นายกฯ ซัดโซเชี่ยลทำคนไทยแบ่งแยก
"ประยุทธ์" ดูน้ำท่วม "เขื่องใน" ยันใช้เงินดูแลเดิดประโยชน์สูงสุด ซัดโซเชียลฯ อันตรายที่สุด ทำให้แบ่งแยก เตือนทะเลาะกันไม่ได้อีกแล้ว ขอให้รักกัน ทำตัวเป็นแขนงไผ่มัดรวมกัน อย่าแตกแขนง
เมื่อวันที่ 9 ก.ย.62 เวลา 16.20 น. ที่จังหวัดอุบลราชธานี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม พร้อมคณะเดินทางเยี่ยมผู้ประสบอุทกภัย ที่ศูนย์อำนวยการแก้ไขปัญหาอุทกภัยของเทศบาล ตำบลบ้านกอก อำเภอเขื่องใน จังหวัดอุบลราชธานี ด้วยรถยนต์โตโยต้า อัลพาร์ด หมายเลขทะเบียน กข 2002 อุบลราชธานี โดยมี นายสฤษดิ์ วิฑูรย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี ให้การต้อนรับและกล่าวรายงานสรุปสถานการณ์อุทกภัย
จากนั้นนายกฯ กล่าวว่า ตนรู้ว่าทุกคนลำบากเดือดร้อน ก็เป็นห่วงทุกจังหวัด ที่ได้รับผลกระทบจากพายุ ส่วนการซ่อมแซมต้องรอให้น้ำลด รัฐบาลมีความห่วงใย ซึ่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสถาบันทุกพระองค์มีความห่วงใย และมีพระมหากรุณาธิคุณพระราชทานสิ่งของช่วยเหลือ และตนมาวันนี้เพราะเป็นห่วงท่าน ทุกอย่างรัฐบาลดูแลให้ตามขั้นตอน กติกา และมาวันนี้เพื่อดูว่าจะทำอะไรให้เพิ่มเติมอีกหรือไม่ รัฐบาลไม่สามารถบังคับใครได้ หลายคนมาบิดเบือนว่ารัฐบาลบังคับโน่น บังคับนี่ แต่รัฐบาลบังคับใครไม่ได้หรอก ยืนยันรัฐบาลจะใช้เม็ดเงินในการดูแลที่เกิดประโยชน์สูงสุด
นายกฯ กล่าวว่า วันนี้โลกในโซเชียลที่เปลี่ยนแปลงอันตรายกับเราที่สุด ทำให้เราแบ่งแยกกัน ทำให้เราไม่รักกัน แล้วเราจะรวมพลังกันได้อย่างไร เหมือนไม้ไผ่เป็นซีกหักได้หมด แต่ถ้ามัดรวมเป็นกำก็หักไม่ได้ รัฐบาลมีหน้าที่รวมแขนงไม้ไผ่ให้เป็นกำ และวันนี้ที่ตนมาเพื่อให้กำลังใจท่าน เพื่อสร้างแนวคิดให้กับท่าน เพื่อให้ท่านมาเจอรัฐบาล ซึ่งทางฝ่ายรัฐบาล ทุกพรรคการเมืองรัฐบาลจะช่วยกัน ส่วนของฝ่ายค้านตนก็รับมา อะไรที่เป็นประโยชน์ ทำได้ก็ทำ เพราะถือว่าทำให้ประชาชน วันนี้ฝ่ายรัฐบาลยืนยันจะทำอย่างเต็มที่ เราหยุดยั้งไม่ได้อีกแล้ว ให้ทุกอย่างมาขัดขวางการพัฒนาประเทศไม่ได้ ประชาชนกำลังเดือดร้อน น้ำกำลังท่วม มันมีอะไรสำคัญกว่านี้ไหม มีแต่ใช้วิธีการอื่นก็ได้ ไม่ใช่ทุกอย่างมารุมมาตุ้มกันเวลานี้ ตนก็ไม่ทราบว่าทำเพื่ออะไรเหมือนกัน ท่านต้องเข้าใจ สิ่งที่ตนพูดจริงหรือไม่จริง ตนบังคับใครไม่ได้ เพียงอาจจะไม่เข้าใจกันบ้างก็ไม่เป็นไร
นายกฯ กล่าวว่า วันนี้ตนมาเพื่อรับผิดชอบ เพื่อให้แนวทางการทำงาน กับข้าราชการทุกคน ทั้งการเมือง ทหาร พลเรือน ตำรวจ ต้องทำเพื่อคนไทย มีความโปร่งใส อย่าไปสร้างความเกียจชังในโซเชียล หรือในการพูดจายุแยงตะแคงรั่วกันนักเลย ดังนั้น คนที่จะแก้ปัญหานี้ได้คือรัฐบาล และใครเป็นรัฐบาล ก็ตน จะมุ่งหวังให้การแก้ไขอย่างที่ตนพูดแก้ได้ แต่ต้องใช้เวลา เพราะการใช้งบประมาณต้องมีระเบียบไม่อย่างนั้นพวกตนก็ติดคุกหมด สงสารตนบ้างแล้วกัน ถ้าใช้ไม่ถูกก็ติดคุก โอเคอาจจะชอบนะ สงสารเขาสิ ติดคุกอยู่สงสารเขาไหมล่ะ พร้อมถามประชาชนว่า เราต้องรักกันใช่ไหม ต้องไม่ทะเลาะกันใช่ไหม เราต้องฟังคนที่พูดความจริงใช่ไหม โดยประชาชนตอบว่าใช่ นายกฯ กล่าวอีกว่า หน่วยราชการต้องช่วยกัน ถ้าบอกทุจริตอย่างเดียวก็คงไม่ต้องทำอะไร
จากนั้นนายกฯแนะนำคณะ และทีมโฆษกที่มาจาก 3 พรรคแก่ประชาชน ก่อนกล่าวว่า ทีมโฆษกมาจาก3พรรค รัฐบาลก็มีหลายพรรค เรื่องพรรคก็พรรคไป แต่รัฐบาลก็ต้องทำงานร่วมกัน ก็ขอให้ทุกอย่างผ่านไปด้วยดีในเวลาอันสั้น และถามชาวอุบลฯว่า รักนายกฯบ้างไหม ไม่รักก็ไม่เป็นไร ฉันก็รักเธออยู่แล้ว
นายกฯ ได้มอบถุงยังชีพให้แก่ประชาชนจำนวน 1,000 ชุด และเดินตรวจสภาพน้ำท่วมในจุดดังกล่าว โดยมี นายธนะสิทธิ์ โควสุรัตน์ ส.ส.อุบลราชธานี พรรคพลังประชารัฐ มาต้อนรับด้วย รวมถึงนายโกวิทย์ ธรรมานุชิต อดีตผู้สมัคร ส.ส.อุบลราชธานีเขต 2 นายอดุลย์ นิลเปรม อดีตผู้สมัคร ส.ส.อุบลราชธานี เขต 1
อย่างไรก็ตามผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนที่นายกฯ จะเดินทางกลับ ได้หันกับไปทักทายประชาชนที่มารอต้อนรับตอนหนึ่งว่า ต้องขอโทษด้วยนะที่เสียเวลาให้รอ ผมมาให้กำลังคนที่มาช่วยเรา เขาจะได้ช่วยเราต่อไป เราต้องร่วมมือกับเขา พูดอะไรก็ฟังเขานิดนึง ถ้อยทีถ้อยอาศัยกัน อย่าทะเลาะกัน มันทะเลาะกันไม่ได้อีกแล้ว ขอร้องเถอะนะ แล้วก็รักกันมากๆ ทำตัวให้เป็นแขนงไผ่ที่มัดรวมกัน มันจะแก้ไขปัญหาได้ ผมยืนยันว่าจะแก้ให้ได้ถ้าทำแบบนั้น เพราะหากแตกแขนงกันไปในวันหน้าก็หักหมด
นายกฯ กล่าวต่อว่า วันนี้ยังกลับบ้านไม่ได้ ก็หวังว่าพรุ่งนี้ มะรืนนี้คงได้กลับ แล้วไปดูว่าจะทำอย่างไร เตรียมการรับมือกับคราวหน้าอย่างไร ถ้ามันเกิดขึ้นหรือเปล่ายังไม่รู้ แต่เราต้องเตรียมตัวเองให้พร้อม ตนเห็นบางบ้านอยู่ริมตลิ่งติดน้ำมันก็ไปหมดนั้นแหล่ะ ถ้าขยับขยายได้หรือมีที่เหลืออยู่ก็ถอยไปเสียหน่อย ขอบคุณทุกคน ฝากหัวใจไว้กับที่นี้ ไปแต่ตัวหัวใจไว้ที่นี้ รักทุกคน สัญญา