'นิพนธ์' มอบโฉนดที่ดินให้ชาวขอนแก่นรวม 349 ไร่
"มท.2" แจกต่อ โฉนดที่ดินให้ชาวขอนแก่น 320 ราย รวม 349 ไร่ พร้อมลงตรวจติดตั้งสะพานแบริ่ง ย้ำถอดบทเรียนลดการสูญเสียชีวิตพี่น้องปชช.
เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 9 กันยายน 2562 ที่โรงเรียนมัญจาศึกษา อำเภอมัญจาคิรี จังหวัดขอนแก่น นายนิพนธ์ บุญญามณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย (มท.2) เป็นประธานในพิธีมอบโฉนดที่ดินให้กับพี่น้องประชาชนในพื้นที่จังหวัดขอนแก่น ตามโครงการ “มอบโฉนดที่ดินทั่วไทย นำสุขคลายทุกข์ให้ประชาชน”
นายนิพนธ์ กล่าวตอนหนึ่งว่า การสำรวจรังวัดทำแผนที่เพื่อออกโฉนดที่ดินในพื้นที่ จ.ขอนแก่น ตามโครงการเดินสำรวจออกโฉนดที่ดินเป็นนโยบายสำคัญของรัฐบาล โดยกรมที่ดิน กระทรวงมหาดไทย ต้องการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนที่ยังไม่มีเอกสารสิทธิ์ในที่ดิน การออกโฉนดที่ดินที่ได้รับจากทางราชการเป็นเอกสารสิทธิ์มีความสำคัญ โฉนดที่ดินที่ได้รับจากทางราชการสามารถนำไปสร้างงาน สร้างรายได้ จึงขอเน้นย้ำฝากถึงพี่น้องที่ได้รับโฉนดที่ดินไปแล้ว ขอให้รักษาห่วงแหนที่ดินนี้อย่านำไปจำหน่ายจ่ายโอนโดยไม่จำเป็น หากต้องการจะจดทะเบียนสิทธิ์และนิติกรรมใดๆ ที่ไม่เข้าใจ ให้ขอคำปรึกษาจากเจ้าพนักงานที่ดินจังหวัด หรือเจ้าหน้าที่สำนักงานที่ดินเขตที่ตัวเองอยู่ในอำเภอ จังหวัดได้ ทั้งนี้ประชาชนได้รับแจกโฉนดที่ดินทั้งหมด ที่ตำบลกุดเค้า ตำบลนาข่า ตำบลโพนเพ็ก อำเภอมัญจาคิรี และตำบลโพธิ์ไชย อำเภอโคกโพธิ์ไชย จำนวน 320 ราย รวมทั้งสิ้นจำนวน 390 แปลง รวมทั้งหมดเป็นพื้นที่ 349 ไร่
จากนั้น รมช.มหาดไทยพร้อมคณะเดินทางไปตรวจเยี่ยมมห้กำลังใจพี่น้อวประชาชนและเจ้าหน้าที่กรมปภ. และหน่วยงานอื่นที่กำลังเร่งติดตั้งสะพานแบริ่ง(ชั่วคราว) ที่บ้านหนองหญ้าปล้อง หมู่4 ตำบลภูเหล็ก อำเภอบ้านไผ่ จ. ขอนแก่น หลังมีการสำรวจจุดที่ตั้งที่เหมาะสมแล้ว โดยจุดดังกล่าวถนนถูกกระแสน้ำเซาะตัดขาด ทำให้ชาวบ้านไม่สามารถใช้ถนนสัญจรไปมาได้ นายนิพนธ์จึงสั่งให้ กรมปภ.ติดตั้งสะพานแบริ่งอำนวยความสะดวกให้ประชาชนเป็นการเฉพาะหน้าไปก่อนที่คาดว่าจะติดตั้งเสร็จสะพานพร้อมติดตั้งไฟส่องสว่างพร้อมใช้งานได้ในวันที่ 11 ก.ย.นี้
โดยนายนิพนธ์ กล่าวถึงสถานการณ์อุทกภัยน้ำท่วมในปัจจุบัน ว่า ขณะนี้บางจังหวัดที่อยู่ในพื้นที่ลุ่มต่ำ ยังมีปริมาณน้ำท่วมบ้านเรือนของพี่น้องประชาชนอยู่ และหลายพื้นที่เริ่มเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว โดยอยู่ระหว่างการฟื้นฟู และสำรวจความเสียหาย ทั้งบ้านเรือนและพืชผลทางการเกษตร ทั้งนี้รัฐบาลมีหลักเกณฑ์ ระเบียบในการดูแลเยียวยาให้พี่น้องประชาชนอยู่แล้ว สิ่งสำคัญที่ไม่อยากให้เกิดขึ้นคือ การสูญเสียชีวิต สำหรับอุทกภัยครั้งนี้ ทราบว่ามียอดรวมการเสียชีวิตทั้งหมด 27 ราย ซึ่งเป็นตัวเลขที่น่าตกใจ จึงขอให้ทุกฝ่ายที่เดี่ยวข้องถอดบทเรียนที่เกิดขึ้นว่า ความสูญเสียนี้เกิดจากสาเหตุอะไร เพื่อไม่ให้เกิดเหตุซ้ำรอยความสูญเสียเข่นนี้ขึ้นอีกสำคัญที่สุดคือ ประชาชนต้องมีความปลอดภัยในชีวิตเพิ่มมากขึ้น