'พาณิชย์' ชี้สงครามการค้าระลอกใหม่กระทบไทยเล็กน้อย
"พาณิชย์" นำกรณีสหรัฐขึ้นภาษีจีน10% สำหรับสินค้า 3,812 รายการถก กรอ. 14 ส.ค.นี้ พร้อมชี้กระทบไทยไม่มากเหตุเป็นสินค้านำเข้าโดยสุทธิรับห่วงทำบรรยากาศการค้าโลกซบ
นางสาวพิมพ์ชนก วอนขอพร ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า(สนค.) กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยถึงกรณี สหรัฐตรียมขึ้นภาษีล๊อตใหม่อีก 10% มีจำนวน 3,812 รายการ ในวันที่ 1 ก.ย. 62 นั้น ส่วนใหญ่เป็นสินค้าอุปโภค และบริโภคนั้น ประเมินว่าผลกระทบมีไม่มากนักเมื่อเทียบกับมาตรการที่ผ่านมา และบางส่วนเป็นสินค้าที่ไทยมีการนำเข้าสุทธิในปี 2561 และ 2562 ทั้งนี้ กระทรวงพาณิชย์ จะติดตามและเฝ้าระวังผลกระทบผ่านห่วงโซ่อุปทาน โดยเฉพาะสินค้าในกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์อย่างใกล้ชิด
อย่างไรก็ตามสิ่งที่ต้องติดต่ออย่างใกล้ชิดคือ การตอบโต้กันระหว่างสหรัฐฯ และจีน เป็นทั้งโอกาสและความท้าทายของประเทศที่พึ่งพาการส่งออกเช่นไทย โดยรัฐบาลและกระทรวงพาณิชย์มิได้นิ่งนอนใจ ซึ่งในการประชุมคณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชน (กรอ. พาณิชย์) ในวันที่ 14 ส.ค. 62 จะมีการหารือในประเด็นนี้ด้วย โดยกระทรวงพาณิชย์
ได้เตรียมแนวทางการรับมือไว้ เช่น ทำแผนรุกตลาดในสินค้าศักยภาพลงลึก และเร่งการพัฒนาการส่งออกผ่านออนไลน์ (e-commerce) เตรียมข้อมูลเรื่อง non-tariff measures ที่เป็นอุปสรรคสำคัญที่ควรเร่งเจรจา เร่งผลักดันการค้าชายแดนที่มีศักยภาพในการขยายตัว
"ผลกระทบจากสงครามการค้าไม่ได้กระทบไทยเพียงประเทศเดียว แต่ส่งผลไปทั่วโลก อาจทำให้ปริมาณการค้าโลกหดตัว รวมทั้งส่งผลต่อตลาดเงิน ตลาดทุน และราคาน้ำมัน ที่มีการตอบสนองทันทีหลังปธน. ทรัมป์ทวีตประกาศการขึ้นภาษีตอบโต้ครั้งล่าสุด"นางสาวพิมพ์ชนก กล่าว
นอกจากนี้ กระทรวงพาณิชย์ยังได้ติดตามสถานการณ์การนำเข้าอย่างใกล้ชิดในกลุ่มสินค้าสำคัญ ได้แก่ เหล็กกล้าและผลิตภัณฑ์ฯ อะลูมิเนียม เครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ เสื้อผ้า รองเท้า และผลิตภัณฑ์สิ่งทออื่น ๆ เครื่องจักรไฟฟ้าฯ ทองแดง และเคมีภัณฑ์ เพื่อป้องกันการสินค้าไหลเข้ามาไทยเป็นจำนวนมากจากมาตรการภาษีระหว่างสหรัฐฯและจีนที่อาจส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมในประเทศและผู้บริโภค ซึ่งยังไม่พบการนำเข้าที่ผิดปกติในช่วงที่ผ่านมา