อัพเดทน้ำท่วม 4 จว.อีสาน ชาวบ้านยังหนีน้ำท่วม 20,620 คน
กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย อัพเดทน้ำท่วม 4 จังหวัดอีสาน ชาวบ้านยังหนีน้ำท่วม 20,620 คน
นายชยพล ธิติศักดิ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่า อิทธิพลพายุโซนร้อน "โพดุล" และพายุโซนร้อน “คาจิกิ” ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทยมีกำลังแรง ตั้งแต่วันที่ 29 สิงหาคมจนถึงปัจจุบัน (19 ก.ย. 62 เวลา 06.00 น.) ทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ดินสไลด์ รวม 32 จังหวัด ได้แก่ ภาคเหนือ 6 จังหวัด ได้แก่ แพร่ เชียงใหม่ ลำปาง แม่ฮ่องสอน น่าน และอุตรดิตถ์ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ16 จังหวัด ได้แก่ อำนาจเจริญ นครพนม ร้อยเอ็ด อุบลราชธานี มหาสารคาม ขอนแก่น หนองบัวลำภู ยโสธร กาฬสินธุ์ ชัยภูมิ สุรินทร์ มุกดาหาร ศรีสะเกษ เลย อุดรธานี และสกลนคร ภาคกลาง 4 จังหวัด ได้แก่ เพชรบูรณ์ พิษณุโลก พิจิตร และสุโขทัย ภาคตะวันออก 3 จังหวัด ได้แก่ ปราจีนบุรี สระแก้ว และตราด ภาคใต้ 3 จังหวัด ได้แก่ ชุมพร กระบี่ และระนอง รวม 182 อำเภอ 969 ตำบล 7,115 หมู่บ้าน 5 เขตเทศบาล 11 ชุมชน ประชาชนได้รับผลกระทบ 418,549 ครัวเรือน บ้านเรือนเสียหายบางส่วน 3,818 หลังผู้เสียชีวิต 34 ราย (ยโสธร 9 ราย ร้อยเอ็ด 6 ราย อำนาจเจริญ 5 ราย ขอนแก่น 3 ราย อุบลราชธานี 3 พิจิตร 2 ราย ราย ศรีสะเกษ 2 ราย พิษณุโลก 1 ราย มุกดาหาร 1 ราย สกลนคร 1 ราย น่าน 1 ราย) ผู้บาดเจ็บ 1 คน (ชัยภูมิ)
ยังคงมีสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ 4 จังหวัด ได้แก่ ยโสธร อุบลราชธานี ร้อยเอ็ด และศรีสะเกษ อพยพประชาชน 20,620 คน ในพื้นที่ 4 จังหวัด รวม 78 จุด ได้แก่ อุบลราชธานี 46 จุด รวม 19,833 คน ยโสธร อพยพประชาชน 6 จุด รวม 247 คน ร้อยเอ็ด 22 จุด รวม 130 คน ศรีสะเกษ อพยพประชาชน 4 จุด รวม 410 คน ทั้งนี้ ปภ.ได้ร่วมกับจังหวัด หน่วยทหาร และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องระดมเจ้าหน้าที่ วัสดุอุปกรณ์ ยานพาหนะ และเครื่องจักรกลด้านสาธารณภัยให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยและคลี่คลายสถานการณ์ภัย โดยติดตั้งเครื่องสูบน้ำ รถบรรทุกเครื่องส่งสูบน้ำระยะไกลเร่งระบายน้ำออกจากพื้นที่น้ำท่วมขัง รวมถึงแจกจ่ายอาหารปรุงสุกน้ำดื่มและถุงยังชีพ
ตามวงรอบ อีกทั้งดูแลชีวิตความเป็นอยู่ของผู้ประภัยในศูนย์พักพิงชั่วคราว อำนวยความสะดวกในการขนย้ายสิ่งของและ
การเดินทางในพื้นน้ำท่วมขัง อีกทั้งให้บริการด้านสาธารณสุขครอบคลุมการดูแลสุขภาพและสภาพจิตใจ สำหรับจังหวัด
ที่สถานการณ์อุทกภัยคลี่คลายแล้ว ให้เร่งสำรวจ ประเมินความต้องการการช่วยเหลือของผู้ประสบ พร้อมจัดทำบัญชี
ความเสียหายให้ครอบคลุมทุกด้าน ทั้งการประกอบอาชีพ ชีวิตความเป็นอยู่ ที่อยู่อาศัย พื้นที่การเกษตร ปศุสัตว์ สาธารณูปโภค เพื่อให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยตามระเบียบกระทรวงการคลังฯ โดยเฉพาะด้านที่อยู่อาศัย แยกเป็น เสียหายทั้งหลัง และเสียหายบางส่วน เพื่อให้การช่วยเหลือตามระเบียบกระทรวงการคลังฯ ตลอดจนซ่อมแซมและฟื้นฟูสิ่งสาธารณประโยชน์ให้สามารถใช้งานได้ตามปกติโดยเร็ว ท้ายนี้ ประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากสถานการณ์ภัยสามารถติดต่อได้ทางสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อประสานให้การช่วยเหลือโดยด่วนต่อไป
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
-'บิ๊กตู่' ท้าคนอยู่เมืองนอกกลับมา แก้ปัญหาประเทศ ก็ทำไม่ได้
-อุตุฯ เตือน! ฉบับ 14 'พายุโพดุล' เข้าปกคลุมบริเวณอ.ผาขาว จ.เลย
-อุตุฯ เผยไทยฝนตกต่อเนื่อง-ตกหนักบางพื้นที่ กทม. ร้อยละ 60
-ฝนตกถล่มกรุง ทั่วทุกพื้นที่ น้ำท่วมขังหลายจุด