ผลพิสูจน์ชัดสาวแม่ลูกอ่อน ตายเพราะยาลดอ้วน ผสม 'ไซบูทรามีน'
ผลการตรวจพิสูจน์ศพ สาวแม่ลูกอ่อน ที่รับประทนยาลดความอ้วนเสียชีวิต ที่จังหวัดอ่างทอง พบมีสารประกอบยาอันตรายถึง 4 ชนิด โดยเฉพาะ ไซบูรทามีน
กรณีการเสียชีวิตของ น.ส.มรกต เจริญกิจ อายุ 30 ปี สาวแม่ลูกอ่อน ชาว อ.วิเศษชัยชาญ จ.อ่างทอง หลังกินยาลดความอ้วนที่สั่งซื้อจากคลินิกออนไลน์ กระทั่งเกิดอาการผิดปกตินำส่ง รพ.อ่างทอง และเสียชีวิต โดยหมอระบุสาเหตุหัวใจเต้นผิดจังหวะจากการกินยา กระทั่งเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง จ.กาฬสินธุ์ นำกำลังพร้อมหมายศาลจังหวัดกาฬสินธุ์ เลขที่ 131/2562 เข้าตรวจค้นบ้านเลขที่ 65 หมู่ที่ 7 ต.สงเปลือย อ.นามน จ.กาฬสินธุ์ เป็นบ้านหลังใหญ่สุดหรูและมีโรงงาน ซึ่งหน้าบ้านติดป้าย“บริษัท ดี.ดี.คอสเมด จำกัด” มี นางวสภัสสร สุลำนาจ อายุ 52 ปี เจ้าของบริษัท ดี.ดี.คอสเมด จำกัด ซึ่งเป็นเจ้าของโรงงานผลิตยาลดความอ้วนและอาหารเสริมปลอม หลังสืบทราบเป็นแหล่งผลิตและโกดังขนาดใหญ่เก็บยาลดความอ้วน ตรวจค้นพบยาหลากชนิดหลายยี่ห้อ ทั้งแบบเม็ด ผง และแคปซูลกว่า 10 ล้านเม็ด และอุปกรณ์การผลิตจำนวนมาก พร้อมพบร่องรอยการเผาทำลายหลักฐานทิ้งไปจำนวนมาก โดยมีความผิด พ.ร.บ.โรงงาน ตั้งโรงงานโดยไม่ได้รับอนุญาต ประกอบกิจการโรงงานโดยไม่ได้รับอนุญาต และจำหน่ายวัตถุออกฤทธิ์ต่อประสาทประเภท 2 โดยไม่ได้รับอนุญาต ผลิตยาปลอม ผลิตอาหารปลอม ทำลายพยานหลักฐาน นั้น
เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 20 กรกฎาคม ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตา รองผบ.ตร. พร้อมด้วยพล.ต.ต.ธนิต จิรนันท์ธวัช นายแพทย์ (สบ 6) รพ.ตร. นายแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านอายุรกรรม พ.ต.อ.ปกรณ์ วะศินรัตน์ นายแพทย์(สบ 5) กลุ่มงานนิติพยาธิ สถาบันนิติเวชวิทยา รพ.ตำรวจ พ.ต.ท.หญิงภัทรมณ ยงพานิช เภสัชกร(สบ 2) กลุ่มงานพิษวิทยา สถาบันนิติเวชวิทยา รพ.ตำรวจ ภก.ประพนธ์ อางตระกูล ที่ปรึกษาสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา ภญ.ณปภา ศุภศิริกฤตกุล เภสัชกรเชี่ยวชาญด้านวัตถุเสพติด กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ร่วมกันแถลงผลการตรวจหาสารไซบูทรามีนในยาลดความอ้วนและผลชันสูตรกรณีสาว จ.อ่างทอง กินแล้วเสียชีวิต พร้อมทั้งขยายผลจับกุมผู้ต้องหาในขบวนการขายยาลดความอ้วนมรณะเพิ่มเติม โดยมีพ่อแม่ สามี และครอบครัวของผู้เสียชีวิตเข้าร่วมรับฟังการแถลง
พล.ต.อ.วิระชัย กล่าวว่า เรื่องทางคดีขณะนี้ อยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อขอศาลออกหมายจับบุคคลที่เกี่ยวข้อง โดยแยกออกเป็น 3 กลุ่ม คือ 1.คดีที่มีผู้ปลอมปนเสริมอาหารจนเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตายใน จ.อ่างทอง มีความผิดตาม ม.238 พ.ร.บ.อาหาร มีโทษสูงสุดจำคุกตลอดชีวิต 2.ผู้ที่นำสารอันตรายเข้ามาผลิตและจำหน่าย มีโทษจำคุก 5 - 20 ปี ตาม พ.ร.บ.วัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตประสาท ซึ่งพบว่าโอบีแคร์คลีนิก ได้จ่ายยาให้คนไข้ไปแล้วกว่า 5,619 ราย โดยเอาผิดผู้เกี่ยวข้องทั้งหมด ส่วนที่ 3.ผู้ที่เกี่ยวข้องกับโรงงานผลิตยาใน จ.กาฬสินธุ์ หากมีส่วนเกี่ยวข้องก็จะถูกดำเนินคดีเช่นกัน ทั้งนี้ บางรายอาจจะมีความผิดทั้ง 3 กลุ่ม ขึ้นอยู่กับพฤติการณ์ อย่างไรก็ตาม ก่อนจับกุมเครือข่ายยาลดความอ้วนยี่ห้อลินน์ ครั้งใหญ่ในปี 2561 ทราบจากกลุ่มผู้ค้าว่าเคยมีลูกค้าสูงถึง 30-40 รายต่อวัน แต่ภายหลังการจับกุมเหลือเพียงไม่ถึง 10 รายต่อวันเท่านั้น
พล.ต.อ.วิระชัย กล่าวต่อว่า สำหรับการเยียวยาให้ผู้เสียหายจะเป็นไปตามข้อกฎหมาย โดยทางตำรวจจะเสนอไปยังกระทรวงยุติธรรมให้มอบเงินเยียวยากรณีที่ผู้เสียชีวิตเป็นบุคคลที่ได้รับความเสียหายจากคดีอาญาโดยไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง รวมถึงค่าเลี้ยงดูบุตร และค่าจัดงานศพ รวมทั้งหมดไม่เกิน 2 แสนบาท
พล.ต.อ.วิระชัย กล่าวอีกด้วยว่า สำหรับการขยายผลจับกุมผู้ต้องหาในขบวนการขายยาลดความอ้วนมรณะสามารถจับกุมผู้ร่วมขบวนการได้เพิ่มเติมโดย เมื่อวันที่ 18 ก.ค. เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนได้เข้าจับกุมตัวนายกฤชกร หรือต่อ บุตรวิเศษ อายุ 36 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลจังหวัดกาฬสินธุ์ เลขที่ จ.152 / 2562 ซึ่งเป็นแฟนหนุ่มของนางวสภัสสร เจ้าของโรงงานได้ที่หน้าโกดังบ้านเลขที่ ม.204 ต.สงเปลือย อ.นามน จ.กาฬสินธุ์ พร้อมเข้าจับกุมนายธนกร เลิศสงคราม อายุ 26 ปี ลูกชายนางวสภัสสร ซึ่งเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดกาฬสินธุ์ ที่ จ.153/2562 ได้ที่หน้าร้านโรมัน เรสเตอรอง ถนนบ้านกอก หมู่ที่ 19 ถนนบ้านกอก ต.บ้านเป็ด อ.เมือง จ.ขอนแก่น นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ได้จับกุมน.ส.จิณณะ นิชคุณมั่น หรือหมอเดียร์ อายุ 31 ปี อดีตเภสัชกร เจ้าของคลินิกโอบีแคร์ซึ่งเป็นลูกสาวของนางวสภัสสร โดยเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลจังหวัดกาฬสินธุ์ที่ จ 154/2562 ในข้อหา “1.ร่วมกันผลิตและขายยาแผนปัจจุบันโดยไม่ได้รับอนุญาต 2.ร่วมกันตั้งโรงงานและประกิจการโรงงานโดยไม่ได้รับอนุญาต 3.ร่วมกันก่อสร้างอาคารโดยไม่ได้รับอนุญาต 4.ร่วมกันผลิตและจำหน่ายอาหารปลอมโดยไม่ได้รับอนุญาต 5.ร่วมกันผลิต มีไว้ในความครอบครองเพื่อขายและขายวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตประสาทประเภท1 (ไซบูตามีน) โดยไม่ได้รับอนุญาต” เมื่อวันที่ 19 กรกฎาคมที่ผ่านมา
ส่วนรายงานผลการตรวจศพน.ส.มรกต เจริญกิจ มีสาเหตุการเสียชีวิตเนื่องจากระบบไหลเวียนโลหิตล้มเหลว สันนิษฐานหัวใจเต้นผิดจังหวะ โดยผลการตรวจวิเคราะห์สารพิษและยาเสพติดในตัวอย่างอาหารในกระเพราะตรวจสอบพบ “Fluoxetine” , Paracetamol, Amiodarone, Diazepam รายงานผลการตรวจวิเคราะห์สารพิษและยาเสพติดในตัวอย่างน้ำดี ตรวจพบ “metabolite” ของ sibutramine, “Fluoxetine” , Paracetamol, Amiodarone, Diazepam และ metabolite
พล.ต.ต.ธนิต กล่าวว่า ภายหลังสถาบันนิติเวชฯ รับร่างผู้เสียชีวิตเข้ามาตรวจหาสาเหตุการตายตั้งแต่วันที่ 6 กรกฎาคมที่ผ่านมา เบื้องต้น พบว่าผู้ตายมีภาวะบวมน้ำในปอดและไขมันพอกตับ แต่เมื่อตรวจโดยวิธีพิษวิทยาพบว่ามีสารไซบูทำมีนที่เป็นปัจจัยหลักทำให้เกิดอาการหัวใจเต้นผิดจังหวะ โดยอาการปอดบวมน้ำ เกิดจากเลือดในปอดไหลกลับเข้าสู่หัวใจไม่ได้ เพราะหัวใจล้มเหลวไม่สามารถปั๊มเลือดไปเลี้ยงร่างกายได้ ขณะที่ตับซึ่งทำหน้าที่สลายยาจะทำให้สารพิษกระจายสู่ร่างกายและถุงน้ำดี ทำให้พบสารพิษสะสมในจุดดังกล่าว ซึ่งชี้ว่าผู้ตายได้รับยาเหล่านี้มานานพอสมควร
พล.ต.ต.ธนิต กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ยังพบว่า คลินิกดังกล่าวได้จัดยาชุดที่ออกฤทธิ์ เพื่อเร่งให้เห็นผลของยาลดความอ้วนเร็วขึ้น คือ 1.ฟลูออกซิทิน ที่จะระงับความหิวแต่เมื่อใช้คู่กับไซบูทรามีน จะทำให้เกิดอาการ “ไซบูทรามีนซินโดรม” ทำให้ผู้รับประทานเกิดอาการกล้ามเนื้อเกร็งชักกระตุก นำไปสู่ใจเต้นผิดจังหวะจนถึงขั้นหมดสติได้ 2.ไฮโดรคลอไรด์ไทอะไซด์ เป็นยาขับปัสสาวะ จะทำให้เห็นผลการลดน้ำหนักระยะสั้นด้วยการขับน้ำและเกลือแร่ออกจากร่างกายจนทำให้เกิดความผิดปกติส่งผลให้โพแทสเซียมต่ำและมีผลต่อการเต้นของหัวใจ 3.ยาระบาย และ 4.ยานอนหลับ ที่จะลดอาการท้องผูกของไซบูทรามีน และช่วยให้หลับสบายขึ้น
พล.ต.ต.ธนิต กล่าวอีกว่า นับตั้งแต่ปี 2553 สารไซบูทรามีนถูกเพิกถอนห้ามจำหน่ายและจัดเป็นวัตถุอันตราย ซึ่งมีผลวิจัยจากนานาประเทศยืนยัน โดยยังมีผู้ลักลอบนำเข้ามาผสมในผลิตภัณฑ์ยาลดความอ้วนต่างๆ ซึ่งหากรับประทานเข้าไปจะเห็นผลข้างเคียงใน 4 สัปดาห์ ผู้ทานจะรู้สึกใจสั่น ความดันเลือดสูง ท้องผูกและกระสับกระส่าย เสี่ยงต่ออันตรายเฉียบพลันเกี่ยวกับระบบเลือด
ภญ.ณปภา กล่าวว่า ยาลดความอ้วนที่ผู้เสียชีวิตรับประทานได้นำส่งสำนักยาและวัตถุเสพติด กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุขตรวจทดสอบ 7 ชนิด มีผลการตรวจสอบพบ ไซบูทรามีน 1 ชนิด เป็นวัตถุออกฤทธิ์ประเภท1 (ลำดับที่ 20 ) ตามความในพ.ร.บ.วัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท พ.ศ.2559, ฟูลออกซิทีน 2 ชนิด เป็นยาจำพวกสงบประสาท จัดเป็นยาแผนปัจจุบันประเภทยาอันตราย ตามประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่องยาอันตราย ข้อ 3(28), บิซาโคดิล 2 ชนิด เป็นยาระบาย และไฮโดรคลอไรด์ไทอะไซด์ เป็นยาจำพวกขับปัสสาวะ จัดเป็นยาแผนปัจจุบัน ประเภทยาอันตราย และอีก 1 รายการไม่พบว่าเป็นยาแผนปัจจุบันคาดว่าจะเป็นยาแผนโบราณไม่ทราบชนิด
ภญ.ณปภา กล่าวว่า สำหรับของกลางจากการตรวจค้นในจ.กาฬสินธุ์ ที่อยู่ในกระทะเป็นผงละเอียดสีขาวบรรจุถุงพลาสติกไม่มีสี น้ำหนัก 682 กรัม ผงละเอียดสีขาว แบ่งบรรจุในถุงพลาสติกไม่มีสี ชนิดผนึกได้ในถุงพลาสติกสีทองจำนวน 6 ถุง น้ำหนัก 6,069 กรัม ตรวจพบไซบูทรามีน ส่วนของกลางที่ตรวจยึดได้จากบ้านเช่าในพื้นที่สภ.สวนพริกไทยที่เป็นผู้ส่งยาไปให้ผู้ตาย เป็นวัตถุสีดำบรรจุในหม้ออลูมิเนียม 1 ใบ น้ำหนัก 2.675 กิโลกรัม ตรวจพบไซบูทรามีน ฟลูออกซิทีน บิซาโคดิล
ด้าน ภก.ประพนธ์ กล่าวฝากเตือนไปยังประชาชนที่ต้องการลดน้ำหนัก ควรปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการบริโภคให้บริโภคให้เพียงพอ ลดอาหารจำพวกไขมัน นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ และออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ หากจะต้องรับประทานยาควรได้รับการดูแลได้รับการแนะนำที่ถูกต้องจากเภสัชกร หรือแพทย์ เพราะการสั่งยาออนไลน์ อาจไม่ถูกกับโรค ต้องมีผู้เชี่ยวชาญแนะนำ หากใช้ผิดวิธีและผิดขนาดจะอันตรายถึงชีวิต
ด้านญาติผู้เสียชีวิต กล่าวขอบคุณเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด พร้อมระบุว่าการจับกุมครั้งนี้ขยายผลกวาดล้างผู้เกี่ยวข้องทั้งขบวนการ และขอให้เรื่องภรรยาตนเป็นอุทาหรณ์ ทั้งนี้ เคยเห็นภรรยาสั่งซื้อยาผ่านอินเตอร์เน็ต แต่มาทราบอีกครั้งก็เข้าโรงพยาบาลแล้ว จึงยังไม่ทันได้ห้าม