ศาลจำคุก10 ปี จำเลยคดีบุกรุกที่ดินอุทยานฯสิรินาถ
ดีเอสไอเผยศาลอาญาสั่งจำคุก 10 ปี จำเลยคดีบุกรุกที่ดินอุทยานฯสิรินาถ ภูเก็ต-เพิกถอนฉโนดที่ดิน 4 แปลง ส่งคืนอุทยาน 93 ไร่ เรียกค่าเสียหายคืนรัฐได้กว่า 800 ล้านบาท
พ.ต.ท.กรวัชร์ ปานประภากร รองอธิบดีดีเอสไอ ในฐานะโฆษกดีเอสไอ เปิดเผยว่า เมื่อวันที่25 ก.ย.ที่ผ่านมาศาลอาญามีคำพิพากษาลงโทษจำคุกนายเอนก ลีประชา จำเลยในคดีบุกรุกที่อุทยานแห่งชาติสิรินาถ จังหวัดภูเก็ต และมีคำสั่งเพิกถอนที่ดินกลับเป็นเขตอุทยานแห่งชาติ เรียกความเสียหายคืนรัฐได้กว่า 800 ล้านบาท โดยคดีดังกล่าวกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช ได้มีหนังสือ ลงวันที่ 14 ส.ค.2555 ร้องขอให้ดีเอสไอตรวจสอบกรณีบุกรุก ยึดถือครอบครองที่ดินในเขตอุทยานแห่งชาติสิรินาถ จ.ภูเก็ต แต่กลับมีโฉนดที่ดิน แสดงกรรมสิทธิในที่ดินดังกล่าว ซึ่งดีเอสไอได้ตั้งคณะพนักงานสืบสวนเพื่อแสวงหาข้อเท็จจริงและพยานหลักฐานโดยละเอียดพบว่ามีมูลความผิดทางอาญา จึงเสนอเรื่องต่อคณะกรรมการคดีพิเศษ ได้รับเป็นคดีพิเศษเมื่อปี 2557 จากการสืบสวน พบผู้กระทำความผิด 4 ราย ต่างกรรมต่างวาระ จึงมีการแยกการสอบสวนเป็นรายคดี
พ.ต.ท กรวัชร์ กล่าวอีกว่า สำหรับคดีนี้รับเป็นคดีพิเศษที่ 19/2558 เป็นกรณีการออกเอกสารสิทธิตามโฉนดที่ดิน เลขที่ 42053 และ 42054 ตำบลสาคู อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต เนื้อที่รวม 93 ไร่ มีการอ้างหลักฐานแจ้งการครอบครอง ส.ค.1 เพื่อใช้ประกอบในการขอออกเอกสารสิทธิเป็นโฉนดที่ดิน จากสอบสวนพบว่า เอกสาร ส.ค.1 ที่ใช้กล่าวอ้างเป็นที่ดินคนละพื้นที่กับจุดที่มีการออกโฉนดที่ดิน และจากการอ่านแปลภาพถ่ายทางอากาศโดยผู้เชี่ยวชาญพบว่าที่ดินบริเวณที่เกิดเหตุมีสภาพเป็นป่า ในทางคดีพบมีทั้งบุคคลธรรมดาและนิติบุคคลเกี่ยวข้องในการกระทำผิดหลายคนและเป็นความผิดหลายฐานความผิด อธิบดีดีเอสไอได้มีความเห็นควรสั่งฟ้องผู้ต้องหา รวม 8 คน ในความผิดฐานร่วมกันยึดถือหรือครอบครองที่ดินในเขตอุทยานแห่งชาติ, ร่วมกันยึดถือครอบครองทำประโยชน์หรืออาศัยในที่ดินในเขตป่าสงวนแห่งชาติ หรือกระทำด้วยประการใดๆ อันเป็นการเสื่อมเสียแก่สภาพป่าสงวนแห่งชาติ รวมทั้งร่วมกันปลอมและใช้เอกสารสิทธิปลอม และแจ้งให้เจ้าพนักงานผู้กระทำการตามหน้าที่จดข้อความอันเป็นเท็จลงในเอกสารราชการโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน จึงส่งพนักงานอัยการ สำนักงานคดีพิเศษ สำนักงานอัยการสูงสุดเพื่อดำเนินการตามกฎหมาย ต่อมาพนักงานอัยการได้ยื่นฟ้องผู้ต้องหาเป็นจำเลยต่อศาลอาญา
พ.ต.ท กรวัชร์ กล่าวด้วยว่า เมื่อวันที่ 25 ก.ย.ที่ผ่านมาศาลอาญาได้มีคำพิพากษาเรื่องนี้ในคดีหมายเลขแดงที่ อ.2513/2562 พิพากษาว่า นายเอนก ลีประชา (ประชา) จำเลยที่ 3 มีความผิดหลายกรรมต่างกัน ให้ลงโทษทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไป คดีร่วมกันยึดถือครอบครองทำประโยชน์ในที่ดินอันเป็นการเสื่อมเสียแก่สภาพป่าสงวนแห่งชาติ จำคุก 12 ปี ร่วมกันแจ้งให้เจ้าพนักงาน ผู้กระทำการตามหน้าที่จดข้อความอันเป็นเท็จลงในเอกสารราชการ จำคุก 1 ปี ฐานร่วมกันใช้เอกสารสิทธิปลอม จำคุก 2 ปี รวมจำคุก 15 ปี แต่ในชั้นพิจารณานจำเลยให้การเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษหนึ่งในสาม คงจำคุก 10 ปี และมีคำสั่งให้จำเลยที่ 3 คนงาน ผู้รับจ้าง ผู้แทน และบริวารของจำเลยที่ 3 กับพวก ออกจากเขตป่าสงวนแห่งชาติ เขตอุทยานแห่งชาติและเขตป่า และให้เพิกถอนโฉนดที่ดินเลขที่ 42053, 48252, 48253, 42054 ตำบลสาคู อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต