'พีระพันธ์' ซัดกมธ.ค่าโง่ทางด่วน ความรู้อ่อน

'พีระพันธ์' ซัดกมธ.ค่าโง่ทางด่วน ความรู้อ่อน

“พีระพันธ์” ซัด กมธ.ค่าโง่ทางด่วน ความรู้อ่อน หลังผลสอบหนุนต่อสัญญาทางด่วนให้บ.เอกชน สอนมวยขั้นตอนสอบในกมธ.ฯ เล็งขยายผมต่อในกมธ.สามัญฯ หลังตั้งเรื่องแล้วเสร็จ จ่อสอบให้ได้ใครคือตัวการ-รายละเอียดคดีที่ฟ้องร้อง

เมื่อวันที่ 24 ส.ค.62 เครือข่ายสถาบันธรรมาภิบาลไทย ร่วมกับสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ และสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจการทางพิเศษแห่งประเทศไทย จัดเวทีเสวนาภาคประชาชน เรื่อง เบื้องหลังค่าโง่ทางด่วน ใครทำให้ชาติเสียหาย เพื่อเป็นเวทีคู่ขนานการตรวจสอบเรื่องดังกล่าว โดยคณะกรรมาธิการวิสามัญ (กมธ.) พิจารณาการขยายสัญญาสัมปทานทางด่วนและรถไฟฟ้าบีทีเอส สภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายวีระกร คำประกอบ ส.ส.นครสวรรค์ พรรคพลังประชารัฐ เป็นประธานกมธ.ฯ หลังจากที่เครือข่ายสหภาพฯ มองว่ากรณีการตรวจสอบของกมธ.วิสามัญฯ ชุดดังกล่าวนั้นทำโดยไม่สมเหตุผล โดยมีผู้ที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม

โดย นายพีระพันธ์ สาลีรัฐวิภาค ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่าตนเคยตรวจสอบกรณีที่มีลักษณะคล้ายกับค่าโง่ทางด่วนปัจจุบัน คือ กรณีทางด่วนชลบุรี - บางนาตราด ปี 2545 - 2546 ยุคที่ตนเป็น กมธ.สามัญป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ สภาผู้แทนราษฎร พบเหตุผลสำคัญที่ทำให้รัฐต้องถูกภาคเอกชนฟ้องร้องเรียกค่าเสียหาย คือ การเตรียมข้อมูลและหลักฐาน ที่เสมือนตั้งใจทำให้รัฐถูกฟ้อง ซึ่งกรณีดังกล่าวถือเป็นเรื่องผิดปกติ ทั้งที่ภาคเอกชนที่เป็นคู่สัญญากับรัฐ ไม่ต้องการเป็นศัตรูกับรัฐ เพราะอาจมีผลกระทบต่อภาคธุรกิจในอนาคตได้

ซึ่งกรณีค่าโง่ทางด่วนของการทางพิเศษแห่งประเทศไทยนั้น ตนเชื่อว่ามีผู้ที่ทำผิดเงื่อนในสัญญา แต่ไม่เคยมีข้อมูลว่าใครคือ ต้นเหตุเพื่อให้รับผิดชอบทั้งทางเพ่งและอาญา ตามกฎหมายความรับผิดของเจ้าหน้าที่ ส่วนกรณีที่รัฐถูกเอกชนฟ้องร้องถึง 17 คดี ไม่ปรากฎเป็นข้อมูลว่าใครคือต้นเหตุที่ทำให้รัฐถูกเอกชนฟ้องร้อง

ทั้งนี้ การตรวจสอบต้องตรวจสอบหาบุคคลที่เป็นต้นเหตุ และให้บุคคลนั้นรับผิดชอบ แต่การทำงานของ กมธ.วิสามัญ เบื้องต้นตนคาดหวังว่าจะได้ข้อมูลสำคัญเบื้องต้น อาทิ ใครเกี่ยวข้องที่ทำให้ผิดสัญญา และมีประเด็นฟ้องร้อง, รายละเอียดของ 17 คดีที่ฟ้องร้อง รวมถึงมูลฐานความผิดที่นำไปสู่การกระทำผิด แต่ล่าสุดกมธ.วิสามัญ​มีมติว่าเห็นด้วยกับการต่อสัญญา ทั้งที่ไม่ใช่กรอบที่จะศึกษาในตอนต้น แต่ตนไม่โทษใคร เพราะเขาอาจมีความรู้ไม่เพียงพอ

 

อย่างไรก็ตามบทสรุปของกมธ.วิสามัญฯ นั้นไม่มีผลผูกพันกับใคร และกระทรวงคมนาคมไม่ต้องทำตามบทสรุปของกมธ.วิสามัญ

“ผมเคยทำเรื่องตรวจสอบค่าโง่ทางด่วน แต่ในกมธ.วิสามัญ เขาไม่ตั้งผมให้ไปเป็น และไม่ได้ไปอยู่ในนั้น แต่ในการทำงานของกมธ.วิสามัญ ผมทราบว่า เขาไม่มีอำนาจเต็มจะเรียกเอกสาร และล่าสุดมติเห็นด้วยกับการต่อสัญญา ซึ่งผมงง ทั้งที่ตอนตั้งไม่ได้บอกว่าจะเห็นด้วยหรือไม่ อย่างไรก็ตามประเด็นนี้ผมเตรียมดำเนินการต่อ ภายใต้ กมธ.สามัญประจำสภาฯ ที่เชื่อว่าอีก 2 สัปดาห์จะตั้งแล้วเสร็จ ผมจะนำเรื่องนี้ตรวจสอบต่อเนื่อง เพราะการตรวจสอบผ่านกมธ.สามัญฯ นั้นจะมีอำนาจเต็มมากกว่ากมธ.วิสามัญ และผมสนับสนุนให้สหภาพฯ ตรวจสอบเรื่องนี้ต่อ อีกทั้งเรื่องนี้ผมเชื่อว่านายศักสยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ฐานะอดีตกมธ.ป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ สภาผู้แทนราษฎร จะไม่ยอมให้เรื่องนี้เกิดความเสียหายกับรัฐ” นายพีระพันธ์ กล่าว