จี้รบ.เปิดโรดแม็พแก้ปัญหาสิ่งแวดล้อม ไม่ใช่จบแค่ลงนามแต่ไร้ปฏิบัติ
"หมอระวี" จี้รัฐบาลเปิดโรดแม็พแก้ปัญหาสิ่งแวดล้อม ไม่ใช่จบแค่ลงนาม แต่ไร้การปฏิบัติ เตือนพัฒนาเศณษฐกิจแต่ต้องคำนึงผลกระทบด้วย
นายแพทย์ระวี มาศฉมาดล ส.ส.บัญชีรายชื่อและหัวหน้าพรรคพลังธรรมใหม่ กล่าวถึง ปัญหาสิ่งแวดล้อมว่า ไม่ใช่เรื่องไกลตัวอีกต่อไป เป็นวิกฤตที่คืบคลานเข้าใกล้ชีวิตประจำวันของมนุษย์มากขึ้น ไม่เว้นแม้กระทั่งคนไทย ดังจะเห็นได้จากปัญหา วิกฤตฝุ่นละอองในเมืองใหญ่ น้ำท่วม ฝุ่นควันในจังหวัดภาคใต้ที่ได้รับผลกระทบจากไฟป่าอินโดนีเซีย สิ่งเหล่านี้ตอกย้ำให้เห็นว่าปัญหาสิ่งแวดล้อมไม่ใช่แค่เรื่องของประเทศใดประเทศหนึ่ง เพราะปัญหาที่เกิดในประเทศเพื่อนบ้านกระทบมาถึงประเทศของเราด้วย กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ซึ่งเป็นหน่วยงานหลักในการขับเคลื่อน ASEAN Haze-Free Roadmap เพื่อแก้ปัญหาหมอกควันข้ามแดน น่าจะชี้แจงต่อสาธารณะให้สังคมได้รับทราบว่า เราได้ใช้ประโยชน์จากโรดแม็พนี้ในการแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นในปัจจุบันอย่างไรบ้าง เพื่อให้เห็นชัดเจนว่าโรดแม็พที่ทำร่วมกันไม่ได้จบแค่การลงนามที่ไร้การปฏิบัติในการแก้ปัญหาร่วมกันอย่างแท้จริง
นายแพทย์ระวี กล่าวอีกว่า การประชุมสุดยอดว่าด้วยปัญหาสภาพอากาศของสหประชาชาติเมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่ง “เกรียตา ธันเบิร์ก” นักรณรงค์ด้านสิ่งแวดล้อมวัย 16 ปี ได้ขึ้นกล่าวปราศรัยถึงปัญหาระบบนิเวศน์ที่กำลังได้รับผลกระทบเป็นลูกโซ่จากพฤติกรรมของมนุษย์ ที่มุ่งแต่การเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ พร้อมปลุกคนรุ่นใหม่ให้หันมาสนใจปัญหาสิ่งแวดล้อมแทนที่จะฝากความหวังไว้กับบรรดาผู้นำโลกว่า นอกจากเป็นบทสะท้อนให้เห็นถึงกระแสคนรุ่นใหม่ที่เข้ามามีส่วนร่วมกับการรณรงค์ให้ทั่วโลกหันมาสนใจปัญหาสิ่งแวดล้อมอย่างจริงจังแล้ว ยังเป็นบทพิสูจน์ถึงการแก้ปัญหาสิ่งแวดล้อมของแต่ละประเทศด้วยว่ามีความจริงจัง และมีมาตรการเพียงพอในการต่อสู้กับปัญหาการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศโลกมากน้อยเพียงใด
นายแพทย์ระวี กล่าวอีกวา รัฐบาลควรตื่นตัวในการวางแผนรับมือต่อปัญหาสิ่งแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว และปรับวิธีคิดในการบริหารจัดการจากเดิมที่มุ่งเน้นแต่เศรษฐกิจมาเป็นการพัฒนาเศรษฐกิจควบคู่ไปกับการวางแผนด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมอย่างรอบคอบ รองรับการสร้างเขตเศรษฐกิจใหม่ในหลายพื้นที่ เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมที่ยากต่อการเยียวยาในอนาคต
“การพัฒนาเศรษฐกิจ เป็นเรื่องที่รัฐบาลต้องผลักดัน แต่ต้องนึกถึงผลกระทบที่ตามมาของสิ่งแวดล้อมเช่นเดียวกัน ไม่ใช่ ตอบโจทย์ในระยะสั้นแล้วจะส่งผลในระยะยาว อย่าให้เหมือนคนที่เร่งหาเงินสร้างฐานะ มาแล้วต้องมารักษาตัวในภายหลัง”