วิตกการเมืองสหรัฐฉุดบอนด์ยีลด์ร่วง
ขณะดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐลดลงสู่ระดับ 125.1 ในเดือนก.ย. ซึ่งเป็นการปรับตัวลงมากที่สุดในรอบ 9 เดือน
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐปรับตัวลงในวันอังคาร(24ก.ย.) หลังมีข่าวว่า ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐเตรียมออกแถลงการณ์เกี่ยวกับการถอดถอนประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ออกจากตำแหน่ง เนื่องจากมีการติดต่อกับรัฐบาลต่างชาติเพื่อให้มีการแทรกแซงการเลือกตั้งในสหรัฐ นอกจากนี้ นักลงทุนยังพากันเข้าซื้อพันธบัตรสหรัฐ หลังการเปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐที่อ่อนแอเกินคาด
เมื่อเวลา 01.17 น.ตามเวลาไทย อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี ร่วงลงสู่ระดับ 1.661% ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 30 ปี ปรับตัวลงสู่ระดับ 2.113%
ราคาพันธบัตร และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรจะปรับตัวในทิศทางตรงกันข้ามกัน
นางแนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ กล่าวว่า จะออกแถลงการณ์ในวันนี้เกี่ยวกับการถอดถอนประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ออกจากตำแหน่ง เนื่องจากมีการติดต่อกับรัฐบาลต่างชาติเพื่อให้มีการแทรกแซงการเลือกตั้งในสหรัฐ
ทั้งนี้ สื่อรายงานว่า ปธน.ทรัมป์ได้กดดันนายโวโลดิมีร์ เซเลนสกี ประธานาธิบดียูเครน เพื่อให้มีการสอบสวนนายโจ ไบเดน อดีตรองประธานาธิบดีสหรัฐ และนายฮันเตอร์ ไบเดน บุตรชายของเขา
นอกจากนี้ ยังมีรายงานว่า ปธน.ทรัมป์ได้สั่งระงับการให้งบช่วยเหลือทางทหารแก่ยูเครนจำนวนราว 400 ล้านดอลลาร์ในช่วง 1 สัปดาห์ก่อนที่เขาจะโทรศัพท์ติดต่อนายเซเลนสกี
มีการมองกันว่า ปธน.ทรัมป์กำลังใช้งบช่วยเหลือทางทหารของสหรัฐเพื่อกดดันนายเซเลนสกีให้มีการสอบสวนนายไบเดน และบุตรชาย
ทั้งนี้ นายไบเดนเป็นหนึ่งในผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐจากพรรคเดโมแครต และถือเป็นคู่แข่งคนสำคัญของปธน.ทรัมป์ หากปธน.ทรัมป์ประสบความสำเร็จในการสกัดนายไบเดนออกจากการแข่งขันชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐ ปธน.ทรัมป์ก็มีแนวโน้มสูงที่จะได้รับเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดีสหรัฐอีกสมัย
ด้านนางเอลิซาเบธ วอร์เรน วุฒิสมาชิกสหรัฐ กล่าวเรียกร้องให้มีการถอดถอนปธน.ทรัมป์ออกจากตำแหน่ง จากกรณีที่มีการติดต่อกับรัฐบาลต่างชาติเพื่อให้มีการแทรกแซงการเลือกตั้งในสหรัฐ
“เขาได้โน้มน้าวให้รัฐบาลต่างชาติเข้ามาโจมตีระบบเลือกตั้งของเรา ขณะนี้จึงถึงเวลาแล้วที่เราจะประกาศถึงพฤติกรรมที่ผิดกฎหมายนี้ และเริ่มต้นกระบวนการถอดถอนเขาออกจากตำแหน่ง” นางวอร์เรนกล่าว
ขณะที่ผลสำรวจของคอนเฟอร์เรนซ์ บอร์ด ซึ่งเป็นสถาบันวิจัยเศรษฐกิจ ระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐลดลงสู่ระดับ 125.1 ในเดือนก.ย. ซึ่งเป็นการปรับตัวลงมากที่สุดในรอบ 9 เดือน และต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 133.5 จากระดับ 134.2 ในเดือนส.ค.
ผู้บริโภคสหรัฐลดความเชื่อมั่นต่อสภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบัน รวมทั้งความเชื่อมั่นในช่วง 6 เดือนข้างหน้า
ทั้งนี้ ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐเป็นการสำรวจมุมมองของผู้บริโภค และความเชื่อมั่นต่อสภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบัน และในช่วง 6 เดือนข้างหน้า, สถานะการเงินส่วนบุคคล และการจ้างงาน
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
-ผวาสงครามการค้าสหรัฐ-จีนแรงขึ้นฉุดดาวโจนส์ทรุดกว่า600จุด
-นักเศรษฐศาสตร์คาดอีก 2 ปีเศรษฐกิจสหรัฐถดถอย
-ตลาดหุ้นสหรัฐปิดไร้ทิศทาง
-'โกลด์แมน แซคส์'เตือนสงครามการค้าฉุดศก.สหรัฐถดถอย