ตัวแทนเครือข่ายกะเหรี่ยงเข้าขอบคุณดีเอสไอ
พร้อมขอเร่งรัดคดี “บิลลี่”
โดยสมชาติ รักษ์สองพลู ตัวแทนเครือข่ายกะเหรี่ยงและชาวเลในประเทศไทยได้ยื่นหนังสือกับ พ.ต.ท. กรวัชร์ ปานประภากร รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ซึ่งได้รับเรื่องไว้และยืนยันความตั้งใจในการทำงานของดีเอสไอ พร้อมกล่าวกับตัวแทนชาวกะเหรี่ยงว่ารัฐมนตรีได้แสดงความเป็นห่วงและให้ดำเนินการในเรื่องนี้เต็มที่
โดยเครือข่ายกล่าวในหนังสือว่า ตามที่คณะกรรมการคดีพิเศษ กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) และสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ได้ร่วมกันแถลงข่าว เมื่อวันที่ 3 กันยาย 2562 ยืนยันว่าสารพันธุกรรมชิ้นส่วนกระดูกที่พบใต้น้ำบริเวณสะพานแขวน เขื่อนแก่งกระจาน ตรงกับนางโพเราะจี รักจงเจริญ มารดาของนายพอละจี รักจงเจริญ หรือบิลลี่ นักปกป้องสิทธิมนุษยชนชาวกะเหรี่ยงที่ถูกอุ้มหายไปตั้งแต่วันที่ 17 เมษายน 2557
ซึ่งจากการพิจารณาสถานที่เกิดเหตุ พยานหลักฐานแวดล้อมอื่นประกอบ พนักงานสอบสวนคดีพิเศษเชื่อว่า ชิ้นส่วนกระดูกดังกล่าวเป็นของ “นายพอละจี รักจงเจริญ” หรือ “บิลลี่” ที่ถูกนำมาเผาทำลายเพื่ออำพรางคดี
แม้ว่าเครือข่ายฯ จะยังไม่ทราบวิธีการที่ทำให้บิลลี่เสียชีวิต แต่พฤติการณ์ของผู้กระทำการดังกล่าวเข้าข่ายลักษณะเป็นการฆาตกรรมโดยทรมาน และการบังคับบุคคลให้สูญหายที่เป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างร้ายแรง ตามอนุสัญญาระหว่างประเทศว่าด้วยการคุ้มครองบุคคลทุกคนจากการหายสาบสูญโดยถูกบังคับ
เครือข่ายกะเหรี่ยงและชาวเลในประเทศไทย ซึ่งได้ติดตามสถานการณ์ดังกล่าวอย่างใกล้ชิด ขอขอบคุณและเป็นกำลังใจให้เจ้าหน้าที่ คณะกรรมการคดีพิเศษ (กคพ.) กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ที่ได้ทุ่มเททำงานด้วยความมานะอุตสาหะจนสามารถพิสูจน์ยืนยันวัตถุพยานหลักฐานสำคัญ ที่ระบุได้ว่า “บิลลี่” ได้เสียชีวิตไปแล้ว อันจะไปสู่การเร่งรัดดำเนินคดี และการคืนความเป็นธรรมให้แก่ครอบครัว ชุมชน
โดยเครือข่ายฯ ขอให้ดีเอสไอเร่งรัดดำเนินการสืบสวน สอบสวนและจับกุมผู้กระทำผิดรวมถึงผู้ที่มีส่วนทั้งหมดมาดำเนินคดีการเสียชีวิตของนายพอละจี รักจงเจริญอย่างเร่งด่วน
นอกจากนี้ เครือข่ายฯ ขอให้ดีเอสไอประสานงานและเสนอไปยังรัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ชดเชยเยียวยาความเสียหายให้แก่ครอบครัวของบิลลี่อย่างเป็นธรรมและเหมาะสม
และเครือข่ายฯ ขอให้ดีเอสไอช่วยประสานงานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อผลักดันให้รัฐบาลไทยเร่งรัดออกกฎหมายใหม่หรือแก้ไขกฎหมาย เพื่อป้องกันมิให้เจ้าหน้าที่ของรัฐใช้อำนาจในทางกฎหมายโดยมิชอบ ก่ออาชญากรรมต่อชีวิต ร่างกาย เสรีภาพและทรัพย์สินประชาชน เพื่อเป็นหลักประกันให้แก่ประชาชนทุกคนว่าจะไม่ถูกกระทำโดยผู้ใช้อำนาจรัฐ
“ต้อขอขอบคุณดีเอสไอที่ช่วยคลี่คลายคดีของบิลลี่ สิ่งนี้คือที่รอคอยกันมา5 ปี ว่าบิลลี่ไม่ได้หาย และอยากขอให้ท่านข่วยเร่งรัดคดี หาตัวคนทำผิดมาลงโทษ ละขอช่วยเยียวยาครอบครัวของบิลลี่ให้เกิดความเป็นธรรม” นายสมชาติกล่าวกับ พ.ต.ท กรวัชร์
นอกจากนี้ทางคณะกรรมการประสานงานองค์กรพัฒนาเอกชน (กป.อพช.) และองค์กรภาคีจำนวน 99 องค์กร และบุคคจำนวน 169 รายชื่อได้ร่วมกันออกแถลงการณ์ขอเรียกร้องต่อรัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในประเด็นที่คล้ายกัน
นายประยงค์ ดอกลำใย ประธาน กป.อพช.กล่าวว่า หลังจากนี้จะขอเข้าพบ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีให้กำกับดูแลสอบสวนเรื่องนี้ และจะทำการรณรงค์ไม่ให้เกิดเรื่องแบบนี้อีกพร้อมผลักดันกฎหมายคุ้มครองไม่ให้เกิดการอุ้มหายและทรมานอีกต่อไป
ส่วนพยานคนสุดท้ายที่เห็นนายบิลลี่คือเจ้าหน้าที่กรมอุทยานแห่งชาตินั้น ตนอยากให้ทางกรมอุทยานฯ สอบสวนว่าเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องกับการเสียชีวิตของบิลลี่หรือไม่ด้วย
นอกจากนี้ จะขอให้รัฐบาลขอทบทวนข้อกฎหมายเพื่อให้สอดคล้องหลักสิทธิ และแนวทางการฟื้นฟูสิทธิกะเหรี่ยงและชาวเลตาม มติ ครม. 2553