‘เวิลด์ลีส’สินเชื่อโตทะลุเป้า คาดปีหน้าแตะ6พันล้าน
“เวิลด์ลีส” ปรับเป้าสินเชื่อใหม่ปีนี้แตะ4.5พันล้านบาท เติบโต30% หลัง8เดือนทะลุเป้า เดินหน้าขยายฐานลูกค้าใหม่ ผ่านเครื่องสมัครสินเชื่ออัตโนมัติ" SAMM" รู้ผลภายใน 30 นาที พร้อมยื่นขอไลเซ่นส์สินเชื่อจำนำทะเบียน ลุ้นธปท.ไฟเขียวขยายตลาดปีหน้า
นายทวีพล เจริญกิตติคุณไพศาล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัทเวิลด์ลีส จำกัด ผู้ให้บริการสินเชื่อเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ ในเครือธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย เปิดเผยว่า ในช่วง 8 เดือนของปี 2562 บริษัทมีสินเชื่อปล่อยใหม่ 2,900 ล้านบาท เติบโต 25-30% สูงกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ 25% บริษัทจึงปรับเป้าหมายปีนี้เป็น 4,500ล้านบาท หรือเติบโต30% โดยช่วง 3 เดือนสุดท้ายปีนี้ จะต้องมีสินเชื่อใหม่เพิ่มเป็น500ล้านบาทต่อเดือน จากเดิม 400 ล้านบาทต่อเดือน ส่วนปีหน้าตั้งเป้าสินเชื่อใหม่ 6,000 ล้านบาท เติบโต 30-40%
ขณะที่ยอดสินเชื่อคงค้างปัจจุบันอยู่ที่5,000 เติบโต10-20% คาดว่าทั้งปีนี้น่าจะได้ถึง5,200 ล้านบาท และในปีหน้า 8,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 4,600 ล้านบาท สาเหตุที่สินเชื่อคงค้างไม่เพิ่มขึ้นมากเนื่องจากอายุสัญญาสินเชื่อรถจักรยานยนต์ค่อนข้างสั้น เฉลี่ย 2ปีครึ่งหรือ30เดือน โดย 98%เป็นสินเชื่อเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ และที่เหลือเป็นสินเชื่อเล่มทะเบียน “สองล้อแลกเงิน”
นายทวีผล กล่าวอีกว่า บริษัทสามารถเติบโตสวนกระแสตลาดรถจักรยานยนต์ที่ลดลง 4% ปัจจัยหลักๆ มาจากการขยายไปยังพื้นที่ใหม่ๆและเกณฑ์กับดูแลของทางการที่เข้าคุมดีลเลอร์ที่ปล่อยสินเชื่อเอง ทำให้เป็นโอกาสของเรามากขึ้น ขณะที่ในช่วงที่เศรษฐกิจไม่ดีถือ การแข่งขันจึงไม่ได้สูง
นอกจากนี้ การพัฒนานวัตกรรมเพิ่มเติมทำให้ขยายตลาดได้เพิ่มขึ้นและช่วยลดต้นทุนด้วย โดยบริษัทได้เปิดให้บริการเครื่อง SAMM (Self-Apply Machine for Motorcycle Loan) ที่ช่วยให้ลูกค้าสามารถขอสินเชื่อได้ด้วยตัวเองที่ร้านจำหน่ายรถจักรยานยนต์ และล่าสุดได้พัฒนามาถึงเวอร์ชั่น 4 หากมีเอกสารครบสามารถทราบผลอนุมัติได้เร็วที่สุดภายใน 30 นาที โดยปัจจุบันมีเครื่อง SAMM 400 เครื่อง และตั้งเป้าหมายเพิ่มเป็น 500 เครื่องในปลายปีนี้ ซึ่งปัจจุบันมีสัดส่วนการขอสินเชื่อผ่านเครื่อง SAMM ประมาณ 55% และผ่านเจ้าหน้าที่ 45% รวมถึงเข้าไปสร้างความสัมพันธ์กับคู่ค้าร้านขายรถจักรยานยนต์ ซึ่งแบงก์เข้าไปสนับสนุนสินเชื่อให้
เขากล่าวว่า ในส่วนการขยายสินเชื่อจำนำทะเบียนนั้น คาดว่าน่าจะเริ่มได้ในปีหน้า หลังจากบริษัทได้ยื่นขอใบอนุญาตสินเชื่อส่วนบุคคลที่มีเล่มทะเบียนเป็นหลักประกัน ไปยังธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) ไปเมื่อ2เดือนที่ผ่านมา
“แม้ภาวะเศรษฐกิจปีนี้จะชะลอตัวและในปีนี้แต่ปัจจุบันยังเติบโตกว่าเป้าหมาย และในช่วง 2-3 เดือนที่เหลือนี้ บริษัทยังคงกลยุทธ์ต้องเร่งสินเชื่ออย่างต่อเนื่อง แม้ว่าเศรษฐกิจโดยรวมจะไม่เอื้ออำนวย เพื่อปูทางไปสู่การเติบโตที่มากกว่าในปีหน้า ดังนั้นสินเชื่อในช่วง3เดือนที่เหลือ มั่นใจว่าจะโตเพิ่มขึ้นอีก10-15% ตามแผน ”
ทางด้านหนี้ไม่ก่อให้เกิดรายได้(NPL )สิ้นปีนี้ บริษัทมั่นใจว่าจะคุมไว้ที่ระดับไม่เกิน3% จากปัจจุบันอยู่3% และปีหน้าจะทรงตัวที่ระดับนี้ โดยปัญหาน้ำท่วมที่ผ่านมาบริษัทได้รับผลกระทบน้อยมาก และมาตรการคุมภาระหนี้ต่อรายได้ (DSR ) ของธปท.ก็ไม่ได้รับผลกระทบเพราะปัจจุบันเราใช้เกณฑ์ดังกล่าวในการให้สินเชื่ออย่่าางเข้มงวดอยู่แล้ว ทั้งเกณฑ์ของธปท. และแบงก์ชาติมาเลเชีย โดยปัจจุบันบริษัทมีสัดส่วน DSRอยู่ที่ 70%