'สุดารัตน์' ย้ำปรับโครงสร้างกรรมการบริหารครั้งใหญ่ ต้องผสมผสานคน 3 รุ่น
“สุดารัตน์”ย้ำปรับโครงสร้างกรรมการบริหารครั้งใหญ่ ต้องผสมผสานคน 3 รุ่น ผนึกกำลังรับความเปลี่ยนแปลงโลก ชี้ “สมพงษ์อมรวิวัฒน์” เหมาะนั่งหัวหน้าพรรค รับมีความเห็นเเตกต่าง แต่เป้าหมายเดียวกัน
คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานยุทธศาสตร์เลือกตั้งพรรคเพื่อไทย กล่าวระหว่างลงพื้นที่พบปะพูดคุยปัญหาด้านการเกษตร กับกลุ่มเกษตรกร โรงเรียนวัดเกาะแก้ว ต.ดงน้อย อ.ราชสาส์น จ.ฉะเชิงเทรา กรณีที่มีกระแสข่าวมีชื่อของตนเองเป็นประธานพรรคเพื่อไทยว่า จากเงื่อนไขของรัฐธรรมนูญหลายอย่างทำให้การทำงานของพรรคการเมืองยากลำบากมากขึ้น และต้องปรับตัว พรรคจึงต้องเตรียมพร้อมที่จะรับมือกับความท้าทายที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะผู้นำฝ่ายค้านที่ต้องมาจาก ส.ส.
การปรับตัวนั้นมีเหตุผลหลักคือ เพื่อรองรับความท้าทายกลไกรัฐธรรมนูญที่บิดเบี้ยว ใช้อำนาจรัฐโดยไม่ละอายค่อความยุติธรรมความถูกต้อง ปรับตัวรับความท้าทายด้านเศรษฐกิจในภาวะเศรษฐกิจที่มีปัญหาทั้งในประเทศ ที่พบว่ากำลังซื้อตกต่ำ เกษตรกรย่ำแย่ และนอกประเทศที่โลกกำลังเผชิญกับสงครามการค้า ซึ่งไทยไม่เคยมีเครื่องมือรองรับเรื่องนี้เลย พรรคเพื่อไทยจึงต้องปรับตัวเพื่อให้พรรคเป็นเครื่องมือในการแก้ไขปัญหาให้ประชาชนอย่างมีประสิทธิภาพ และสอดรับกับโลกยุคใหม่.
ทั้งนี้การปรับโครงสร้างดังกล่าวจะมีการดึงเอาคนรุ่นใหม่เข้ามาทำงานกับคนรุ่นเก่ามากขึ้นหรือไม่นั้น คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวว่า พท.มีสัดส่วนคนทำงานระหว่างคนรุ่นเก่า รุ่นกลาง และรุ่นใหม่ที่เหมาะสม พรรคจะพยายามผสมผสานเเละดึงศักยภาพของคนทั้ง 3 รุ่นเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด
“เพื่อไทยมีคนรุ่นใหญ่ ที่มากด้วยประสบการณ์ มีคนรุ่นกลางที่รู้เท่าทันโลกซึ่งจะเป็นสะพานเชื่อมกับคนรุ่นใหม่ที่เข้ามาพร้อมกับความคิดใหม่ๆ และรู้เท่าทันเทคโนโลยี”
สำหรับนายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ เเละ นาวาอากาศเอกนายอนุดิษฐ์ นาครทรรพ ที่มีชื่อจะขึ้นเป็นหัวหน้าพรรคและเลขาธิการพรรคนั้น คุณหญิงสุดารัตน์กล่าวว่า ทุกอย่างขึ้นอยู่กับที่ประชุมพรรคจะเป็นคนเลือก ในวันที่ 12 ก.ค.นี้ แต่ส่วนตัวเห็นว่า นายสมพงษ์ มีความเหมาะสมที่จะเป็นหัวหน้าพรรคเช่นเดียวกับตำแหน่งเลขาธิการพรรค ขณะที่ตำแหน่งอื่นๆ พรรคยังไม่ได้ลงรายละเอียด แต่สิ่งสำคัญคือปรับโครงสร้างเพื่อรองรับความท้าทายและให้เกิดความคล่องตัวและมีประสิทธิภาพ ให้มีโอกาสพัฒนาศักยภาพของพรรค เป็นเครื่องมือที่ทรงอานุภาพ ที่จะแก้ไขปัญหาให้กับประชาชนและตรวจสอบรัฐบาล
คุณหญิงสุดารัตน์ ยังกล่าวถึง แรงกระเพื่อมที่อาจจะเกิดขึ้นระหว่างปรับโครงสร้างผู้บริหารพรรคครั้งนี้ว่า วันนี้คนในพรรคทุกคนมองเป้าหมายตรงกัน แม้จะมีความคิดเห็นและมุมมองต่างกันในรายละเอียดอยู่บ้าง โดยพร้อมทำหน้าที่ฝ่านค้านซึ่งเป็นกระบอกเสียงให้ประชาชน ตรวจสอบและผลักดันให้รัฐบาลแก้ปัญหาให้ตรงจุด เพราะตลอด 5 ปีที่ผ่านมาประเทศไม่มีผู้แทน ปัญหาจึงไม่ได้รับการแก้ไข รวมถึงการแก้ไขรัฐธรรมนูญซึ่งถือเป็นเป้าหมายหลัก หลังการจัดทัพและองคาพยพในพรรคเรียบร้อยแล้ว ทุกอย่างจะเดินหน้าอย่างเต็มที่