ป.ป.ช.สั่ง“มนัญญา”ยื่นบัญชีทรัพย์สิน
ป.ป.ช.สั่ง “มนัญญา” รมช.เกษตรฯ ยื่นบัญชีทรัพย์สิน-หนี้สิน ชี้กฎหมายยกเว้นไม่ครอบคลุมตำแหน่งนายกเทศมนตรี เตรียมเรียก ส.ส.แจ้งทรัพย์สิน"เหล็กไหล-พระเครื่อง-อุกกาบาต"ให้ข้อมูลเพิ่ม
พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ ประธานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจรติแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เปิดเผยวานนี้(26ก.ย.)ว่า ที่ประชุม ป.ป.ช. มีมติให้ น.ส.มนัญญา ไทยเศรษฐ์ รมช.เกษตรและสหกรณ์ พรรคภูมิใจไทย ต้องยื่นแสดงรายการบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินต่อป.ป.ช. โดยคณะกรรมการป.ป.ช.ได้พิจารณาข้อกฎหมายแล้วเห็นว่า ในกฎหมาย ป.ป.ช.มาตรา 105 วงเล็บ 4 ระบุว่า กรณีพ้นจากตำแหน่งทางการเมืองเดิมและเข้ารับตำแหน่งใหม่ภายใน 1 เดือน บุคคลนั้นไม่ต้องยื่นแสดงบัญชีทรัพย์สินนั้น เข้าข่ายสำหรับผู้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรี ส.ส. ส.ว.เท่านั้น ไม่เชื่อมโยงไปถึงตำแหน่งทางการเมืองท้องถิ่น อย่างนายกเทศมนตรี
“เจ้าหน้าที่ ป.ป.ช.จะแจ้งไปยัง น.ส.มนัญญา ให้ดำเนินการยื่นแสดงบัญชีทรัพย์สินและหนี้สิน ทั้งช่วงพ้นจากตำแหน่งนายกเทศมนตรี และช่วงรับตำแหน่งรัฐมนตรี ซึ่งในกรณีนี้เป็นปัญหาเรื่องการตีความข้อกฎหมายที่แตกต่างกัน ดังนั้น น.ส.มนัญญา ยังสามารถยื่นขอผ่อนผัน เพื่อขยายเวลาการยื่นแสดงบัญชีทรัพย์สินได้”
ส่วนกรณีการตรวจสอบบัญชีทรัพย์สิน ที่มีการยื่นเป็นพระเครื่อง เหล็กไหล และอุกกาบาตนั้น ทางสำนักตรวจสอบทรัพย์สินของ ป.ป.ช.จะศึกษาข้อมูลจากผู้ทรงคุณวุฒิ ที่มีความรู้เกี่ยวกับเรื่องนั้นๆ นำมาเป็นข้อมูลเพิ่มเติม และจะเชิญผู้ที่แสดงบัญชีทรัพย์สินมาให้ความเห็นประกอบ ตรวจสอบทรัพย์สิน พร้อมถ่ายภาพทรัพย์สินไว้เป็นหลักฐาน
“จะดำเนินการอย่างรอบคอบ เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาในอนาคต หากทรัพย์สินดังกล่าวมีการเปลี่ยนมือไป เรื่องของการแสดงบัญชีทรัพย์สินนี้ แม้จะไม่มีปัญหา แต่ก็เป็นเรื่องที่ผู้แจ้งบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินต้องตอบสังคมให้ได้ ถึงที่มาของรายได้และทรัพย์สินดังกล่าว และเป็นเรื่องความน่าเชื่อถือของตัวผู้ที่ยื่นเอง" พล.ต.อ.วัชรพล กล่าว
ขณะเดียวกัน ที่ศาลฎีกาคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง นายกัณต์พัศฐ์ สิงห์ทอง ทนายความ ได้นำ นางระพิพรรณ พงศ์เรืองรอง อายุ 46 ปี อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย และภรรยาของนายอริสมันต์ พงศ์เรืองรอง อดีตแกนนำ นปช. ซึ่งศาลฎีกาฯ มีคำพิพากษาจำคุก 2 เดือน โดยไม่รอการลงโทษ กรณี ป.ป.ช.กล่าวหาจงใจยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินอันเป็นเท็จ เข้าแสดงตัวต่อศาลฎีกาฯ หลังจากเมื่อวันที่ 16 ก.ย. ที่ผ่านมา ศาลฎีกาได้มีคำสั่งให้ออกหมายจับนางระพิพรรณ เนื่องจากไม่มาฟังคำพิพากษาในวันดังกล่าว และให้ติดตามตัวมารับโทษตามคำพิพากษา
โดยหลังจากที่นางระพิพรรณมาแสดงตัวต่อศาลฎีกาฯแล้ว ได้ยื่นคำร้องพร้อมหลักทรัพย์ขอปล่อยชั่วคราว ระหว่างที่จะอุทธรณ์คำพิพากษาดังกล่าวต่อที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกาด้วย ซึ่งศาลก็พิจารณาเห็นว่า ในวันนัดอ่านคำพิพากษา จำเลยไม่ได้มาศาล ซึ่งมีพฤติการณ์น่าจะหลบหนี ดังนั้นหากปล่อยตัวชั่วคราวก็เกรงว่าจะหลบหนี ศาลจึงให้ยกคำร้อง จากนั้นได้นำตัวนางระพิพรรณไปควบคุมยังทัณฑสถานหญิงกลาง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับทรัพย์สิน ที่ ป.ป.ช.ชี้มูลความผิดว่า เพิ่มขึ้นผิดปกติของนางระพิพรรณ ดังนี้ เงินฝากธนาคาร 6 บัญชี จำนวนเงิน 27,618,954 บาท,ที่ดิน 3 แปลง มูลค่า 9,492,000 บาท สิ่งปลูกสร้าง 1 หลัง มูลค่า 2 ล้านบาท รถยนต์ 1 คัน มูลค่า 1,805,272 บาท และเงินที่นำมาชำระหนี้เงินกู้ธนาคาร จำนวน 1.9 ล้านบาท