"ฉีดวัคซีนป้องกันหัด":ฝ่าศรัทธาศาสนา
“ที่ห้ามฉีดวัคซีนก็เพราะพระเจ้าจะดูแลคุณเอง ห้ามทำประกันด้วยนะ”บรูเวอร์กล่าวเสริม เขาเป็นสมาชิกพรรคคริสเตียนเดโมแครตของเนเธอร์แลนด์ และเป็นสมาชิกคณะกรรมการบริการสาธารณสุขประจำจังหวัด
“เอิร์ก” เมืองชายฝั่งของเนเธอร์แลนด์ ตั้งอยู่ในเขตที่เรียกว่า “ไบเบิลเบลต์” หรือชุมชนโปรเตสแตนท์เคร่งจารีตผู้คนเติบโตมาด้วยความคิดพื้นฐานเพียงไม่กี่อย่าง สอนให้เชื่อในพระเจ้า ทำประมงแบบดั้งเดิมและห้ามฉีดวัคซีน จนโรคหัดระบาดเมื่อเดือน มิ.ย. เนื่องจากอัตราการฉีดวัคซีนต่ำแต่เมื่อองค์การอนามัยโลก (ดับเบิลยูเอชโอ) เตือนว่า ผู้ป่วยโรคหัดในยุโรปพุ่งพรวด ก็สร้างความหวังว่าเมืองเอิร์กจะเปลี่ยนแปลงตัวเองได้บ้าง
“ตอนนี้อัตราฉีดวัคซีนในเมืองอยู่ที่ 60% ถือว่าต่ำเมื่อเทียบกับส่วนอื่นๆ ของประเทศ อัตราฉีดวัคซีนของเราต่ำเป็นอันดับ 2 ในเนเธอร์แลนด์”ฟรีค บรูเวอร์ ที่ปรึกษาฝ่ายสุขภาพเมืองเอิร์กให้ความเห็น
เอิร์ก ก็เหมือนกับเมืองไบเบิลเบลต์ทั้งหลาย กล่าวคือเป็นส่วนหนึี่งของศาสนจักรปฏิรูปออร์โธดอกซ์ดัทช์ แน่นอนว่าศาสนามีบทบาทสำคัญยิ่งในชีวิตประจำวัน ควบคู่กับอุตสาหกรรมประมงแบบดั้งเดิม
ชาวเอิร์ก 94% ไปโบสถ์เป็นปกติวิสัย ซึ่งศาสนจักรต่อต้านโทรทัศน์ ภาพยนต์ และการฉีดวัคซีนมาโดยตลอด
“ที่ห้ามฉีดวัคซีนก็เพราะพระเจ้าจะดูแลคุณเอง ห้ามทำประกันด้วยนะ”บรูเวอร์กล่าวเสริม เขาเป็นสมาชิกพรรคคริสเตียนเดโมแครตของเนเธอร์แลนด์ และเป็นสมาชิกคณะกรรมการบริการสาธารณสุขประจำจังหวัด
แต่ปัจจุบันปัจจัยด้านศาสนาไม่ค่อยมีผลกับเรื่องวัคซีนแล้ว
“ก่อนหน้านี้ ผู้คนยึดมั่นในศาสนามาก ซึ่งผมก็เคารพความคิดพวกเขา ตอนนี้เป็นเรื่องของนิสัยมากกว่า คนมักคิดว่า ก็พ่อกับแม่ไม่ได้ฉีดวัคซีน แล้วทำไมเราต้องฉีดล่ะ ส่วนบาทหลวงและนักเทศน์ที่มาจากโบสถ์ต้านวัคซีนก็ไม่เทศน์เรื่องนี้ ไม่พูดถึงเลย” ที่ปรึกษาฝ่ายสุขภาพกล่าวเพิ่มเติม
เอิร์ก ห่างจากกรุงอัมสเตอร์ดัมเพียง 80 กิโลเมตร แต่วัฒนธรรมห่างจากเมืองหลวงแสนเสรีเหลือคณานัป ที่กรุงอัมสเตอร์ดัมนั้น โสเภณีถือเป็นเรื่องถูกกฎหมาย และขายกัญชาได้อย่างเปิดเผย
ตามประวัติความเป็นมา 70 ปีก่อนเอิร์กยังเป็นแค่เกาะเดี่ยวๆ แต่เมื่อทางการดัทช์ทำโครงการถมทะเลขนาดมหึมา ก็ไปเชื่อมกับเกาะเอิร์กเข้าจนได้ กระนั้นชาวเมืองยังรักษาภาษาถิ่นของตนไว้ ส่วนเรื่องจิตใจยังไม่อาจหลอมรวมกันได้
ผู้สื่อข่าวสอบถามความคิดเห็นชาวบ้านแถวท่าเรือ ในวันเปิดตลาดนัดอันวุ่นวาย หลายคนยืนยันว่า ที่พวกเขาจำนวนหนึี่งต้านการฉีดวัคซีนก็เพราะเหตุผลด้านศาสนา
“ฉันพาลูกไปฉีดวัคซีน แต่ฉันคิดว่ามันเป็นเรื่องแล้วแต่คนนะบังเอิญสัปดาห์ก่อนฉันอ่านเจอว่า เด็กชายคนหนึ่งป่วยเป็นลมชักหลังจากรับวัคซีน จนสมองเสียหาย ทำให้ฉุกคิดว่าแล้ววัคซีนดีจริงเหรอ”โวนเน เวอร์บานวัย 44 ปีเล่าประสบการณ์ส่วนตัว
ด้านจาโคบา โซเออร์คุณแม่วัย 37 ปี ผู้มาชอปปิงกับลูกชาย 2 คน ยอมรับว่า ฉีดวัคซีนเป็นเรื่องดี เธอพาลูกทั้งสองไปฉีดมาเรียบร้อยแล้ว
แล้วทำไมชาวเมืองเอิร์กถึงปฏิเสธสิ่งนี้ล่ะ?
“ก็ศาสนาไม่อนุญาตน่ะสิ พวกเขาบอกว่า พระเจ้ามีหน้าที่อยู่แล้ว พระองค์จะปกป้องเราเมื่อเราป่วยฉันว่า เรื่องวัคซีนเนี่ยยังต้องถกเถียงกันอีกยาวเลยล่ะ ไม่ใช่แค่ในเอิร์กหรอก” โซเออร์ตอบ
สถาบันสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อมแห่งชาติเนเธอร์แลนด์ รายงานว่าปีนี้เนเธอร์แลนด์พบผู้ป่วยโรคหัด 42 คน เทียบกับทั้งปี 2561 ตัวเลขอยู่ที่ 24 คน
ปี 2556-2557 เขตไบเบิลเบลต์ของเนเธอร์แลนด์เกิดหัดระบาด เด็กเสียชีวิต 1 คน เข้าโรงพยาบาล 182 คน ป่วยไข้ที่มีข้อมูลอีก 2,700 คน กระนั้นทางการเชื่อว่า ยอดจริงสูงกว่านี้มากเพราะคนป่วยหลายคนไม่ได้ไปหาหมอ
เฟคนิวส์แพร่สะพัด
ในมุมมองเจ้าหน้าที่รัฐอย่างบรูเวอร์ เขากล่าวโทษอินเทอร์เน็ตว่าเป็นตัวแพร่สะพัดแนวคิดต้านวัคซีน
“ที่เห็นอีกอย่างหนึี่งคือ ผู้คนคิดว่าวัคซีนคือยาพิษ เป็นสาเหตุออทิสติก เฟคนิวส์มากเหลือเกิน”
เมื่อเดือน มิ.ย.ตอนที่เด็ก 9 คน และผู้ใหญ่ 1 คน ป่วยด้วยโรคหัด บรูเวอร์เล่าว่า เกิดเรื่องเซอร์ไพรส์ในทางที่ดี หลายคนยอมมาฉีดวัคซีนฟรีที่รัฐบาลจัดให้
“แต่ก็มีคนที่ผมรู้ว่า ลูกเขาติดหัดแล้วไม่ไปหาหมอ เขาบอกว่า เดี๋ยว 1 หรือ 2 สัปดาห์ก็หาย เด็กๆ จะไม่ป่วยอีก ดังนั้นตัวเลขผู้ป่วยจึงต้องมากกว่านี้”
อย่างไรก็ตาม บรูเวอร์ปฏิเสธแนวคิดบังคับฉีดวัคซีนป้องกันหัด เหมือนที่เยอรมนีทำ เขากล่าวว่า เป้าหมายของเนเธอร์แลนด์คือให้ข้อมูลผู้ปกครองให้ดียิ่งขึ้น
“ประชาชนต้องตัดสินใจด้วยตนเองว่าจะฉีดหรือไม่ฉีด บนพื้นฐานข้อมูลที่ถูกต้อง เรื่องแบบนี้บังคับกันไม่ได้ ประชาชนต่อต้านแน่ๆ”
ในเมืองเอิร์ก แพทย์ช่วยกันแนะนำผู้หญิงตั้งครรภ์ให้ทราบถึงประโยชน์ของการฉีดวัคซีน ทางการท้องถิ่นจัดประชุมตอนเย็นเพื่อแจ้งข้อมูลข่าวสารให้พ่อแม่ พร้อมแจกจดหมายข่าวบทสัมภาษณ์คนพิการโปลิโอ ตั้งแต่สมัยที่รัฐบาลยังไม่แจกวัคซีน
“เราทำไปทีละขั้น ปีเดียวทะลุ 90% ไม่ได้หรอก แต่ถ้าเราทำได้เพิ่มขึ้นปีละ 10-20% ก็ถือว่าบรรลุเป้าหมายได้มากแล้ว” บรูเวอร์กล่าวอย่างมีความหวังกับแผนการเพิ่มอัตราการฉีดวัคซีนป้องกันโรคหัด