'สามมิตร' บีบนายกฯเปลี่ยนโผครม.

ความคืบหน้าการพิจารณารายชื่อรัฐมนตรี ซึ่งวานนี้ (28 มิ.ย.) เป็นวันสุดท้ายที่สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี (สลค.) แจ้งให้ว่าที่รัฐมนตรีกรอกแบบฟอร์มประวัติและคุณสมบัติ โดยว่าที่รัฐมนตรีทั้งหมดดำเนินการกรอกประวัติไปเป็นที่เรียบร้อย สำหรับรายชื่อรัฐมนตรีล่าสุดมีรายงานว่าอาจมีการเขย่าใหม่ ประกอบด้วยนายอนุชา นาคาศัย ที่อาจหลุดตำแหน่ง รมช.คลัง โดยคงเหลือนายสันติ พร้อมพัฒน์ เป็น รมช.เพียงคนเดียว

โดยความเคลื่อนไหวภายในพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) แกนนำได้มีการหารือกันซึ่งอาจขยับนายอนุชาไปเป็น รมช.อุตสาหกรรมแทนนายเทวัญ ลิปตพัลลภ ที่ขยับไปเป็น รมต.ประจำสำนักนายกฯ หรืออาจจะไม่ได้ตำแหน่งเลย เช่นเดียวกับนายสุชาติ ชมกลิ่น ที่แต่เดิมถูกวางตัวเป็น รมว.แรงงาน ที่หลุดตำแหน่งเช่นกัน โดยในส่วนของโควตา รมว.แรงงาน ซึ่งแต่เดิมเป็นของ พปชร. ได้มีการสลับไปให้พรรครวมพลังประชาชาติไทย(รปช.) โดย ม.ร.ว.จัตุมงคล โสณกุล มานั่ง รมว.แรงงาน ส่วน รมว.การต่างประเทศ ถูกดึงกลับมาเป็นโควตาพรรค พปชร. ซึ่งผู้ใหญ่ได้ทาบทาม นายดอน ปรมัตถ์วินัย มานั่ง รมว.การต่างประเทศ อีกหนึ่งสมัย

นอกจากนี้ พปชร. ยังมีการสลับตำแหน่ง รมว.อาทิ นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาพรรคจาก รมว.อุตสาหกรรม ไปเป็นรมว.พลังงาน แทนนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ ที่ถูกโยกไปเป็น รมว.อุตสาหกรรม ส่วนนายสมศักดิ์ เทพสุทิน แม้จะถูกวางตัวให้เป็น รมว.ยุติธรรม แต่ยังมีความเป็นไปได้ที่อาจถูกสลับไปเป็นรมว.กระทรวงอื่น

ขณะเดียวกัน ยังมีรัฐมนตรีที่เป็นที่แน่ชัดแล้วว่าหลุดโผคือนายอัครา พรหมเผ่า น้องชาย ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส.พะเยา พรรคพลังประชารัฐ ซึ่งก่อนหน้านี้ถูกวางตัว รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) โดยมีการสลับ นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ จากรัฐมนตรีสำนักนายกฯนั่งรมว.ดีอี และสลับนายกอบศักดิ์ ภูตระกูล ไปนั่งรมต.สำนักนายกฯแทน

นอกจากนี้ การเคลื่อนไหวภายใน พปชร.ต่อกรณีที่นายอนุชา และนายสุชาติ จะหลุดจากตำแหน่งรัฐมนตรี ส่งผลให้กลุ่ม ส.ส.ภาคกลาง กังวลในเรื่องของการดูแลพื้นที่ และขยายฐานเสียงให้กับพรรคทำให้ ส.ส.บางส่วนมีการหารือถึงบทบาทในอนาคตว่าจะอยู่กับพรรคสู้ศึกเลือกตั้งครั้งหน้าร่วมกับพรรคต่อไปหรือไม่

โดยในส่วนของกลุ่มสามมิตร ตั้งแต่ช่วงเย็นของเมื่อวันที่ 27 มิ.ย. มีการหารือกันอยู่อย่างเคร่งเครียด ท่ามกลางกระแสข่าวความไม่พอใจต่อกรณีการสลับเก้าอี้ที่นอกจากนายอนุชาจะโดนกระทำแล้ว ยังสลับเก้าอี้ รมว.อุตสาหกรรม กับ รมว.พลังงาน ระหว่างนายสนธิรัตน์กับนายสุริยะ แกนนำกลุ่มจึงเกิดความไม่พอใจต่อกรณีดังกล่าวเป็นอย่างมากจนถึงขั้นมีการพูดถึงจุดยืนในการร่วมงานกับ พปชร.

แหล่งข่าวระดับสูงในพรรค พปชร. เปิดเผยว่า การสลับตำแหน่งนายสุริยะ จากรมว.พลังงาน ไปเป็นรมว.อุตสาหกรรม นั้นจะทำให้เกิดปัญหาและรอยร้าวภายในพรรคอย่างแน่นอน แม้จะคง 2 ตำแหน่ง คือในส่วนของนายสุริยะ และนายสมศักดิ์แต่ในขณะที่กลุ่มกปปส.มีส.ส. 10 คน ได้ 2 เก้าอี้รัฐมนตรี คือ นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ เป็น รมว.ศึกษาธิการ และนายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ เป็นรมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ขณะที่กลุ่มอื่นๆ อาทิ กลุ่มส.ส.ภาคใต้ กลุ่มส.ส.ภาคกลาง รวมถึงร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส.พะเยา ต่างก็ยอมเสียสละให้ทั้งๆ ที่มีส.ส.มากกว่า 10 คน

“สุริยะ” เดือดจี้ “ประยุทธ์” รักษาคำพูด

ทั้งนี้ กลุ่มสามมิตรโดยเฉพาะนายสุริยะ จะรอดูท่าทีของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่เป็นผู้มีอำนาจเด็ดขาดและเคยรับปากในตำแหน่ง ถือเป็นการให้สัจจะชายชาติทหาร แต่เมื่อมากลับคำพูดแบบนี้ ทางกลุ่มก็พร้อมทบทวนท่าทีการทำงานกับพรรค เพราะถือว่าไม่รักษาคำพูด

สอดคล้องกับคนใกล้ชิดนายอนุชา ที่เปิดเผยว่า เป็นไปได้ที่นายอนุชาจะผิดหวัง เพราะตลอด 1 ปีกว่าที่ผ่านมา นายอนุชาถือเป็นแกนนำคนสำคัญที่ทำงานอย่างหนักร่วมกับนายสุริยะ และนายสมศักดิ์ ตั้งแต่ในนามของกลุ่มสามมิตร ก่อนมาเป็นพรรคพปชร. อีกทั้งในช่วงหาเสียงเลือกตั้ง ก็ได้รับมอบหมายให้เป็นประธานยุทธศาสตร์การเลือกตั้งภาคกลาง รับผิดชอบงานหลายด้าน แต่กลับไม่ได้รับการเหลียวแล ทั้งที่นายกรัฐมนตรีเคยรับปากให้นายอนุชามาช่วยงานในฐานะรัฐมนตรีด้วยตัวเอง อีกทั้งยังมีการเปรียบเทียบกับการมอบเก้าอี้รัฐมนตรีให้พรรคร่วมรัฐบาลบางพรรคที่มีเพียง 3 ที่นั่งด้วย

“อนุชา” เชื่อมั่นคำสัญญาชายชาติทหาร

นายอนุชาออกมาเปิดเผยว่า ตนยังไม่เชื่อว่าทั้งหมดนั้นเป็นความจริงตามข่าวที่เกิดขึ้น เพราะเมื่อวันที่ 11 มิ.ย.พล.อ.ประยุทธ์ ได้รับปากกับนายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรค พปชร.ว่า โผครม.ที่ตกลงกันในส่วนของโควตาพรรค ที่ตนได้รมช.คลัง นายสุริยะ เป็นรมว.พลังงาน และบุคคลในพรรคที่จัดโควตาไว้ให้เป็นไปตามนั้น ขออย่าเปลี่ยนแปลงอีก

“ผมคิดว่าท่านนายกฯเป็นชายชาติทหารและเป็นคนรักษาคำพูด จะไม่ผิดคำพูดแน่นอน และยึดเอามาตรฐานเมื่อวันที่ 11 มิ.ย.เป็นหลัก เพราะทุกคนที่ได้รับแจ้งในวันนั้นก็ยังมั่นใจในคำพูดของนายกฯเช่นกัน” นายอนุชากล่าว

โดยในวันนี้ (29 มิ.ย.) เวลา 10.00 น. นายอนุชานัดสื่อมวลชนแถลงข่าว ณ ที่ทำการพรรคพลังประชารัฐ

“สุชาติ” โอดชวดรมต.กระทบฐานเสียง

ด้านนายสุชาติกล่าวยอมรับว่า ยังไม่ได้รับการประสาน ให้เข้ากรอกเอกสารใดๆ เบื้องต้นเชื่อว่าตนเองก็อาจจะไม่ได้ตำแหน่งรมว.แรงงาน ส่วนตัวเชื่อว่าปัญหาน่าจะมาจากการเกลี่ยเก้าอี้รัฐมนตรีใหม่ ซึ่งเข้าใจว่าเป็นความหนักใจของนายกรัฐมนตรี แต่เป็นห่วงสถานการณ์ทางการเมือง

“จากการประชุม ส.ส.ภาคกลางเมื่อวานนี้ ผมคิดว่าการเลือกตั้งครั้งหน้าอย่าว่าแต่จะได้ส.ส.ภาคกลางเพิ่มขึ้นเลย จะเหลือจำนวน 15 คน เท่าเดิมหรือไม่ก็ยังไม่ทราบ เนื่องจาก ส.ส.ภาคกลาง ก็คาดหวังว่าจะได้มีตัวแทนไปเป็นรัฐมนตรีเช่นเดียวกับภาคอื่นๆ และผมไม่เห็นด้วยที่คณะรัฐมนตรีชุดใหม่จะมีนักวิชาการมากมาย เพราะวันนี้ทุกอย่างต้องสู้กันด้วยการเมือง” นายสุชาติ กล่าว

สำหรับส.ส.ภาคกลางในกลุ่มนายสุชาติ มีจำนวน 16 คน ประกอบด้วย ชลบุรี 3 คน เพชรบุรี 3 คน กาญจนบุรี 4 คน ฉะเชิงเทรา 2 คน สมุทรปราการ 1 คน สระบุรี 1 คน ระยอง 1 คน และนครปฐม 1 คน

“อัครา” จ่อลงนายกฯอบจ.พะเยา

ขณะที่นายอัครา กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ตนได้ส่งเอกสารและประวัติส่วนตัวไปที่ทำเนียบรัฐบาลตั้งแต่วันที่27มิ.ย. แต่ล่าสุดได้ตัดสินใจประสานงานกับผู้ใหญ่ในพรรค เพื่อขอไม่รับตำแหน่งรัฐมนตรี โดยส่วนตนต้องการสานต่อการทำงานในพื้นที่ โดยเฉพาะการลงสมัครรับเลือกตั้งนายกฯ อบจ.พะเยามากกว่า ซึ่งเรื่องนี้ ร.อ.ธรรมนัส ก็ได้รับทราบและยอมรับการตัดสินใจของตนเองแล้ว

ด้านนายเทวัญ เปิดเผยว่า ตนได้รับแจ้งเมื่อวันที่ 27 มิ.ย.ให้เข้ามากรอกประวัติ ส่วนเรื่องของตำแหน่งยังไม่ทราบว่าจะได้ตำแหน่งใด ส่วนที่หลายคนแปลกใจว่าพรรคชาติพัฒนา(ชพน.)มี ส.ส.แค่ 3 ที่นั่ง แต่ได้โควตารับมนตรีเป็นข้อตกลงเดิมที่คุยกันไว้นานแล้ว

“วิษณุ” ปัดตอบหวนเก้าอี้รองนายกฯ

นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ปฏิเสธตอบคำถามกรณีมีชื่อในครม.ชุดใหม่ โดยระบุเพียงว่า “ไม่ทราบ ผมยังไม่กล้าตอบอย่างนั้น เอาน่ะ เดี๋ยวจะกลายเป็นผมเล่นตัว ไม่ใช่อย่างนั้น มันยังไม่ควรที่จะพูดอะไร"
ด้านนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ มีส่วนของพรรคได้ส่งแบบฟอร์มเรายละเอียดเรียบร้อยแล้วโดยรายชื่อของว่าที่รัฐมนตรีของพรรคไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงใดๆ ส่วนนายสาธิต ปิตุเตชะ ส.ส.ระยอง ในฐานะว่าที่รมช.สาธารณสุข ที่ถูกร้องว่าถือครองหุ้นสื่อเห็นว่าการที่กรอกคุณสมบัติไป ก็แปลว่ามั่นใจในคุณสมบัติของตัวเองว่าเป็นไปตามรัฐธรรมนูญ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าบรรยากาศวันสุดท้ายของการยื่นกรอกประวัติ บรรดาว่าที่รัฐมนตรีได้ทยอยส่งเอกสารอย่างต่อเนื่อง อาทิ นายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรคพปชร.ว่าที่รมว.คลัง นายสุวิทย์ เมษินทรีย์ ว่าที่รมว.การอุดมฯ นายณัฎฐพล ว่าที่รมว.ศึกษาธิการ นายพุทธิพงษ์ ว่าที่รมว.ดีอี นายสันติ ว่าที่รมช.คลัง เช่นเดียวกับนายวีรศักดิ์ หวังศุภกิจ ว่าที่รมช.พาณิชย์ เป็นต้น

โดยนายณัฏฐพล กล่าวว่าตนจะได้รับตำแหน่งใดนั้น ก็ยังไม่ทราบ ถ้าเลือกได้ ก็อยากทำอะไรที่เกี่ยวกับการศึกษา เนื่องจากคิดว่าพอมีประสบการณ์มาบ้าง ส่วนกระแสข่าวว่าพล.อ.ประยุทธ์ จะไปนั่งหัวหน้าพรรค พปชร.เรื่องนี้ยังไม่มีความชัดเจนใดๆ