จินตรานนท์ ผกก.สน.ห้วยขวาง ร่วมสอบสวน ก่อนลงพื้นที่ตรวจสอบบริเวณสถานบริการดังกล่าวร่วมกับ เจ้าหน้าที่ บก.ปทส. ศูนย์พิทักษ์น้ำบาดาล กรมทรัพยากรน้ำบาดาล และเจ้าหน้าที่โยธา สำนักงานเขตห้วยขวาง
นายบัญชา กล่าวว่า วันนี้ตนได้นำแปลนอาคาร และเอกสารระงับการเข้าใช้อาคารดังกล่าว ซึ่งศาลปกครองออกคำสั่งไว้ตั้งแต่ปี2559 เป็นหลักฐานประกอบการแจ้งความต่อบริษัทพีเอสเอส ซึ่งเป็นผู้เช่าสถานที่ประกอบการ ในความผิดฐาน “ใช้อาคารผิดประเภท ดัดแปลงต่อเติมอาคารพักอาศัยเป็นอาคารพิณิชย์” ตาม พ.ร.บ.อาคาร และฝ่าฝืนคำสั่งเจ้าพนักงาน โดยในปี2560 เคยได้แจ้งความให้ระงับการก่อสร้างดังกล่าวไว้ ซึ่งจากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่าตัวอาคารอยู่ห่างจากเขตทางเท้าไม่ตรงตามที่กฎหมายกำหนด เช่นเดียวกับด้านหลังอาคารที่อยู่ชิดติดคลองเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด อย่างไรก็ตาม กฎหมายไม่ได้ห้ามไม่ให้เป็นสถานบริการ แต่ต้องปฏิบัติตามกฎหมายควบคุมอาคาร
นายบัญชา กล่าวว่า ทั้งนี้จากการตรวจสอบพบว่าทางบริษัทดังกล่าวได้กลับมาทำการต่อเติมอาคารอีกครั้ง ซึ่งยืนยันว่า บริษัทดังกล่าวไม่สามารถต่อเติมอาคารได้ เนื่องจากยังไม่ได้ยื่นผังการต่อเติมตัวอาคารต่อสำนักงานเขต อีกทั้งยังอยู่ในห้วงเวลาของคำสั่ง คสช. ปี2559 ที่ให้ปิดให้บริการ และระงับการใช้อาคารเป็นเวลา 5 ปี และจากการเข้าร่วมตรวจสอบพบว่ามีการดัดแปลงอาคาร หลังคาด้านหน้า กว้าง 15 เมตร และหลังคาด้านหลังมีการต่อเติมยาวไปจนถึงคลองสาธารณะ ซี่งตามกฎหมายจะต้องห่างประมาณ 3 เมตร อีกทั้งภายในอาคารที่แบ่งเป็นห้องนั้นผิดไปจากแบบที่เคยขออนุญาต เมื่อปี 2538
ด้าน พ.ต.อ.ภูริส กล่าวว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่า การก่อสร้างต่อเติมอาคารดังกล่าวเป็นการละเมิดและฝ่าฝืนคำสั่งศาลปกครอง เนื่องจากไม่ได้ขอใบอนุญาตก่อสร้าง ซึ่งขาดการต่อมา 3 ปี ตั้งแต่ปี 2559 ส่วนเรื่องของอาบอบนวดนาตาลี จะต้องตรวจสอบเส้นทางการเงินว่ามีผู้ใดเกี่ยวข้องอีกบ้าง แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยได้เนื่องจากเกรงจะกระทบกับรูปคดี
ขณะที่พ.ต.อ.รัชพล ชนะศรีขจร รอง ผบก.น.1 กล่าวว่า พนักงานสอบสวนห้วยขวาง จะรวบรวมพยานหลักฐาน ก่อนตรวจสอบข้อเท็จจริง เพื่อดำเนินคดีในความผิดตามกฎหมายอาคาร และจะเสนอเรื่องมายังกองบัญชาการตำรวจนครบาล เพื่อรายงานตามข้อเท็จจริงที่ตรวจสอบพบ ทั้งนี้ก่อนหน้านี้พบว่าสถานบริการดังกล่าวได้ยื่นขออนุญาตกับกองบัญชาการตำรวจนครบาล ย้ายชื่อสถานประกอบการมาโดยขณะขออนุญาตขณะนั้นยังไม่ได้เปิดให้บริการและยังไม่ได้มีการต่อเติมอาคาร ก่อนจะมาพบว่าได้มีการต่อเติมอาคาร จึงแจ้งสำนักงานเขตรับทราบก่อนจะเข้าร้องทุกข์ว่าเป็นการต่อเติมที่ผิดกฎหมาย ย้ำว่าทุกฝ่ายให้ความสำคัญกับคดีความที่เกี่ยวข้องกับการค้ามนุษย์และการฟอกเงิน ซึ่งต่อจากนี้ทางสำนักงานคณะกรรมการป้องกันปราบปรามการฟอกเงิน(ป.ป.ง.) จะพิจารณาเรื่องเข้ายึดทรัพย์สินหรืออาคารต่อไป
ด้านนายประโยชน์ ด่านก่อโพธิ์ ผู้อำนวยการศูนย์พิทักษ์น้ำบาดาล กรมทรัพยากรน้ำบาดาล เปิดเผยว่า ทางศูนย์พิทักษ์น้ำบาดาลได้มาร่วมตรวจสอบว่ายังมีการลักลอบใช้น้ำบาดาลหรือไม่ ซึ่งเบื้องต้นสามารถตรวจสอบได้เฉพาะภายนอก เนื่องจากตัวอาคารถูกสั่งปิดไม่ให้มีการใช้ จึงไม่สามารถเข้าไปตรวจสอบภายในได้ ซึ่งที่ผ่านมาสถานบริการดังกล่าวยังไม่เคยถูกตรวจสอบในครั้งที่มีการตรวจสอบสถานบริการทั่วกรุงเทพมหานครกว่า 80 แห่ง เมื่อช่วงต้นปี 2561 เนื่องจากขณะนั้นสถานบริการนาตาลีได้ถูกสั่งปิดไปก่อนแล้ว
รายงานข่าวแจ้งว่าบริเวณอาคารดังกล่าวมีทั้งหมด 9 คูหา โดยเมื่อปี 2559 หลังมีการสั่งปิดสถานบริการนาตาลี ได้มีการสั่งห้ามใช้อาคารจำนวน 6 คูหา