"อังคณา-เตือนใจ" แจงเหตุลาออก ทิ้งเก้าอี้ก่อนครบวาระแค่ 2 เดือน อ้างบรรยากาศ-ระบบงานไม่เอื้ออำนวย ออกระเบียบเคร่งครัดห้ามให้ข่าว ห้ามตั้งคนนอกนั่งอนุกรรมการช่วยงาน ทำกสม.เงียบสนิท ฐานลอยจากประชาชน
นางอังคณา นีละไพจิตร พร้อมด้วยนางเตือนใจ ดีเทศน์ กรรมการสิทธิมนุษยชน เปิดแถลงข่าวกรณีการยื่นหนังสือลาออกจาก กสม. โดยให้มีผลในวันนี้ (31 ก.ค.) ตั้งแต่เวลา 09.30 น. เป็นต้นไป โดยนางเตือนใจ กล่าวว่า เหตุผลในการลาออกเนื่องบรรยากาศและระบบการทำงานไม่เอื้ออำนวย ให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ แม้จะเหลือเวลาดำรงตำแหน่งอีกแค่ 2 เดือนก็ตาม โดยงานในความรับผิดชอบ ก็ได้จัดทำเสร็จแล้ว ในส่วนของ กสม.ชุดใหม่นั้น คณะกรรมการสรรหากสม.ชุดใหม่ ได้นัดสัมภาษณ์ผู้สมัคร ในวันที่ 2-3 ส.ค.นี้ เมื่อคัดเลือกได้ครบ 4 คน จะมีการเสนอวุฒิสภาให้พิจารณาได้ คาดว่าจะใช้เวลาอีกไม่นาน
นับแต่รัฐธรรมนูญปี 2560 และ พ.ร.ป.ว่าด้วย กสม.ฉบับใหม่ ใช้บังคับ มีการกำหนดให้ กสม.สามารถตั้งอนุกรรมการได้ เท่าที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ นำไปสู่การตีความว่าไม่ควรมีการตั้งคณะอนุกรรมการเลยเพราะอาจขัดต่อกฎหมาย โดยให้แต่งตั้งเจ้าหน้าที่ของ กสม.ให้เป็นผู้ดำเนินการตรวจสอบทำให้ความเชื่อมโยงกับภาคประชาสังคม และเครือข่ายวิชาการต่างๆ ลดลง อย่างต่อเนื่อง เรื่องร้องเรียนก็ลดลง หลายเรื่องที่มีการร้องเรียน ซึ่งต้องผ่านคณะกรรมการกลั่นกรอง ก็จะไม่รับเป็นคำร้องเสียมากกว่า ทำให้คิดว่าการทำงานของ กสม.ลอยจากฐานของประชาชน อีกทั้งการออกระเบียบเพื่อรองรับกฎหมายใหม่ ทำให้รู้สึกว่าการทำงานของเราไม่เป็นอิสระ ไม่เป็นองค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญ การลงพื้นที่เมื่อก่อนเราจะแจ้งสื่อเพื่อเป็นการเปิดประเด็นว่าเราจะทำเรื่องอะไร แต่เมื่อมีมติของกสม.เรื่องแนวปฏิบัติการให้ข่าว การแจ้งสื่อก็ทำไม่ได้ ทำให้หลังปลายปี 61 ต่อเนื่องปี 62 การทำงานของกสม.ก็จะเงียบมาก นางเตือนใจกล่าว
ด้านนางอังคณา กล่าวว่า ภายหลัง พ.ร.ป.ว่าด้วย กสม.ประกาศใช้ กสม.ออกระเบียบที่ค่อนข้างเคร่งครัด ทำให้ปฏิบัติหน้าที่ได้ยาก การให้ข่าวซึ่งเป็นเสรีภาพในการแสดงความเห็นของกรรมการก็ถูกจำกัด ทำให้อึดอัด ตนไม่ได้อยากเป็นข่าว แต่ให้ข่าวเพื่อพูดแทนผู้เดือดร้อน
เรา 2 คนไม่ใช่คนแรกที่ลาออกจาก กสม. ก่อนหน้านี้ นพ.สุรเชษฐ์ สถิตนิรามัย ลาออกด้วยเหตุคล้ายคลึงกัน คือ การบริหารงาน ไม่ได้เป็นไปอย่างสร้างสรรค์ และเมื่อ 2 เดือนที่ผ่านมานายชาติชาย สุทธิกลม ได้ลาออกเพื่อไปดำรงตำแหน่งกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ ( ป.ป.ท.) เราคิดเรื่องนี้มานานแล้ว ไม่ใช่งอนแล้วตัดสินใจลาออก ความคาดหวังจากประชาชนทำให้เราต้องแบกรับ จนมาถึงวันหนึ่งที่เราคิดว่า ไม่สามารถจะปฏิบัติหน้าที่ต่อไปได้และการหยุดปฏิบัติหน้าที่หน้าจะเป็นประโยชน์มากกว่า นางอังคณากล่าว