'คิงคองก้อง'นักบิดไทยกับความภูมิใจในเวทีระดับโลก

'คิงคองก้อง'นักบิดไทยกับความภูมิใจในเวทีระดับโลก

ปิดฉากลงอย่างสวยงามศึกรถจักรยานยนต์ทางเรียบชิงแชมป์โลก พีทีที ไทยแลนด์ กรังด์ปรีซ์ 2019 ซึ่งจัดขึ้นเป็นครั้งที่ 2 ในเมืองไทย เมื่อวันที่ 6 ต.ค.ที่ผ่านมา

     โดยแฟนๆกีฬาความเร็วชาวไทยโดยเฉพาะแฟนคลับของ “มาร์ค มาร์เกซ” นักบิดชาวสแปนิชจาก เรปโซล ฮอนด้า คงมีความสุขกันถ้วนหน้าที่ได้เห็นนักบิดคนโปรดฉลองแชมป์โลกสมัย 8 ที่เมืองไทย 

     แต่เหนืออื่นใด ผลงานของนักแข่งชาวไทยอย่าง “สมเกียรติ จันทรา” หมายเลข 35 นักบิดหนุ่มจากค่าย เอ.พี.ฮอนด้า ก็เป็นสิ่งที่น่าสนใจและติดตามยิ่งในระยะยาว โดยเฉพาะการที่เจ้าตัวได้รับการสนับสนุนจาก อิเดมิตสึ ฮอนด้า ทีม เอเชีย ต้นสังกัดจากญี่ปุ่น ให้ลงแข่งขันรุ่น โมโตทู เป็นปีที่ 2 ติดต่อกัน

     สมเกียรติ จันทรา ชื่อนี้แฟนความเร็วสองล้อในบ้านเราย่อมคุ้นหูกันอย่างดี เพราะนี่คือเด็กหนุ่มที่ได้รับการสนับสนุนโดย เอ.พี.ฮอนด้า ผู้นำวงการรถจักรยานยนต์ของเมืองไทย ที่เห็นแววความเก่งกาจก่อนนำมาปลุกปั้น ผลักดันออกไปสร้างชื่อในรายการระดับเอเชีย จนคว้าแชมป์ เอเชีย ทาเลนต์ คัพ ปี 2016 อันเปรียบเสมือนใบเบิกทางชั้นดีก่อนได้รับโอกาสจาก อิเดมิตสึ ฮอนด้า ทีม เอเชีย ทีมแข่งในการแข่งขันระดับ โมโตทู ที่เห็นแววความสามารถก่อนดึงมาเป็นนักแข่งประจำทีมแบบเต็มตัวในปี 2019

     แม้จะเป็นปีแรกที่ถูกยกระดับมาแข่งรายการระดับโลก แต่ “คิงคองก้อง” ก็มีผลงานชนิดที่ต้นสังกัดอย่าง อิเดมิตสึ ฮอนด้า ทีม เอเชีย พึงพอใจ โดยเก็บแต้มไปแล้ว 5 สนาม ตั้งแต่ อารากอน, เช็ก, ออสเตรีย, ซาน มาริโน่ และล่าสุดกับโฮมเรซที่เมืองไทย ซึ่ง สมเกียรติ แสดงฝีมือในวันชิงชนะเลิศด้วยการบิดแซงคู่แข่งทีละคันจนขึ้นมารั้งอันดับ 8 แม้จะพลาดเสียตำแหน่งในช่วงรอบหลังแต่สุดท้ายเจ้าตัวก็บิดคันเร่งจบอันดับ 9 เท่ากับปีที่แล้ว ถือว่าได้ตามเป้าหมายที่ตั้งใจไว้แต่แรกก่อนแข่งที่สนามช้างฯ คืออันดับท็อป 10

     ฝีมือและความสามารถของ สมเกียรติ จันทรา ชัดเจนแล้วว่าไม่เป็นสองรองใครเลยในระดับโลก แถมยังขับขี่สู้กับนักบิดจากยุโรปที่มีประสบการณ์ช่ำชองบนสังเวียน โมโตทู อย่างสมศักดิ์ศรี จึงไม่น่าแปลกใจที่ ดอร์น่า ผู้จัดการแข่งขันรถจักรยานยนต์ระดับโลก ยกให้เจ้าตัวเป็นนักบิดหนุ่มจากเอเชียที่มีพัฒนาการน่าสนใจและน่าจับตามองในอนาคต เช่นเดียวกับ อิเดมิตสึ ฮอนด้า ทีม เอเชีย ที่มอบของขวัญก่อนวันชิงชนะเลิศ พีทีที ไทยแลนด์ กรังด์ ปรีซ์ ให้กับนักบิดหนุ่มวัย 20 ปี ด้วยการต่อสัญญาฉบับใหม่ เป็นนักแข่ง โมโตทู ปี 2020 อย่างเป็นทางการ

   “ตื่นเต้นและดีใจมากที่ได้โอกาสลงแข่ง โมโตทู อีกครั้งในฤดูกาล 2020 กับทีม “อิเดมิตสึ ฮอนด้า ทีม เอเชีย” เป้าหมายของผมคือจะพยายามแสดงฝีมือแบบสุดความสามารถเพื่อคว้าโพเดียมมาครองให้ได้ และผมจะทำให้ดีที่สุดเพื่อแฟนๆ ชาวไทยทุกคนที่คอยเชียร์ผมอยู่เสมอ” สมเกียรติ เปิดใจหลังจากได้รับการยืนยันเป็นนักแข่ง โมโตทู ฤดูกาล 2020 กับ อิเดมิตสึ ฮอนด้า ทีม เอเชีย อย่างเป็นทางการ

     ด้วยวัยเพียง 20 ปี ในวงการนักบิดถือว่ายังมีโอกาสเก็บเกี่ยวประสบการณ์และพัฒนาฝีมือการขับขี่ได้ขึ้นไปอีกในอนาคต แน่นอนว่าเป้าหมายของ สมเกียรติ จันทรา ในปี 2020 คือตำแหน่งโพเดียมอันเป็นสิ่งที่ยังไม่เคยมีนักบิดชาวไทยคนไหนทำได้มาก่อนในการแข่งขันระดับโลก เวิลด์ จีพี และหากเจ้าตัวทำสำเร็จ โอกาสที่แฟนกีฬามอเตอร์สปอร์ตชาวไทย จะได้เห็นนักแข่งสัญชาติไทย 100% ขึ้นไปแสดงฝีมืออย่างเฉิดฉายเต็มภาคภูมิใจ ในการแข่งขันชั้นสูงสุดของโลกอย่าง “โมโตจีพี” ก็คงอยู่ไม่ไกลเกินเอื้อม ตามโรดแมปที่ เอ.พี.ฮอนด้า วางไว้ในชื่อโครงการ “เรซ ทู เดอะ ดรีม”