'วัฒนา' ลั่นฟ้องแน่ มือตัดต่อคำให้การพยาน
“วัฒนา” ลั่นรู้ตัวคนตัดต่อคำให้การพยานบ้านเอื้ออาทร ฟ้องแน่ รอลุ้นผลการไต่สวนของศาล ห่วงคดี “ยิ่งลักษณ์” เอกสาร 6 หมื่นแผ่น ถูกยัดไส้
เมื่อวันที่ 13 ก.ค.62 เวลา 10.00 น. นายวัฒนา เมืองสุข สมาชิกพรรคเพื่อไทย อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พ.ม.) แถลงข่าวกรณียื่นคำร้องต่อศาล ขอให้ไต่สวนบันทึกคำให้การของพยาน 2 ราย ในคดีทุจริตโครงการบ้านเอื้ออาทรคือนายพิทยา เจริญวรรณ กับนายพรศักดิ์ บุณโยดม ในชั้นคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) ถูกตัดตอนข้อความของพยานในสาระสำคัญ จึงขอให้ศาลไต่สวนหาตัวผู้กระทำ โดยเฉพาะคำให้การของพรศักดิ์จำนวน 23 แผ่น ซึ่งปรากฎว่าเอกสารตั้งแต่แผ่นที่ 15-22 พยานไม่ได้เซ็นชื่อกำกับ เป็นไปไม่ได้ที่จะเกิดจากพยานหลงลืม น่าเชื่อว่าเอกสารต้นฉบับถูกดึงออกทั้งปึ้กแล้ว นำรายละเอียดอื่นมาตัดต่อใส่ไว้แทน นอกจากนี้ในคำให้การของนายพิทยา เจริญวรรณ ซึ่งให้การยืนยันว่า รมว.พม.ไม่เคยเข้ามาสั่งการหรือแทรกแซงโครงการบ้านเอื้ออาทร ไม่ได้กำหนดทีโออาร์ตามอำเภอใจ อีกทั้งทีโออาร์บ้านเอื้ออาทรก็ยังใช้อยู่แม้บ้านเมืองผ่านการปฏิวัติมาแล้วถึง 2 ครั้ง ซึ่งรายละเอียดดังกล่าวถูกตัดออก จงใจไม่นำเสนอในชั้นศาล
นายวัฒนา กล่าวอีกว่า บันทึกคำให้การของพยานในชั้นคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) และ คตส. เจ้าพนักงานไม่มีสิทธิไปแต่งคำให้การ สาระสำคัญในคำให้การต้องคงเดิม เมื่อมีการตัดทอน ต่อเติมข้อความที่พิสูจน์ความบริสุทธิ์ของตนแล้วปล่อยให้คลุมเครือ ซึ่งเป็นความผิดฐานปลอมแปลงเอกสารราชการ และเป็นเจ้าพนักงานในกระบวนการยุติธรรมกระทำการหรือไม่กระทำการให้ผู้หนึ่งผู้ใดต้องรับโทษหรือไม่ได้รับโทษ ตนจึงขอให้ศาลไต่สวน โดยศาลสั่งให้อัยการส่งคำคัดค้านภายในวันที่ 18 ก.ค.นี้ เมื่อทราบตัวผู้กระทำตนจะยื่นฟ้องและดำเนินคดีให้ถึงที่สุด
“ที่ผ่านมาการตรวจสอบป.ป.ช.ทำได้ยาก ทำให้ป.ป.ช.วางตัวเป็นเทวดา เมื่อศาลฎีกามีมติแล้วว่าบุคคลธรรมดาสามารถฟ้องป.ป.ช.ได้ จะทำให้ป.ป.ช.ระวังตัวมากขึ้น คดีของผมเป็นเรื่องการเมือง ผมถูกลากมาศาลเพราะการเมือง ป.ป.ช.เป็นพนักงานสอบสวนต้องรู้ว่าอะไรเป็นจุดเป็นจุดตายในคดี เอกสารในชั้นป.ป.ช.มีเป็นหมื่นแผ่น ถ้าผมไม่เป็นทนายความก็คงตรวจไม่พบความผิดปกติ จึงเป็นห่วงไปถึงคดีของน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ซึ่งมีเอกสารมากกว่า 6 หมื่นแผ่น และเป็นการพิจารณาคดีลับหลังจำเลย หากมีการยัดไส้เอกสารคงยากต่อการจรวจสอบ” นายวัฒนากล่าว