สิงคโปร์เริ่มแบนขายงาช้างปี 64
สิงคโปร์เล็งบังคับใช้คำสั่งห้ามการขายงาช้างและผลิตภัณฑ์จากช้างอื่น ๆ ภายในประเทศตั้งแต่ปี 2564ในขณะที่รัฐบาลยกระดับการรณรงค์ต่อต้านการค้าสัตว์ป่าผิดกฎหมาย
คณะกรรมการอุทยานแห่งชาติของสิงคโปร์ ประกาศวานนี้ (12 ส.ค.) สั่งห้ามการขายงาช้างและผลิตภัณฑ์จากช้างโดยมีผลตั้งแต่วันที่ 1 ก.ย. 2564 เป็นต้นไป ผู้ฝ่าฝืนเผชิญโทษจำคุกสูงสุด 1 ปีและปรับตามคำตัดสิน และระบุว่า ผู้ค้าสามารถส่งมอบงาช้างให้กับสถาบันต่าง ๆ เพื่อเก็บรักษางาช้างหลังจากคำสั่งห้ามนี้มีผลบังคับใช้
ประกาศเนื่องในวันช้างโลกนี้ มีขึ้นหลังจากรัฐบาลสิงคโปร์ปรึกษาหารือกับกลุ่มนอกภาครัฐต่าง ๆ ผู้ค้าปลักงาช้างและสาธารณชนมานาน 2 ปี
หน่วยงานต่าง ๆ ของสิงคโปร์ทำการยึดงาช้างผิดกฎหมายครั้งใหญ่ที่สุดเมื่อเดือนที่แล้ว เป็นงาช้างผิดกฎหมายเกือบ 9 ตันจากช้างแอฟริกา 300 ตัว มูลค่า 12.9 ล้านดอลลาร์
สินค้าผิดกฎหมายนี้ถูกพบในตู้คอนเทนเนอร์จากสาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโกที่กำลังถูกส่งไปเวียดนามผ่านสิงคโปร์ และยังมีเกล็ดตัวนิ่มจำนวนมาก แม้ว่าสิงคโปร์ออกคำสั่งห้ามการค้าขายผลิตภัณฑ์งาช้างระหว่างประเทศทุกรูปแบบตั้งแต่ปี 2533
ผลิตภัณฑ์งาช้างสามารถขายได้ภายในประเทศ หากผู้ค้าสามารถพิสูจน์ได้ว่าถูกนำเข้ามาก่อนปีดังกล่าว หรือได้มาก่อนการเพิ่มช้างสายพันธุ์ที่กำหนดลงในอนุสัญญาคุ้มครองสายพันธุ์ช้างระหว่างประเทศ
ผลการสำรวจความคิดเห็นประชาชนของรัฐบาลเมื่อปีที่แล้ว พบว่า 99%ของผู้ถูกสำรวจเห็นด้วยกับการห้ามซื้อขายทุกประเภท
งาช้างเป็นที่ต้องการสูง เนื่องจากสามารถแปรรูปเป็นสิ่งของต่าง ๆ เช่น หวี สร้อยคอ และเครื่องประดับอื่น ๆ
การค้าขายงาช้างทั่วโลกกลายเป็นสิ่งผิดกฎหมายตั้งแต่ปี 2532หลังจากประชากรช้างแอฟริกาลดลงจากหลายล้านตัวในช่วงกลางศตวรรษที่ 20 เหลือเพียงราว 6 แสนตัวในช่วงปลายทศวรรษที่80