นักธุรกิจร้องปคบ. ฟันเจ้าของโครงการคอนโดหรู คดีฉ้อโกงเสียหาย 30 ล้าน
"วิภาค ทองเทพ" นักธุรกิจอสังหาฯ ร้อง "ปคบ." ดำเนินคดีกับเจ้าของโครงการสร้างคอนโดหรูกับพวก คดีฉ้อโกงเสียหายกว่า 30 ล้าน
ที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (บก.ปคบ.) เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 30 กรกฎาคม นายอนันต์ชัย ไชยเดช ทนายความ พร้อมนายวิภาค ทองเทพ อายุ 41 ปี นักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ผู้เสียหาย เข้าแจ้งความร้องทุกข์ดำเนินคดีกับนางสาว ส. และคณะกรรมการทุกคนของบริษัทก่อสร้างอสังหาริมทรัพย์ชื่อดัง รวม 9 คน ในข้อหาร่วมกันแจ้งความเท็จ แจ้งให้เจ้าพนักงานจดข้อความอันเป็นเท็จ , ฉ้อโกงประชาชน ,นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน ต่อพนักงานสอบสวน บก.ปคบ.
นายวิภาค กล่าวว่า เมื่อต้นปี 2557 ได้ตกลงซื้อห้องดังกล่าวจากนางสาว ส. ในราคา 2 ล้าน 6 แสนบาท โดยทางคอนโดโฆษณาไว้ว่าห้องดังกล่าวไว้เปิดเป็นสำนักงาน หรือทำธุรกิจเชิงพาณิชย์ ไม่สามารถพักอาศัยได้ และลักษณะที่ตั้งของห้องเป็นกระจกรอบด้าน รวมทั้งเข้าออกได้ทางเดียว ซึ่งนางสาว ส. ยืนยันว่าห้องนี้เป็นสำนักงานขายเก่าของคอนโด แต่เมื่อถึงเวลาโอนห้อง ผู้ขายอ้างว่าติดขัดเรื่องการโอน จึงขอเช่าห้องและตกแต่งห้องทำธุรกิจไปก่อน จนถึงเวลาซื้อขาย ผู้ขายขอขึ้นราคาห้องเป็น 3 ล้านบาท จึงจำเป็นต้องตัดสินใจซื้อ เพราะลงทุนตกแต่งห้องไปแล้วกว่า 1 ล้านบาท หลังจากนั้นได้ดำเนินธุรกิจไปได้ประมาณ 3 ปี นิติบุคคลก็ได้มีคำสั่งให้ยุติกิจการในห้องดังกล่าว และนำแบบแปลนการก่อสร้างที่อ้างว่าห้องดังกล่าวสร้างเป็นที่พักอาศัยไม่ใช่เพื่อตั้งสำนักงาน ทำให้ต้องปิดบริษัท สร้างความเสียหายไปกว่า 30 ล้านบาท ซึ่งคดีนี้อยู่ระหว่างการดำเนินคดีอยู่ในศาลแพ่ง
ขณะที่นายอนันตชัย เปิดเผยว่า หลังได้รับการร้องเรียนจากผู้เสียหาย ก็ได้ไปสืบค้นเอกสารทั้งหมดจากทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับที่พักอาศัยนี้ พบว่าเอกสารการโฆษณาของคอนโด ประกาศขายเป็นห้องประกอบธุรกิจ และยื่นเอกสารกับกรมที่ดินว่าเป็นห้องประกอบการพาณิชย์เช่นกัน มีเพียงแบบพิมพ์เขียวที่จะต้องส่งรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม หรือ อีไอเอ ที่ระบุห้องดังกล่าวเป็นที่พักอาศัย เนื่องจากจะได้ลดขั้นตอนรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อม หลังจากนี้ก็จะไปยื่นเรื่องต่อสำนักการโยธา ให้ระงับการใช้และรื้อถอนอาคาร เนื่องจากแบบแปลนที่รายงานต่อหน่วยงานรัฐคลาดเคลื่อนจากความเป็นจริง และให้ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ระงับการซื้อขายหุ้นของบริษัทเจ้าของโครงการด้วย