นายกฯ ยืนยันมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ระยะสั้น
นายกฯ ยืนยันมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ระยะสั้น เชื่อจะส่งผลดี 2 ไตรมาสสุดท้าย ชี้เปิดสถานการบริหารถึงตี 4 หวั่นกระทบสังคม
นางสาวนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ เปิดเผยว่า พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม กล่าวถึงกระแสวิพากษ์วิจารณ์ที่กล่าวหาว่า มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลไม่สามารถแก้ปัญหาได้จริงนั้น
นายกฯขอชี้แจงว่า เรื่องนี้ต้องศึกษาเนื้อหาของชุดมาตรการกันให้ละเอียด ขอความร่วมมือสื่อมวลชนอย่านำเสนอกันแค่ว่า ครม.นำเสนอมาตรการออกไปเท่านั้น แต่ขอให้ร่วมกันนำเสนอข้อมูลรายละเอียดของชุดมาตรการด้วย ซึ่งครอบคลุมหลายภาคส่วนและประชากรส่วนใหญ่ของประเทศ
อย่างไรก็ตาม ชุดมาตรการนี้เป็นเพียงการกระตุ้นการแก้ปัญหาระยะสั้น แต่การแก้ปัญหาระยะยาว จะต้องมีการปฎิรูปโครงสร้างเศรษฐกิจ ปรับเปลี่ยนรูปแบบการทำธุรกิจ วิธีคิดและวิธีการทำงาน ไปพร้อมๆกัน ส่วนการช่วยเหลือเกษตรกร รัฐบาลไม่ได้ช่วยเหลือชาวนาเพียงอย่างเดียว แต่จะมีการช่วยเรื่องปาล์มน้ำมัน และยางพาราตามมาอีก โดยมาตรการที่ทำมาทั้งหมด ต้องการพยุงให้ตัวเลขจีดีพีปรับตัวสูงขึ้นในช่วงไตรมาสที่ 3-4 เพราะกว่าที่รัฐบาลจะได้ใช้งบประมาณประจำปี 2563 ก็คาดว่าจะเกิดขึ้นในช่วงปีหน้า
ทั้งนี้มาตรการขับเคลื่อนเศรษฐกิจต้องเป็นรายไตรมาส หากช่วงไหนเศรษฐกิจตกต่ำ ต้องเข้าไปดูว่ารัฐบาลจะทำอะไรได้บ้าง บางอย่างก็ต้องคิดทบทวนให้ละเอียด เช่น ฟรีวีซ่า ที่มีผลกระทบหลายด้าน แม้ว่ากระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาจะเตือนว่าหากไม่ดำเนินมาตรการ อาจทำให้จำนวนนักท่องเที่ยวลดลง แต่ครม.ก็ได้พิจารณากันอย่างรอบคอบถึงผลดีผลเสียในทุกมิติ ตั้งแต่ความมั่นคง ความพร้อมของสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐาน ผลกระทบต่อทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เมื่อพิจารณารอบด้านแล้ว จึงไม่เห็นชอบข้อเสนอดังกล่าว และรัฐบาลก็คงต้องหามาตรการเสริมอย่างอื่นเข้าไปแทนอีกต่อไป เช่นเดียวกับข้อเสนอให้เปิดสถานบันเทิงได้ถึงตีสี่ ก็ต้องไปทบทวนดูว่าสามารถทำได้หรือไม่ เพราะไม่อยากให้การแก้ปัญหาหนึ่งนำไปสู่อีกปัญหาหนึ่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งปัญหาสังคม
พลเอกประยุทธ์ กล่าวว่า ขอฝากขอให้ทุกคนช่วยสื่อสารเรื่องที่กล่าวมาทั้งหมดนี้ให้โดยละเอียดด้วย อยากให้พวกเราร่วมมือกันทุกภาคส่วน ความมั่นใจก็จะเกิดขึ้นตามมา การดำเนินนโยบายเศรษฐกิจเป็นเรื่องระยะยาวที่ต้องดำเนินการต่อเนื่องเพื่ออนาคตของลูกหลานไทย และเป็นเรื่องที่ต้องศึกษาทำความเข้าใจ ในฐานะนายกรัฐมนตรี รับผิดชอบชีวิตคนไทย จึงศึกษาเรื่องเศรษฐกิจอย่างถี่ถ้วน และพิจารณาข้อมูลอย่างรอบด้าน ก่อนจะทำการตัดสินใจในเรื่องใด ขอให้คำมั่นว่า ไม่มีสิ่งใดจะสามารถทำให้นายกฯ ตัดสินใจในหนทางที่ไม่เกิดประโยชน์กับประเทศชาติและประชาชนได้
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
-'ชวน' ยังไม่เคาะ ประชุมสภาฯ ซักฟอก 'บิ๊กตู่'
-ปมถวายสัตย์ 'ฝ่ายค้าน' หมดสิทธิ์อภิปราย
-'ธรรมนัส' ยันส.ส.พรรคเล็ก ไม่แปรพรรค
-สภาฯของบเพิ่มทะลุ1.2หมื่นล้าน ค่าอาหารส.ส.เพิ่มรายละ300