กลุ่มแก้รธน.ร้อง 'ปธ.ศาลฎีกา' ให้ความเป็นธรรม 'ผู้พิพากษายิงตัวเอง'

ที่ศาลฎีกา สนามหลวง เมื่อเวลา 10.00 น. นายอนุรักษ์ เจนตวนิชย์ หรือ ฟอร์ด เส้นทางสีแดง แลกลุ่มประชาชนรณรงค์แก้ไขรัฐธรมนูญ ซึ่งสวมเสื้อยืดสีดำ สกรีนข้อความ "คืนคำพิพากษาให้ผู้พิพากษา คืนความยุติธรรมให้ประชาชน" ที่เป็นการเคลื่อนไหวเชิงสัญลักษณ์ ประมาณ 20 คน เดินทางมายื่นหนังสือถึง นายไสลเกษ วัฒนพันธุ์ ประธานศาลฎีกา เพื่อพิจารณาให้ความเป็นธรรม กรณีนายคณากร เพียรชนะ ผู้พิพากษาหัวหน้าคณะชั้นต้นในศาลจังหวัดยะลา ที่ก่อเหตุยิงตัวเองจนได้รับบาดเจ็บ

โดยวันนี้นายเอกชัย หงส์กังวาน นักกิจกรรมและนักเคลื่อนไหวทางการเมือง ก็ได้เดินทางมาร่วมด้วย โดยมีนายสุรินทร์ ชลพัฒนา เลขาธิการประธานศาลฎีกา เป็นผู้แทนรับหนังสือดังกล่าวไว้ ซึ่งจะได้นำเรียนประธานศาลฎีกา ตามขั้นตอนต่อไป

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการยื่นหนังสือครั้งนี้ พ.ต.อ.อรรถวิทย์ สายสืบ รอง ผบก.น.1 , พ.ต.อ.พาติกรณ์ ศรชัย ผกก.สน.ชนะสงคราม ได้นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจในเครื่องแบบ ประมาณ 30-50 นาย มาดูแลรักษาความ เรียบร้อยบริเวณ หน้าประตูทางเข้าศาลฎีกาสนามหลวง ยาวไปจนถึงบริเวณศาลหลักเมืองซึ่งอยู่ด้านข้างอาคารศาลฎีกา สนามหลวง ที่เป็นจุดซึ่งฟอร์ด เส้นทางสีแดงและคณะ ได้รวมตัวกันก่อนจะเดินทางมายื่นหนังสือ

พ.ต.อ.อรรถวิทย์ สายสืบ รอง ผบก.น.1 ได้ชี้แจงทำความเข้าใจกับคณะของฟอร์ด เส้นทางสีแดงว่าได้ประสานกับทางศาล ซึ่งจะมีผู้แทนศาลฎีกาเป็นผู้มารับหนังสือ โดยจะอนุญาตให้ตัวแทนของคณะฟอร์ด เส้นทางสีแดง บางส่วนเข้าไปร่วมยื่นหนังสือ และหลังจากยื่นหนังสือเสร็จแล้วก็ขอความร่วมมือให้ถอดเสื้อยืดสีดำพิมพ์ข้อความดังกล่าว ซึ่งคณะฟอร์ด เส้นทางสีแดงสวมใส่เป็นการเคลื่อนไหวเชิงสัญลักษณ์ต่อการยื่นหนังสือในครั้งนี้ด้วย โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจสายสืบ ก็จะติดตามดูแล คอยส่งคณะฟอร์ด เส้นทางสีแดง จนกว่าจะได้เดินทางกลับจนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

ขณะที่ก่อนการเข้ายื่นหนังสือต่อผู้แทนประธานศาลฎีกา "ฟอร์ด เส้นทางสีแดง" ได้ยืนอ่านแถลงการณ์ บริเวณริมรั้วทางเข้าศาลฎีกา เนื้อหาสรุปว่า กราบเรียน นายไสล เกษวัฒนพันธุ์ ประธานศาลฎีกา จากกรณีที่นายคณากร เพียรชนะ ผู้พิพากษา หัวหน้าคณะชั้นต้นในศาลจังหวัดยะลา ได้ใช้อาวุธปืนยิงตนเอง บนบัลลังก์เมื่อวันที่ 4 กพ. 62 ตามที่ได้ปรากฏเป็นข่าว โดยได้ให้เหตุผลถึงการที่ไม่สามารถ ปฏิบัติตามคำสั่ง ของอธิบดีผู้พิพากษาภาค 9 ที่แทรกแซงการ พิจารณาคดีโดยมีหนังสือรับสั่งให้ ลงโทษจำเลยทั้ง 5 คน โดยไม่ปรากฏหลักฐานชัดเจนว่า จำเลยทั้ง 5 คนได้กระทำผิดจริง พร้อมกับเรียกร้องไปยังสภานิติบัญญัติ ให้มีการแก้ไขพระธรรมนูญศาลยุติธรรมเพื่อห้ามไม่ให้มีการตรวจ ร่างคำพิพากษา และเรียกร้องให้ความเป็นธรรม ทางการเงิน ให้กับผู้พิพากษาทั่วประเทศนั้น

"กลุ่มประชาชนรณรงค์เพื่อการแก้ไขรัฐธรรมนูญ" ซึ่งเป็นกลุ่มกิจกรรมภาคประชาชน ได้ติดตามเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ที่ปรากฏต่อสาธารณะพบว่าได้เริ่มมีการบิดเบือนเหตุการณ์ เช่น สื่อมวลชนที่ไม่เป็นกลางบางสำนัก ได้พยายามรายงานข่าวในทำนองว่าผู้พิพากษาคณากรได้ทำไปเพราะเกิดความเครียดจากการการทำงาน ปัญหาส่วนตัวบ้าง เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงได้ให้ข้อมูลกับนักกิจกรรมและนักเคลื่อนไหวในทางที่เกิดความลังเลสงสัยว่าผู้พิพากษาคณากร ยิงตัวเองเพื่อสาเหตุอื่นโดยมีเจตนาเพื่อให้เกิดความไขว้เขว และตั้งคำถามในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ในฐานะที่เป็นนักกิจกรรมภาคประชาชนที่ได้รณรงค์ประชาธิปไตย ควบคู่กับความยุติธรรมและสิทธิมนุษยชนมานานหลายปี

กลุ่มขอเรียนว่าทางกลุ่มมีความเชื่อมั่นในตัวผู้พิพากษาคณากรว่าได้ตัดสินใจทำลงไปเพื่อบอกกล่าวกับสังคมไทยว่ากระบวนการยุติธรรมของไทยมีกานแทรกแซงจากผู้มีอำนาจจริงโดยเฉพาะคดีที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคงและการเมืิอง และเป็นเช่นนี้มาช้านาน และท่านหวังว่าการกระทำครั้งนี้เป็นเสมือนการปลุกใจคนไทยทุกคนให้ตื่นขึ้นจากฝันร้ายของความอยุติธรรมที่หลอกลวงกัดกร่อนสังคมไทยมาช้านานให้ลุกขึ้นมาทวงความยุติธรรมคืนสู่ประชาชน "กลุ่มประชาชนรณรงค์แก้ไขรัฐธรมนูญ ขอฝากความหวังไว้กับประธานศาลฎีกา ในการเป็นที่พึ่งให้ความเป็นธรรมแก่ผู้พิพากษาคณากร และเป็นที่พึ่งของประชาชนในการนำความถูกต้องและยุติธรรมกลับคืนสู่สังคมไทย เพื่อให้ประเทศไทยได้กลับคืนสู่ประเทศแห่งความสุขและความหวังอีกครั้ง"

โดยเมื่ออ่านแถลงการณ์เสร็จ "ฟอร์ด เส้นทางสีแดง" ได้นำคณะเปล่งเสียงกล่าวข้อความ "คืนคำพิพากษาให้ผู้พิพากษา คืนความยุติธรรมให้ประชาชน" รวม 3 ครั้ง