ประกันภัยข้าวอ่วมจ่อเคลมสูง2.3พันล.

นายสุทธิพล  ทวีชัยการ  เลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย(คปภ.) เปิดเผยหลังโครงการเทรนนิงฟอร์เดอะเทรนเนอร์สำหรับประกันภัยข้าวนาปีและข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ปีการผลิต2562 ที่จังหวัดนครศรีธรรมราชว่า ขณะนี้ได้กำชับให้บริษัทประกันภัยและคปภ. ส่วนภูมิภาคเร่งดูแลช่วยเหลือชาวนาที่ประสบภัยพิบัติทั้งภัยแล้งและอุทกภัยให้ได้รับค่าสินไหมทดแทนภายใน7 วันทำการหรือเร็วกว่านั้นหลังมีการยื่นเอกสารครบเพราะปีนี้พื้นที่ปลูกข้าวเกิดความรุนแรงเสียหายค่อนข้างมาก

“ข้อมูลล่าสุดมีพื้นที่ได้รับความเสียหายจากภัยธรรมชาติทั้งภัยแล้งและน้ำท่วมแล้ว1.38 ล้านไร่และบริษัทเริ่มจ่ายค่าสินไหมทดแทนไปแล้วกว่า1,742  ล้านบาทคิดเป็นสัดส่วนค่าสินไหมทดแทนต่อเบี้ยประกันภัยเท่ากับ80.04% แต่หลังจากนี้ยังต้องมีการสำรวจความเสียหายพื้นที่ภาคกลางและอีสานเพิ่มเติมอีกรวมถึงพื้นที่ปลูกข้าวในภาคใต้ซึ่งเริ่มเข้ามรสุมในเดือนนี้จึงทำให้แนวโน้มการจ่ายค่าเคลมปีนี้มีสูงกว่าเบี้ยประกันที่ภาครัฐจ่ายไปดังนั้นโครงการประกันภัยนาข้าวจึงเข้ามาช่วยลดความเสี่ยงให้ชาวนาและช่วยให้รัฐบริหารงบได้อย่างคุ้มค่าซึ่งคปภ. สนับสนุนพัฒนาการทำประกันภัยในปีหน้าให้มีความยั่งยืน

ปัจจุบันมีเกษตรกรทำประกันภัยข้าวนาปีปีการผลิต62 จำนวนทั้งสิ้น2.13 ล้านราย  โดยมีพื้นที่ที่ทำประกันภัยข้าวนาปีพื้นฐานส่วนที่1 ซึ่งรัฐจ่ายเบี้ยให้27.99  ล้านไร่และประกันภัยส่งนเพิ่มเติมให้เกษตรกรซื้อความคุ้มครองส่วนเพิ่มเอง2.43 ล้านไร่  จึงทำให้ณเดือนก.ย.62 มีพื้นที่ทำประกันภัยข้าวนาปีจำนวน30.42 ล้านไร่  ซึ่งถือเป็นจำนวนมากสุดนับตั้งแต่ทำประกันภัยมา

สำหรับภาพรวมของการทำประกันภัยข้าวนาปีในปีนี้แม้จะยังไม่รวมตัวเลขการทำประกันภัยข้าวนาปีในพื้นที่ภาคใต้เนื่องจากภาคใต้ยังเปิดรับประกันภัยข้าวนาปีไปจนถึงวันที่15 ธ.ค. 62 ก็ถือว่าประสบความสำเร็จเป็นอย่างมากและที่สำคัญระบบประกันภัยสามารถเข้าไปบริหารความเสี่ยงและเยียวยาความสูญเสียให้กับพี่น้องเกษตรกรได้อย่างเป็นระบบรและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นโดยเห็นได้จากภัยธรรมชาติที่เกิดขึ้นในหลายพื้นที่ของประเทศไทย

นายกี่เดช อนันต์ศิริประภาผู้อำนวยการบริหารสมาคมประกันวินาศภัยไทยกล่าวว่า ภาพรวมการทำประกันนาข้าวปีนี้สูงกว่าที่คิด โดยเฉพาะการทำประกันภัยเพิ่มเติมที่มีมากกว่า2 ล้านไร่ส่วนความเสียหายปีนี้นับว่าสูงมากโดยประเมินว่าจะสูงเกินกว่าต้นทุนเบี้ยประกัน2,300 ล้านบาทแต่บริษัทประกันก็พร้อมเร่งจ่ายชดเชยให้ได้ภายใน7 วันโดยชดเชยให้ไร่ละ1,260 บาทเพื่อช่วยเหลือเกษตรกร

“ถือเป็นเรื่องปกติที่บางปีหากเกิดภัยธรรมชาติเสียหายมากบริษัทก็ต้องมีต้นทุนเยอะแต่บางปีเกิดภัยพิบัติน้อยก็มีต้นทุนต่ำแต่ทุกบริษัทพร้อมดำเนินการรับประกันภัยต่อไป”

นายศิริพัฒ พัฒกุลผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช กล่าวว่าการจัดอบรมความรู้ด้านประกันภัยในปีนี้ จะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งกับเกษตรกรในจังหวัดนครศรีธรรมราช เพื่อนำระบบประกันภัยใช้เป็นเครื่องมือบริหารความเสี่ยงจากภัยธรรมชาติได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นและหลังจากนี้จะพยายามทำพื้นที่นาเข้าโครงการประกันได้ครบ100%