กรมป่าไม้ เตรียมตรวจสอบการถือครองที่ดินบน 'ม่อนแจ่ม'
กรมป่าไม้ เตรียมตรวจสอบการถือครองที่ดินบน “ม่อนแจ่ม” ดอยชื่อดังจังหวัดเชียงใหม่
นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมป่าไม้ เปิดเผยว่า กรมป่าไม้ ได้ตั้งคณะทำงานตรวจสอบการถือครองที่ดินในพื้นที่ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงหนองหอย ต.โป่งแยง และ ต.แม่แรม อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ หรือดอยม่อนแจ่ม ที่กำลังได้รับความนิยมในหมู่นักท่องเที่ยว เพื่อตรวจสอบข้อมูลข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการครอบครองพื้นที่
โดยทางกรมฯ ได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่ออกสำรวจแปลงที่ดินที่มีการก่อสร้างอาคารที่พัก รีสอร์ท ที่อยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ป่าแม่ริม พร้อมทั้งบันทึกข้อมูลและเก็บรายละเอียดค่าพิกัดดาวเทียม (GPS) เพื่อนำมาเปรียบเทียบกับฐานข้อมูลการถือครองพื้นที่ที่มีอยู่ เช่น ภาพถ่ายทางอากาศ ภาพถ่ายดาวเทียม และหลักฐานอื่นๆ ประกอบ เพื่อจัดทำฐานข้อมูลให้เป็นปัจจุบันมากที่สุด ตรงกับข้อเท็จจริงในพื้นที่
นายอรรถพลกล่าวว่า พื้นที่ป่าบริเวณบนดอยม่อนแจ่ม มีสภาพอากาศที่เย็นสบายตลอดทั้งปี และมีวิวทิวทัศน์ที่นักท่องเที่ยวสามารถชื่นชมกับบรรยากาศได้รอบทิศทาง ดังนั้น พื้นที่ดังกล่าวจึงเป็นที่สนใจของกลุ่มนายทุนที่ต้องการเข้ามาถือครองเพื่อใช้ประโยชน์เพิ่มขึ้น ส่งผลให้สภาพพื้นที่ดังกล่าวกำลังประสบปัญหาคล้ายภูทับเบิก จ.เพชรบูรณ์ ทำให้กรมป่าไม้ ต้องเร่งเข้าดำเนินการแก้ไข
ขอบคุณภาพ กรมป่าไม้
โดยเมื่อวันที่ 26 มิถุนายน ที่ผ่านมา ทางกรมป่าไม้ได้เชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อประชุมเร่งรัดติดตามการแก้ไขปัญหาประชาชนบุกรุกพื้นที่ดอยม่อนแจ่ม โดยมีเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง เจ้าหน้าที่กรมป่าไม้ เจ้าหน้าที่กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช และเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการพิเศษพยัคฆ์ไพร เข้าร่วมหารือพร้อมทั้งกำหนดมาตรการแนวทางในการแก้ปัญหา
นายอรรถพล กล่าวต่อว่า เพื่อให้การดำเนินการแก้ไขปัญหาเป็นไปตามระเบียบข้อกฎหมาย และนโยบายของรัฐบาลด้านการจัดที่ดินทำกิน หรือ คทช. จึงมีดำริให้มีการตั้งคณะทำงานตรวจสอบการถือครองที่ดินขึ้น โดยจะดำเนินการแบ่งกลุ่มประชาชนที่อยู่อาศัยในพื้นที่ป่าออกเป็น 4 กลุ่ม คือ
1. ผู้ที่อาศัยในพื้นที่ป่าและเข้าร่วมโครงการกับศูนย์พัฒนาโครงการหลวงหนองหอย ซึ่งดำเนินการสำรวจตั้งแต่ปี 2546 ประมาณ 200 ราย เนื้อที่รวม 112 ไร่ ให้นำหลักฐานข้อมูลเกี่ยวกับรูปแปลงและรายชื่อการถือครองที่เคยจัดทำไว้แล้วมาประกอบการพิจารณาขออนุญาตตามมาตรา 19 พรบ.ป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ. 2507 และที่แก้ไขเพิ่มเติม
2. ผู้ที่อยู่อาศัยทำกินในพื้นที่ป่าก่อนมติ ครม. 30 มิ.ย. 41 ให้อนุญาตการอยู่อาศัยทำกินให้ตามหลักเกณฑ์
3. ผู้ที่อยู่อาศัยทำกินช่วงนะหว่างหลังมติ ครม. 30 มิ.ย. 41 และก่อน 17 มิ.ย. 57 (คำสั่ง คสช.66/2557) ให้ดำเนินการอนุญาตการอยู่อาศัยทำกินให้กับผู้ยากไร้ แต่ในส่วนของนายทุนให้ดำเนินคดีทั้งหมด
4. ผู้ที่อยู่อาศัยทำกินหลัง 17 มิ.ย. 57 (คำสั่ง คสช.66/2557) ต้องดำเนินคดีกับทุกกลุ่ม
ทั้งนี้ นายอรรถพลได้มอบหมายให้ชุดพยัคฆ์ไพรนำทีมลงพื้นที่ม่อนแจ่มเพื่อดำเนินคดีกับกลุ่มนายทุนเป็นอันดับแรก และจัดทีมเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่เพื่อสร้างความเข้าใจกับประชาชนถึงหลักเกณฑ์ในการดำเนินการกับผู้ที่อยู่อาศัยในเขตป่าทั้งหมด
ขอบคุณภาพ กรมป่าไม้