พม. เตรียมพัฒนาทักษะด้านศิลปะแก่ครู และผู้ดูแลเด็กในสามจังหวัดชายแดนใต้

พม. เตรียมพัฒนาทักษะด้านศิลปะแก่ครู และผู้ดูแลเด็กในสามจังหวัดชายแดนใต้

พม. เตรียมพัฒนาทักษะด้านศิลปะให้แก่ ครู และผู้ดูแลเด็กในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ พร้อมส่งเข้าประกวดชิงรางวัลจากนายกรัฐมนตรี และเผยแพร่สู่สาธารณะได้อย่างมีคุณภาพ

เมื่อวันที่ 25 ก.ย.62 ที่บริเวณโถงชั้น 1 กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ สะพานขาว กรุงเทพฯ นายจุติ ไกรฤกษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (รมว.พม.) พร้อมด้วยศาสตราจารย์ถาวร โกอุดมวิทย์ อาจารย์ประจำภาควิชาภาพพิมพ์ คณะจิตรกรรม ประติมากรรม และภาพพิมพ์ มหาวิทยาลัยศิลปากร และดร.ไกรเสริม โตทับเที่ยง เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ร่วมแถลงข่าวการจัดโครงการอบรมเชิงปฏิบัติการการพัฒนาเด็กและเยาวชน ด้วยกิจกรรมศิลปะในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งกำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 27 – 29 กันยายน 2562 ที่โรงแรม ซี เอส จังหวัดปัตตานี เพื่อพัฒนาทักษะองค์ความรู้และความเชี่ยวชาญด้านศิลปะให้แก่ ครูและผู้ดูแลเด็กของกรมกิจการเด็กและเยาวชน (ดย.) และสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ให้สามารถถ่ายทอดความรู้และทักษะด้านศิลปะแก่เด็กและเยาวชนจนกระทั่งผลิตผลงานได้ และส่งเข้าประกวดและเผยแพร่สู่สาธารณะได้อย่างมีคุณภาพ

นายจุติ กล่าวว่า จากสถานการณ์ความรุนแรงในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ประกอบด้วย จังหวัดยะลา ปัตตานี และนราธิวาส ทำให้เด็กและเยาวชนได้รับผลกระทบทั้งด้านร่างกายและจิตใจด้วยสภาวะเครียด ส่งผลต่อพัฒนาการของเด็กและเยาวชนโดยตรงทั้งด้านร่างกาย อารมณ์ สติปัญญา และสังคม ดังนั้นเพื่อให้เด็กและเยาวชนในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ได้มีพัฒนาการที่เหมาะสม กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) โดยกรมกิจการเด็กและเยาวชน (ดย.) จึงได้จัดทำโครงการพัฒนาศักยภาพเด็กและเยาวชน ด้านศิลปะ ในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ขึ้น โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาทักษะองค์ความรู้และความเชี่ยวชาญด้านศิลปะให้แก่ ครู และผู้ดูแลเด็กของ ดย. และสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ให้สามารถถ่ายทอดความรู้และทักษะด้านศิลปะแก่เด็กและเยาวชนจนสามารถผลิตผลงานส่งเข้าประกวดและเผยแพร่สู่สาธารณะได้อย่างมีคุณภาพ โดยการนำศิลปะการวาดรูประบายสีที่เป็นกิจกรรมที่ทำให้เด็กและเยาวชนได้รับความเพลิดเพลิน เกิดความสงบ มีสมาธิ และมีประโยชน์ต่อพัฒนาการของเด็กและเยาวชนทั้งด้านร่างกาย ความคิดสร้างสรรค์ จินตนาการ ส่งผลให้เด็กและเยาวชนได้เติบโตเป็นประชากรที่มีคุณภาพต่อไป

 

นายจุติ กล่าวต่อว่า สำหรับโครงการดังกล่าว มีรูปแบบการดำเนินงานที่น่าสนใจ ประกอบด้วย 1) การอบรมครูและพี่เลี้ยงเด็กในสถานสงเคราะห์ ให้มีทักษะในการวาดรูปและนำไปถ่ายทอดทักษะให้กับเด็กและเยาวชน จัดขึ้นระหว่างวันที่ 27 - 29 กันยายน 2562 โดยมีครูในสังกัดกระทรวงศึกษาธิการ จำนวน 94 คน และพี่เลี้ยงเด็กในสถานสงเคราะห์ของ ดย. จำนวน 6 คน รวมทั้งสิ้น 100 คน พร้อมด้วยศาสตราจารย์ถาวร โกอุดมวิทย์ ศิลปินชั้นเยี่ยมจากการประกวดศิลปกรรมแห่งชาติ ประจำปี 2535 เป็นผู้ที่จะช่วยสอนให้เด็กได้รับการพัฒนาศักยภาพ โดยใช้กิจกรรมศิลปะ วาดรูประบายสี กิจกรรมภาพพิมพ์ โมโนปริ๊นสีน้ำ และโมโนปริ๊นสีน้ำมัน กิจกรรมภาพพิมพ์แกะไม้ และการพิมพ์โฟมบอร์ด เพื่อให้เด็กเกิดความเพลิดเพลิน เป็นประโยชน์ต่อพัฒนาการด้านอารมณ์ เกิดความคิดสร้างสรรค 2) การส่งผลงานการวาดภาพเข้าร่วมการประกวดรุ่นอายุระหว่าง 6 - 9 ปี 10 - 12 ปี 13 - 16 ปี และ 17 – 18 ปี สามารถส่งภาพประกวดที่ สถานสงเคราะห์เด็กปัตตานี สถานสงเคราะห์เด็กชายจังหวัดยะลา และสถานสงเคราะห์เด็กชายนราธิวาส โดยมีรางวัลการประกวดจำนวนรุ่นละ 13 รางวัล แบ่งเป็นรางวัลที่ 1 จำนวน 1 รางวัล รางวัลที่ 2 จำนวน 2 รางวัล และรางวัลชมเชย จำนวน 10 รางวัล ซึ่งเด็กและเยาวชนที่ผ่านการประกวดจะได้เข้ารับรางวัลจากพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่ทำเนียบรัฐบาลในช่วงปลายเดือนพฤศจิกายน 2562 และ 3) การจัดนิทรรศการและการแสดงผลงานของเด็กและเยาวชน โดยจัดแสดงที่หอศิลป์ร่วมสมัยราชดำเนินเฉลิมพระเกียรติ 84 พรรษา หรือหอศิลป์วัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร และนำเด็กและเยาวชนเยี่ยมชมสถานที่สำคัญ อาทิ มัสยิดเขตประเวศ วัดพระศรีรัตนศาสดาราม (วัดพระแก้ว) ชมเรือพระที่นั่ง และซีไลฟ์ แบงคอก โอเชียน เวิร์ล ที่ Siam Paragon

“ทั้งนี้ กระทรวง พม. พร้อมสนับสนุนการพัฒนาเด็กและเยาวชนโดยใช้ศิลปะการวาดรูป ระบายสี ซึ่งต้องอาศัยบุคลากรที่มีความใกล้ชิดและสามารถถ่ายทอดทักษะให้กับเด็กและเยาวชนได้ และที่สำคัญ คือ ครู พี่เลี้ยง ผู้ดูแลใกล้ชิดกับเด็กและเยาวชน เพื่อให้การพัฒนาเด็กและเยาวชนด้านศิลปะมีการต่อยอดด้วยการประกวดวาดภาพ รวมทั้งการแสดงผลงานของเด็กและเยาวชนดังกล่าวให้ประชาชนทั่วไปได้รับทราบ เพื่อเพิ่มความภาคภูมิใจให้กับเด็กและเยาวชน และส่งผลต่อการพัฒนาศักยภาพเด็กและเยาวชนให้เป็นประชากรที่มีคุณภาพต่อไป” นายจุติ กล่าวในตอนท้าย