จีนแจ้งปรับลดการระบายน้ำเขื่อนจิ่งหงอีกระลอก 11-15 ส.ค.นี้
จีนแจ้งคณะกรรมาธิการแม่น้ำโขงและสำนักทรัพยากรน้ำแห่งชาติของไทย โดย สทนช. ได้ประเมินสถานการณ์ พร้อมแจ้งผู้ว่าฯ จังหวัดริมโขง และหน่วยเกี่ยวข้องติดตามสถานการณ์ใกล้ชิด เพื่อเตรียมพร้อมรับมือผลกระทบล่วงหน้า
นายสมเกียรติ ประจำวงษ์ เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) เปิดเผยวันนี้ว่า ทางการจีนได้แจ้งฝ่ายไทยเรื่องการปรับลดการระบายน้ำของเขื่อนจิ่งหง ทางตอนบนของแม่น้ำโขงในช่วงระหว่างวันที่ 11-15 สิงหาคมนี้ โดย กระทรวงทรัพยากรน้ำ สาธารณรัฐประชาชนจีนได้มีหนังสือถึงสทนช. ในฐานะสำนักเลขาธิการคณะกรรมาธิการแม่น้ำโขงฝ่ายไทย ลงวันที่ 5 สิงหาคม 2562 เรื่อง แจ้งข้อมูลการดำเนินงานของโรงไฟฟ้าพลังน้ำจิ่งหง ที่จะเริ่มปรับลดการระบายน้ำจาก 1,100 ลูกบาศก์เมตร/วินาที เป็น 600-800 ลูกบาศก์เมตร/วินาที ตั้งแต่วันที่ 11 - 15 สิงหาคม 2562
ทั้งนี้ ได้ให้เหตุผลว่า เพื่อดำเนินการบำรุงรักษาสายส่งไฟฟ้าโรงผลิตพลังน้ำในช่วงเวลาดังกล่าว และหลังจากนั้นจะปรับเพิ่มการระบายน้ำจนกลับเข้าสู่สถานะการทำงานปกติ
ในขณะเดียวกัน คณะกรรมาธิการแม่น้ำโขง (Mekong River Comission) ได้ออกเอกสารข่าวบนเวบไซต์วันนี้ แจ้งถึงการแจ้งข่าวในเรื่องนี้ของจีนที่อาจส่งผลต่อระดับน้ำที่จะลดลงทางแม่นำ้โขงตอนล่าง ราว 25-45 เซนติเมตร อาทิ ณ สถานีเชียงแสน จังหวัดเชียงราย ระดับน้ำอาจลดระดับตำ่ลงราว 30 เซนติเมตรในวันที่ 13
โดยทาง MRC คาดหวังว่าฝนในช่วงวันที่ 14 เป็นต้นไปจะช่วยลดผลกระทบที่จะเกิดขึ้น
ทาง สทนช.ได้เตรียมออกหนังสือแจ้งอย่างเป็นทางการไปยังกระทรวงมหาดไทย ผู้ว่าราชการ 8 จังหวัดริมแม่น้ำโขง ได้แก่ จ.เชียงราย เลย นครพนม หนองคาย มุกดาหาร บึงกาฬ อำนาจเจริญ และอุบลราชธานี กรมทรัพยากรน้ำ กรมเจ้าท่า กรมประมง และกรรมการลุ่มน้ำโขงเหนือ กรรมการลุ่มน้ำโขงอีสานโดยด่วนแล้ว เพื่อรับทราบสถานการณ์พร้อมทั้งประเมินผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้นและเตรียมมาตรการรับมือล่วงหน้า
อย่างไรก็ตาม สทนช.จะมีการติดตามและประเมินสถานการณ์อย่างใกล้ชิด นายสมเกียรติกล่าว
การเตรียมระบายน้ำของเขื่อนจิ่งหงที่สร้างบนแม่น้ำโขงตอนบนในเขตเมืองเชียงรุ่ง มณฑลยูนนานของประเทศจีนครั้งนี้ นับเป็นครั้งที่สองในรอบปี หลังจากมีการแจ้งและปรับลดการระบายน้ำเมื่อต้นเดือนที่แล้วในปริมาณที่ไล่เลี่ยกัน ส่งผลให้ระดับน้ำทางแม่น้ำโขงตอนล่างลดตำ่ลงและมีความผันผวน จนเกิดเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวาง และมีการตั้งคำถามถึงการกำกับดูแลการใช้แม่น้ำโขงอย่างยั่งยืนในภูมิภาค
อย่างไรก็ดี ยังไม่มีทางออกที่เป็นรูปธรรมในเวลานี้ แม้จะมีการเรียกร้องจากภาคประชาชนให้มีการแก้ไขอย่างเป็นรูปธรรม ทั้งนี้ ส่วนหนึ่งมาจากการขาดกลไกทางกฎหมายระหว่างประเทศที่ผูกมัดประเทศที่เกี่ยวข้องกับการใช้แม่น้ำโขงรวมทั้งประเทศจีน
สำหรับสถานการณ์แม่น้ำโขงในปัจจุบัน ณ วันที่ 6 ส.ค. 2562 สทนช.ระบุว่า ระดับน้ำในสถานีวัดน้ำท่าต่างๆ ยังอยู่ในเกณฑ์น้อย และต่ำกว่าระดับตลิ่งในทุกสถานี โดยสถานีจิ่งหง สาธารณรัฐประชาชนจีน ระดับน้ำลดลง 0.02 เมตร เมื่อเทียบกับวานนี้ (5 ส.ค.62) โดยต่ำกว่าตลิ่ง 13.61 เมตร และแนวโน้มทรงตัว
ส่วนสถานีหลวงพระบาง สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ระดับน้ำลดลง 1.35 เมตร ต่ำกว่าตลิ่ง 8.29 เมตร และแนวโน้มทรงตัว
ในส่วนของประเทศไทย ที่สถานีเชียงแสน จ.เชียงราย ที่แม่น้ำโขงไหลผ่าน ระดับน้ำเพิ่มขึ้น 0.14 เมตร ต่ำกว่าตลิ่ง 9.9 เมตร และแนวโน้มทรงตัว ในขณะที่สถานีเชียงคาน จ.เลย ที่แม่น้ำโขงวกเข้าประเทศไทยอีกครั้ง ระดับน้ำเพิ่มขึ้น 2.26 เมตร ต่ำกว่าตลิ่ง 6.74 เมตร และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น
สำหรับสถานการณ์โดยรวม MRC กล่าวว่า ระดับน้ำในแม่น้ำโขงในขณะนี้ค่อยๆเพิ่มขึ้นอย่างช้าๆ อันเนื่องมาจากฝนในช่วงอาทิตย์สุดท้ายของเดือน ก.ค. ส่งผลให้ระดับน้ำโดยเฉลี่ยในช่วงต้นเดือนสิงหาคมเพิ่มสูงขึ้นมาราว 1.50 เมตร แต่ก็ยังไม่มีจุดไหนแตะค่าเฉลี่ยระยะยาวแต่อย่างใด
ภาพ การระบายน้ำ ณ เขื่อนจิ่งหง ประเทศจีน/ เครดิต: MRC