พายุ 'โพดุล' ทำโรงเรียนปิดการสอน 159 แห่ง
ศธ.ส่งมอบถึงยังชีพ ช่วยประชาชนเดือนร้อนจาก "พายุโพดุล" ด้าน สพฐ.ทำหนังสือแจ้งเตือนถึงผอ.เขตพื้นที่การศึกษาทั่วประเทศ เฝ้าติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เผย 17 เขตพื้นที่การศึกษาได้รับผลกระทบ มีสถานศึกษาที่ปิดการเรียนการสอน 159 แห่ง
เมื่อวันที่ 2 ก.ย.62 คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช รมช.ศึกษาธิการ กล่าวถึงสถานการณ์พายุโพดุลที่กำลังสร้างความเดือนร้อนให้แก่พื้นที่ในจังหวัดต่างๆ ว่าขณะนี้ ทางกระทรวงศึกษาธิการ(ศธ.) ได้ส่งถุงยังชีพไปยังพื้นที่ต่างๆ เพื่อช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือนร้อนในสถานการณ์ดังกล่าว และได้เปิดครัวเกษตร โดยวิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีทั่วประเทศ เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัย อีกทั้งยังเป็นการปลูกฝังด้านจิตอาสา และทำให้เด็กวิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีทั่วประเทศ ได้ทำอาหารช่วยเหลือผู้ประสบภัยร่วมด้วย
นางกนกวรรณ วิลาวัลย์ รมช.ศึกษาธิการ กล่าวว่าได้กำชับให้ลูกเสือ พร้อมทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ร่วมดูแลช่วยเหลือพี่น้องประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากพายุโพดุล ซึ่งจากการรับฟังการแจ้งเตือนของกรมอุตนิยมวิทยา ทราบว่าจะมีพายุเคลื่อนตัวเข้าสู่ประเทศไทยอีกระลอก ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อประชาชนเป็นอย่างมาก เพราะฝนจะเพิ่มมากขึ้นและมีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนระวังอันตรายจากฝนที่ตกหนักและฝนที่ตกสะสม อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากได้ สำหรับผู้ที่จะเดินทางขอให้ควรตรวจสอบสภาพอากาศก่อนเดินทางทุกครั้ง
ทั้งนี้ ได้สั่งการให้ สำนักงาน กศน.และ สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน หรือ สช. เร่งสำรวจและรายงานความเสียหายของพื้นที่และสถานศึกษาโดยด่วน รวมถึงให้การช่วยเหลือประชาชนในจังหวัดที่ได้รับผลกระทบ เพื่อวางแผนในการช่วยเหลือและเยียวยาปัญหาหลังน้ำลดต่อไป
นายสุเทพ ชิตยวงษ์ เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) กล่าวว่า นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รมว.ศึกษาธิการ ได้มีความห่วงใยเป็นอย่างมาก และสั่งการให้ สพฐ.ดูแลช่วยเหลือโรงเรียนที่ได้รับผลกระทบอย่างเต็มที่ ซึ่งเมื่อเร็วๆนี้ ได้ลงนามในหนังสือด่วนที่สุด ที่ ศธ.04001/พิเศษ เรื่องแจ้งเตือนสถานการณ์พายุโพดุล ถึงผู้อำนวยการเขตพื้นที่การศึกษาทั่วประเทศ โดยสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน(สพฐ.) มีความห่วงใยในเรื่องดังกล่าวจึงขอให้สถานศึกษาในสังกัดติดตามข้อมูลสภาพอากาศสถานการณ์ข่าวสารอย่างใกล้ชิดผ่านเว็บไซต์กรมอุตุนิยมวิทยา และรายงานสถานการณ์ให้ สพฐ.รับทราบทันทีเพื่อเป็นข้อมูลในการช่วยเหลือ โดยเฉพาะในกลุ่มจังหวัดที่ได้รับผลกระทบจากพายุดังกล่าว จำนวน 7 จังหวัดประกอบด้วย กาฬสินธุ์ ขอนแก่น มหาสารคาม ยโสธร ร้อยเอ็ด พิจิตร และ พะเยา โดยข้อมูลล่าสุดพบว่ามี 17 เขตพื้นที่การศึกษาที่ได้รับผลกระทบ มีสถานศึกษาที่ปิดการเรียนการสอน 159 แห่ง มีนักเรียนได้รับผลกระทบทั้งหมด 474 คน
“ผมได้สั่งการให้ผู้บริหารระดับสูงของ สพฐ.ลงพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ดังกล่าวแล้ว เพื่ออำนวยความสะดวกช่วยเหลือต่างๆ นอกจากนี้ ยังได้กำชับผู้อำนวยการเขตพื้นที่การศึกษาให้ดูแลสถานการณ์และประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ในการช่วยเหลือโรงเรียนอย่างเต็มที่ โดยการดำเนินการต่างๆ ของให้ยึดความปลอดภัยของนักเรียนเป็นสำคัญ นอกจากนี้ยังได้สั่งการให้เขตพื้นที่เร่งฟื้นฟูสถานศึกษาต่างๆให้มีความพร้อมจัดการเรียนการสอนหลังน้ำลดโดยเร็วที่สุด ซึ่งขณะนี้ทางสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานได้จัดเตรียมงบประมาณในการซ่อมแซมไว้เรียบร้อยแล้ว ” เลขาธิการ กพฐ. กล่าว