RISE เปิดคอร์สพลิกมายด์เซ็ตซีอีโอสร้าง Intrapreneur
สถาบันเร่งสปีดนวัตกรรมฯ รับสมัครผู้บริหารระดับสูงในไทยและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เข้าคอร์สอบรมเชิงปฏิบัติการเรียนรู้เทคนิคการสร้าง “ผู้ประกอบการในองค์กร” ผ่านหลักสูตรร่วมพัฒนา Stanford Graduate School of Business มหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ดในสหรัฐ
นายแพทย์ศุภชัย ปาจริยานนท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและผู้ก่อตั้งสถาบันเร่งสปีดนวัตกรรมองค์กร (RISE) กล่าวว่า เป็นครั้งแรกที่ Stanford Graduate School of Business สถาบันการศึกษาที่เป็นอันดับหนึ่งในการสร้างนวัตกรของโลกมาแล้วมากมาย จะนำหลักสูตรนวัตกรรมองค์กรสำหรับผู้บริหารระดับสูงมาเปิดสอนในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เพื่อให้ผู้บริหารสามารถวางกลยุทธ์และสร้างทักษะของผู้นำระดับโลก และพร้อมสร้างการเปลี่ยนแปลงรับคลื่นนวัตกรรมที่ถาโถมเข้าใส่
หลักสูตร Executive Corporation Innovation เหมาะกับผู้นำและผู้บริหารองค์กรที่ต้องการสร้างนวัตกรรมองค์กรให้เกิดขึ้นจริง ตั้งเป้าผู้เรียนระดับผู้บริหาร 60 คนในไทยและเอเชีย โดยมีความร่วมมือกับรัฐบาล 20 ประเทศให้ช่วยโปรโมทหลักสูตร ซึ่งมีหลายประเทศแสดงความสนใจเข้ามาแล้ว โดยจะอบรมระหว่างวันที่ 27-29 ส.ค.นี้ ในประเทศไทย ค่าลงทะเบียน 12,500 ดอลลาร์ วิทยากรโดยบุคลากรระดับศาสตราจารย์จากสแตนฟอร์ด 3 คน ได้แก่ 1.Yossi Feinberg ศาสตราจารย์เกียรติคุณด้านการจัดการและเศรษฐศาสตร์ และยังเป็นผู้อำนวยการสถาบัน Stanford Ignite ซึ่งเปิดรับผู้เรียนพียง 30 คนจากผู้สมัคร 5,000 คน
2.Baba Shiv ศาสตราจารย์ด้านการตลาด ที่มีงานเขียนมากมายด้านเศรษฐศาสตร์เชิงประสาทวิทยาเพื่อศึกษาและพัฒนาด้านนวัตกรรม เป็นผู้สอนคอร์สที่ Stanford GSB และสถาบันออกแบบ Hasso Plattner มีประสบการณ์การสอนผู้บริหารทั่วโลกในเรื่องการวางกลยุทธ์และการเป็นผู้นำที่สร้างนวัตกรรมในองค์กร 3.Jonathan Levav ศาสตราจารย์ด้านการตลาดที่สถาบันบัณฑิตศึกษา บริหารธุรกิจ มีงานวิจัยที่โดดเด่นคือ การตัดสินใจและทางเลือกของผู้บริโภคโดยใช้เครื่องมือทดสอบทางจิตวิทยา คณาจารย์ทั้ง 3 คนนี้จะให้ความรู้ที่ผ่านงานค้นคว้าวิจัย เคสตัวอย่างและเวิร์คชอปที่ให้ลงมือทำ โดยผู้เรียนจะได้รับประกาศนียบัตรจาก Stanford GSB หลังจบหลักสูตร
“สิ่งที่อยากให้ผู้บริหารทุกท่านได้กลับไปก็คือ สามารถเข้าถึงปัญหาและก้าวข้ามความท้าทายในการสร้างนวัตกรรมองค์กร โดยเฉพาะองค์กรที่อยู่มานาน มีโอกาสได้สร้างสกิลใหม่ๆ ที่จำเป็น รวมถึงการวางโครงสร้างสำหรับการสร้างนวัตกรรมองค์กร ไม่ว่าจะเป็น การวางกลยุทธ์ การระดมไอเดีย การพัฒนาสินค้าและบริการ กลยุทธ์การตลาด ความเป็นผู้นำและการสร้างวัฒนธรรมองค์กร เพื่อขับเคลื่อนนวัตกรรมองค์กรภาพใหญ่ และสิ่งสำคัญคือ การได้สร้างเครือข่ายผู้บริหารระดับภูมิภาคอีกด้วย”
“โปรแกรม Executive Corporation Innovation ที่จะจัด ส.ค.นี้ เป็น 1 ใน 4 กรอบภารกิจหลักของ RISE เป้าหมายเพื่อสร้างอิมแพคให้กับประเทศและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เราเชื่อว่าการที่จะเคลื่อนประเทศไปได้นั้น หากจะปั้นสตาร์ทอัพต้องใช้เวลาอีกหลายปี แต่ถ้าเปลี่ยนภาคธุรกิจให้ดิสรัป แล้วนำสตาร์ทอัพมาทำงานด้วย ผลที่เกิดขึ้นคือ การจ้างงานเพิ่มขึ้น มีรายได้เพิ่มขึ้นและจีดีพีเพิ่มขึ้นด้วย พลิกมุมต่างจากที่หน่วยงานส่วนใหญ่ทำซึ่งล้วนมุ่งสร้างสตาร์ทอัพเป็นหลัก” นายแพทย์ศุภชัย กล่าว
ก่อนหน้านี้ นายแพทย์ศุภชัยได้ประกาศเป้าหมายที่ชัดเจนของสถาบัน RISE ในการขับเคลื่อนการเติบโตของภาคเศรษฐกิจอีก 1% ให้กับจีดีพีของไทยและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ผ่านกรอบการทำงาน 4 ด้าน คือ 1. การทำโปรแกรมค้นหาสตาร์ทอัพทั่วโลกเข้ามาช่วยแก้โจทย์ปัญหาให้กับองค์กร โดย RISE เป็นแอคเซอเลอเรเตอร์ใหญ่สุดในภูมิภาคนี้ มีเครือข่ายสตาร์ทอัพกว่า 1,000 รายใน 30 ประเทศทั่วโลก 2. Intrapreneuruniversity โดยช่วยองค์กรขนาดใหญ่สร้างและเลี่ยนบุคลากรให้เป็นผู้ประกอบการภายในองค์กร ผลงาน 3 ปีที่ผ่านมาได้ฝึกอบรมทั้ง ซีอีโอ บอร์ด ผู้บริหารระดับสูงรวมถึงคนเก่งๆ ที่เป็นหัวกะทิไปแล้วกว่า 2,000 คน ผลลัพธ์คือองค์กรขนาดใหญ่ 6 รายได้ธุรกิจใหม่หรือแตกบริษัทลูกจากที่ไม่มีไอเดียมาก่อน 3. Venture Builder กองทุนอยู่ที่ซิลิคอนวัลเลย์ในสหรัฐมุ่งลงทุนทั่วโลกเพื่อค้นหาสตาร์ทอัพที่จะมาเป็นเครือข่าย และ 4. Experien ซึ่งเมื่อ มี.ค.ที่ผ่านมาเพิ่งจัดงาน Corporate InnovationSummit 2019 งานสัมมนารูปแบบใหม่ครั้งแรกในเอเชียที่เน้นการได้ลงมือทดลองปฏิบัติจริง เพื่อให้เปลี่ยนมายด์เซต เรียนรู้ทักษะและเครื่องมือใหม่ๆ จากซีอีโอและผู้บริหารกว่า 35 ประเทศในการเปลี่ยนแปลงบริษัท