มาเลย์เซียจ่อเปิดเสรีก๊าซธรรมชาติ
หวังกระตุ้นการแข่งขันและความต้องการภายในประเทศ
นายอาดิฟ ซุลกิฟลี รองประธานบริหารและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (ซีอีโอ) ฝ่ายก๊าซและพลังงานใหม่บริษัทปิโตรนาสของรัฐบาลมาเลเซียกล่าวในงานสัมมนา “มาเลเซีย ก๊าซ ซิมโพเซียม2019” ที่จัดโดยสมาคมก๊าซธรรมชาติมาเลเซีย (เอ็มจีเอ) เมื่อเร็ว ๆ นี้ว่า ขณะนี้ มาเลเซียเหลือเพียงขั้นตอนทบทวนราคาก่อนเริ่มกำหนดราคาก๊าซธรรมชาติที่อิงกับตลาดในปีนี้
“ความเคลื่อนไหวนี้ถือเป็นตัวเปลี่ยนเกมอย่างแท้จริง เนื่องจากการปฏิรูปด้านก๊าซธรรมชาติของเรามุ่งไปที่การเปิดเสรีตลาด” นายอาดิฟ เผย
ในช่วง 2-3ปีที่ผ่านมา ตลาดก๊าซธรรมชาติของมาเลเซียอยู่ในช่วงปฏิรูป ซึ่งรวมถึงยุทธศาสตร์ทยอยลดเงินอุดหนุนของรัฐบาล ซึ่งอยู่ที่ 1.50 ริงกิตต่อ 1 ล้านบีทียูในทุก ๆ6 เดือน
เอ็มจีเอระบุว่า การปรับอัตราเงินอุดหนุนจะมีขึ้นในเดือนหน้า และคาดว่าก๊าซธรรมชาติท้องถิ่นจะสอดคล้องกับราคาตลาดโลก
“ท้ายที่สุด การเปิดเสรีตลาดก๊าซธรรมชาติที่ดำเนินอยู่ในขณะนี้จะส่งผลให้อุตสาหกรรมน้ำมันและก๊าซแข็งแกร่งและยั่งยืนขึ้น เนื่องจากราคาจะเป็นไปตามกลไกตลาด” เอ็มจีเอเผย
ขณะเดียวกัน การดำเนินการระบบส่งก๊าซธรรมชาติและสถานีก๊าซธรรมชาติเหลว (แอลเอ็นจี) แก่บุคคลที่สาม จะสนับสนุนให้มีกลุ่มใหม่เข้าสู่ตลาดก๊าซมาเลเซีย ซึ่งจะกระตุ้นการแข่งขันเพื่อผลประโยชน์ของผู้ใช้ก๊าซธรรมชาติชาวมาเลเซีย
นายอาดิฟ กล่าวว่า การเปิดเสรีตลาดจะส่งเสริมให้เกิดการแข่งขันมากขึ้นในอุตสาหกรรมอุปทานก๊าซธรรมชาติและขจัดผู้เล่นที่ไร้ประสิทธิภาพ
“มาเลเซียตั้งเป้าเพิ่มการผลิตก๊าซธรรมชาติอีก 1,000 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อวัน หรือ 12.5% ภายในปี 2568 จาก 8,000 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อวันในปัจจุบัน” นายอาดิฟเสริม และว่า “เรื่องนี้ขึ้นอยู่กับการเติบโตในความต้องการของตลาดก๊าซภายในประเทศเมื่อเราทำให้ตลาดมีความเท่าเทียม”
ข้อมูลเอ็มจีเอ ระบุว่า อุตสาหกรรมน้ำมันและก๊าซธรรมชาติของมาเลเซียเป็นตัวสร้างรายได้จากการส่งออกสูงสุดอันดับ 2 ของประเทศ อยู่ที่ 4.68 หมื่นล้านริงกิตระหว่างเดือน ม.ค.-เม.ย. 2562 ในจำนวนนี้ ก๊าซแอลเอ็นจีคิดเป็นสัดส่วน 4.9% ของการส่งออกทั้งหมดของประเทศ หรือมูลค่า 1.58 หมื่นล้านริงกิต
ปัจจุบัน มาเลเซียเป็นผู้ส่งออกก๊าซแอลเอ็นจีรายใหญ่ที่สุดอันดับ 4 ของโลก