ตำรวจทางหลวงนครปฐม สกัดจับหนุ่มปลอมทะเบียนรถ พบประวัติอุฉกรรจ์อื้อ
ตำรวจทางหลวงนครปฐม สกัดจับหนุ่มวัย 35 ปี ปลอมทะเบียนรถ พบประวัติอุฉกรรจ์อื้อ
เมื่อวันที่ 20 ก.ค. พล.ต.ต.ชัช สุกแก้วณรงค์ ผบก.ทล. ได้สั่งการให้ พ.ต.อ.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบก.ทล. พ.ต.อ.ธนนท์ โตงิ้ว ผกก.2 บก.ทล. และ พ.ต.ต.กฤตย์ ธีรเวศย์สุวรรณ สว.ส.ทล.1 กก.2 บก.ทล.(นครปฐม) ร่วมกันนำกำลัง ตำรวจ กก.2บก.ทล. จับกุมนายปราโมทย์ หรืออิ๊ก ดวงดารา อายุ 35 ปี พร้อมของกลาง รถยนต์ฮอนด้าแอคคดอร์ดสีเทา จำนวน 1 คัน ป้ายทะเบียนปลอมหน้า หลังทะเบียน ฎน 2137 กรุงเทพมหานคร จำนวน 2 แผ่น ป้ายเสียภาษีประจำปีปลอม จำนวน 1 แผ่น และสมุดคู่มือประจำรถปลอม จำนวน 1 เล่ม โดยสามารถจับกุมได้ที่บริเวณถนนเพชรเกษม กม.56 ขาออก ต.ห้วยจระเข้ อ.เมือง จ.นครปฐม
การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจาก ทาง พล.ต.ต.ชัช ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงทำการสืบสวนติดตามรถยนต์ฮอนด้าแอคคอร์ด สีเทา ซึ่งใช้ทะเบียนปลอม ฎน 2137 กรุงเทพมหานคร โดยหมายเลขทะเบียนดังกล่าว เป็นทะเบียนรถยนต์ของผู้เสียหายที่แท้จริง และได้รับความเสียหายจากการที่โดนใบสั่งความเร็วกว่า จำนวน 9 ใบ โดยไม่ได้เป็นผู้กระทำความผิด จนได้มาร้องทุกข์ต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ
ต่อมาทาง พ.ต.ต.กฤตย์ จึงได้วางแผนดักสกัดโดยให้ ตำรวจ ส.ทล.1 กก.2 บก.ทล.(นครปฐม)ใช้รถวิทยุออกตรวจบริเวณถนนบรมราชชนนี และถนนเพชรเกษมอย่างเคร่งครัด จนกระทั่งพบรถยนต์ฮอนด้าแอคคอร์ดคันดังกล่าวขับแล่นมาบริเวณถนนเพชรเกษม กม.56 ขาออก ต.ห้วยจระเข้ อ.เมือง จ.นครปฐม จึงเรียกให้หยุดจอด พบนายปราโมทย์ หรืออิ๊ก เป็นผู้ขับขี่ พร้อมเพื่อนอีก 2 คนโดยสารมาด้วยกัน เมื่อทำการตรวจสอบประวัตินายปราโมทย์ พบคดีอุจฉกรรจ์ ไม่ว่าจะเป็นคดี “ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา,พยายามฆ่าผู้อื่นฯ,ปล้นทรัพย์ ,พ.ร.บ.อาวุธปืน และเครื่องกระสุนปืน.” ตลอดจนตรวจพบป้ายทะเบียนปลอมจำนวน 2 แผ่นหน้า-หลังรถยนต์ หนำซ้ำจากการตรวจสอบพบว่ารถยนต์คันดังกล่าวใช้ป้ายเสียภาษีประจำปี และสมุดคู่มือประจำรถปลอม จึงควบคุมตัวไว้สอบสวนที่ ส.ทล.1 กก.2 บก.ทล.(นครปฐม)
สอบสวนนายปราโมทย์ หรืออิ๊ก ให้การภาคเสธ พร้อมทั้งอ้างว่ารถยนต์คันนี้ตนยืมเพื่อนต่อมาอีกที ไม่ได้เป็นเจ้าของรถคันดังกล่าว และไม่ได้ปลอมเอกสารราชการ เพียงแต่นำรถของเพื่อนมาใช้อีกทีเท่านั้น อย่างไรก็ตามทางตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อต้องทำการสอบสวนอย่างละเอียดอีกครั้ง ก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองนครปฐมเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป