พิษโพดุล-คาจิกิ ยอดเสียชีวิตพุ่ง 19 ราย เดือดร้อน 158,028 ครัวเรือน
อธิบดีปภ. เผยเหตุโพดุล-คาจิกิ ยอดเสียชีวิตพุ่ง 19 ราย เดือดร้อน 158,028 ครัวเรือน และยังคงมีสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ 10 จังหวัด
นายชยพล ธิติศักดิ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่า อิทธิพลพายุโซนร้อน"โพดุล" และพายุโซนร้อน “คาจิกิ” ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทยมีกำลังแรง ตั้งแต่วันที่ 29 สิงหาคม – 6 กันยายน 2562 ทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ดินสไลด์ รวม 32 จังหวัด
ได้แก่ อำนาจเจริญ กระบี่ ปราจีนบุรี แพร่ นครพนม เชียงใหม่ ร้อยเอ็ด อุบลราชธานี ระนอง เพชรบูรณ์ มหาสารคาม ขอนแก่น หนองบัวลำภู ยโสธร กาฬสินธุ์ น่าน ตราด มุกดาหาร อุตรดิตถ์ ชัยภูมิ สุรินทร์ พิษณุโลก พิจิตร แม่ฮ่องสอน ชุมพร อุดรธานี สระแก้ว ลำปาง เลย สุโขทัย ศรีสะเกษ และสกลนคร 147 อำเภอ 581 ตำบล 3,142 หมู่บ้าน 5 เขตเทศบาล 11 ชุมชน ประชาชนได้รับผลกระทบ 158,028 ครัวเรือน ผู้เสียชีวิต 19 ราย (อำนาจเจริญ 4 ราย ร้อยเอ็ด 4 ราย ขอนแก่น 3 ราย ยโสธร 3 ราย พิจิตร 2 ราย อุบลราชธานี 1 ราย มุกดาหาร 1 ราย) ผู้บาดเจ็บ 1 คน (ชัยภูมิ) ผู้สูญหาย 2 ราย (อำนาจเจริญ พิจิตร) ยังคงมีสถานการณ์ในพื้นที่ 10 จังหวัด ได้แก่ สุโขทัย พิษณุโลก พิจิตร อำนาจเจริญ ยโสธร ขอนแก่น อุบลราชธานี ร้อยเอ็ด ศรีสะเกษ และสกลนคร อพยพประชาชน 3,438 คน ในพื้นที่ 3 จังหวัด รวม 15 จุด (อำนาจเจริญ ยโสธร อุบลราชธานี)
ทั้งนี้ ปภ.ได้ร่วมกับจังหวัด หน่วยทหาร และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดเจ้าหน้าที่ พร้อมระดมวัสดุอุปกรณ์ ยานพาหนะและเครื่องจักรกลด้านสาธารณภัยให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยและคลี่คลายสถานการณ์ภัย โดยติดตั้งเครื่องสูบน้ำ รถบรรทุกเครื่องส่งสูบน้ำระยะไกลเร่งระบายน้ำออกจากพื้นที่น้ำท่วมขัง รวมถึงดูแลชีวิตความเป็นอยู่ของผู้ประภัย โดยแจกจ่ายอาหาร น้ำดื่ม และถุงยังชีพเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนในเบื้องต้น อีกทั้งจัดเจ้าหน้าที่พร้อมรถเคลื่อนย้ายผู้ประสบภัยและเรือท้องแบนให้บริการขนย้ายสิ่งของและอำนวยความสะดวกในการเดินทางแก่ประชาชน ตลอดจนสำรวจความเสียหายครอบคลุมทุกด้าน เพื่อให้การช่วยเหลือ ตามระเบียบกระทรวงการคลังฯ พร้อมเร่งฟื้นฟูพื้นที่ประสบภัยให้กลับเข้าสู่ภาวะปกติ
อย่างไรก็ตาม ระยะนี้ประเทศไทยยังคงมีฝนฟ้าคะนองและฝนตกหนักบางแห่ง โดยเฉพาะภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคตะวันออก อีกทั้งบางพื้นที่มีปริมาณน้ำฝนสะสมอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และดินถล่ม ซึ่ง ปภ.ได้จัดเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์ภัยอย่างใกล้ชิด พร้อมจัดเตรียมสรรพกำลัง วัสดุอุปกรณ์และเครื่องจักรกลด้านสาธารณภัยให้เผชิญเหตุ
และช่วยเหลือผู้ประสบภัยได้อย่างทันท่วงที ทั้งนี้ ขอให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัยขอให้ติดตามพยากรณ์อากาศและประกาศเตือนภัยจากหน่วยงานราชการอย่างใกล้ชิด เพื่อเตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์ภัยที่อาจเกิดขึ้น ท้ายนี้ประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากสถานการณ์ภัยสามารถติดต่อได้ทางสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมงเพื่อประสานให้การช่วยเหลือโดยด่วนต่อไป (ภาพ-fb ปภ.)
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
-กรมอุตุฯ เตือน ฉ.9 พายุ 'คาจิกิ' กระทบ 51 จังหวัด
-กรมอุตุฯ แจงข่าวลือพายุฤดูร้อนถล่มกรุง
-อุตุฯ เตือน! ฉบับ 14 'พายุโพดุล' เข้าปกคลุมบริเวณอ.ผาขาว จ.เลย
-น้ำท่วมฉับพลันที่ฝาง ทางขึ้นอ่างขางเกิดดินสไลด์