จากกรณีคนร้ายใช้อาวุธปืนยิงถล่ม นายสุนทร เรืองแก้ว ผู้ช่วย สส.พรรคภูมิใจไทย จนเสียชีวิตคารถ เหตุเกิดบนถนนสายหัวถนนท่านช่วย-ทุ่งนาชี หมู่ที่6 ต.นาท่อม อ.เมือง จ.พัทลุง ช่วงเย็นของวันที่ 16 ต.ค.2562 ที่ผ่านมา ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้นั้น
เกี่ยวกับเรื่องนี้ พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษก ตร. เปิดเผยว่า เหตุการณ์ดังกล่าวได้รับรายงานจาก สภ.โคกชะงาย ว่า เมื่อวันที่ 16 ต.ค. 62 เวลาประมาณ 17.40 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.โคกชะงาย ได้รับแจ้งเหตุทางวิทยุ ว่ามีคนร้ายใช้อาวุธปืนยิง นายสุนทร เรืองแก้ว ผู้ช่วย สส.พรรคภูมิใจไทย จนถึงแก่ความตาย เหตุเกิดบนถนนสายหัวถนนท่านช่วย-ทุ่งนาชี หมู่ที่6 ต.นาท่อม อ.เมือง จว.พัทลุง
หลังเกิดเหตุพนักงานสอบสวน พร้อมด้วยแพทย์ ได้ร่วมกันชันสูตรพลิกศพผู้เสียชีวิต และดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย โดยได้เข้าตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุ เพื่อเก็บวัตถุพยาน ลายนิ้วมือแฝง และเลือดที่ตกอยู่ในที่เกิดเหตุ ทำแผนที่บริเวณจุดเกิดเหตุ ถ่ายภาพที่เกิดเหตุ พร้อมกับตรวจสอบกล้องวงจรปิด เพื่อตรวจสอบรูปพรรณคนร้ายว่าตรงกับข้อมูลอาชญากรของใครหรือไม่ โดยขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวนกำลังไล่ตรวจสอบกล้องวงจรปิด ตามเส้นทางที่คนร้ายได้ใช้หลบหนี
และในวันนี้ (17 ต.ค.62) พล.ต.ท.รณศิลป์ ภู่สาระ ผบช.ภ.9 พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เกี่ยวข้อง ได้ร่วมกันลงไปตรวจสถานที่เกิด เพื่อเก็บรวบรวมพยานหลักฐานและรายละเอียดอีกครั้ง
รอง โฆษก ตร. กล่าวอีกว่า เบื้องต้นพนักงานสอบสวนได้ส่งศพไปให้แพทย์ทำการชันสูตรพลิกศพ และตรวจสอบหาสาเหตุการเสียชีวิตโดยละเอียดอีกครั้ง เพื่อนำผลมาประกอบคดี และเจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวนได้ลงพื้นที่หาเบาะแสเพื่อตรวจสอบหาข้อมูลที่เกี่ยวข้อง ตรวจสอบกล้องวงจรปิดในบริเวณที่เกิดเหตุ ตรวจสอบการใช้โทรศัพท์ของผู้เสียชีวิต รวบรวมพยานหลักฐาน และจะมีการสอบปากคำพยาน รวมทั้งญาติที่เกี่ยวข้อง โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการพิสูจน์ทราบสาเหตุการเสียชีวิตที่แท้จริง ทั้งนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่ฟันธงไปที่ประเด็นใด และยังไม่ตัดประเด็นใดๆ ทิ้ง
อย่างไรก็ตาม คดีที่เกิดขึ้น พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนภูธรภาค9 และเจ้าหน้าที่ตำรวจ ภ.จว.พัทลุง เร่งสืบสวนสอบสวน และติดตามผลการชันสูตรให้ได้โดยเร็ว เพื่อพิสูจน์ทราบถึงสาเหตุการตายที่แท้จริง เพื่อสร้างความกระจ่างให้แก่ญาติ และพี่น้องประชาชนโดยเร็ว
พร้อมทั้งได้มีข้อสั่งการให้ทุกหน่วยในพื้นที่ เพิ่มมาตรการในการเฝ้าระวังและการป้องกันเหตุ รวมไปถึงให้เพิ่มมาตรการเข้ม ทั้งจุดตรวจ จุดสกัด ในการตรวจค้นอาวุธปืน ยาเสพติด รถทุกชนิดและบุคคลเป้าหมาย ตามเส้นทางหลักและเส้นทางรอง เพื่อสร้างความมั่นใจและเพิ่มความปลอดภัยให้แก่ประชาชน นักท่องเที่ยวและนักลงทุนในพื้นที่
