ตำรวจกองปราบ บุกจับดร.สาว คารีสอร์ท อ.ปากช่อง เปิดบริษัทฯ ตุ๋นเหยื่อกว่า 100 ราย ทั่วประเทศ เล่นแชร์ทองคำลวงโลก! รวมมูลค่าความเสียหายกว่า 1500 ล้านบาท ตรวจสอบพบถูกศาลออกหมายจับอื้อ
พ.ต.อ.สุรพงษ์ ชาติสุทธิ์ รองผู้บังคับการ กองบังคับการปราบปราม (รอง ผบก.ป.) พร้อมด้วย พ.ต.อ.บุญลือ ผดุงถิ่น ผู้กับการ3 กองบังคับการปราบปราม (ผกก.3 บก.ป.) และเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.3 บก.ป. แถลงผลการจับกุม น.ส.ปริยันก้า ตั้งภาวนาสกุล อายุ 41 ปี ซึ่งเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดขอนแก่นที่ 236/2562 ลง 14 ส.ค. 62 ข้อหา “ร่วมกันฉ้อโกง” พร้อมตรวจยึดของกลาง สมุดบัญชีธนาคาร กว่า 20 รายการ โทรศัพท์มือถือ และ โน้ตบุค กว่า 10 รายการ สลิปโอนเงิน และ เอกสารการเงิน กว่า 2000 รายการ เอกสารบริษัท กว่า 500 รายการ รถยนต์ บีเอ็มดับบิว 1 คัน เอกสารที่ดินและบ้าน กว่า 10 รายการ โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถติดตามจับกุมผู้ต้องหาได้ภายในรีสอร์ทแห่งหนึ่ง ในหนองตะภู ต.ขนงพระ อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา
พ.ต.อ.สุรพงษ์ กล่าวว่า สืบเนื่องจากประมาณเดือน ส.ค.- ก.ย.62 มีกลุ่มผู้เสียหายจำนวนหลาย 100 คน จากทั่วประเทศ ได้เดินทางเข้าร้องทุกข์ต่อ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ , อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) , กองอำนวยการรักษาความมั่งคงภายใน และศูนย์ดำรงธรรม ภายหลังมาร้องทุกข์ ต่อผู้บังคับการปราบปราม ว่าถูก “บริษัท โกลด์ ฟาเธอร์ 1978 จำกัด” หลอกลงทุนซื้อขายทองคำ แท่งและรูปพรรณ รวมมูลค่าความเสียหาย กว่า 1,500 ล้านบาท ผู้เสียหายกว่า 1,500 คนทั่วประเทศ โดยบริษัท โกลด์ ฟาเธอร์ 1978 จำกัด ที่มี นางสาวปริยันก้า ตั้งภาวนาสกุล และ นายชนุตม์ สีสังข์ สามีภรรยา อ้างว่าจบดอกเตอร์จากประเทศอเมริกา เป็นกรรมการผู้จัดการร่วมบริหารบริษัท ก่อตั้งเมื่อวันที่ 26 เมษายน 2560
พ.ต.อ.สุรพงษ์ กล่าวต่อว่า โดยพฤติการณ์นางสาวปริยันก้า ผู้ต้องหาจะใช้วิธีการ จัดสัมมนาเพื่อโฆษณาชักจูงให้เหยื่อร่วมเก้บออมทองคำ และเก็งกำไรทองคำแท่งล่วงหน้า และการขายทองคำออนไลน์ โดยมีการสร้างเว็บไซด์บริษัทฯ เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ นอกจากนี้ยังตั้งตัวแทนบริษัทเกือบทุกจังหวัด กว่า 100 คน เพื่อไปแนะนำหาสมาชิก( เหยื่อ ) ทั่วประเทศ โดยการสมัครเป็นสมาชิกจำหน่ายทองคำรายละ 5,999 บาทและจะมีการพูดหรือชักชวนกับสมาชิก หรือ (เหยื่อ) ว่า จะให้ผลกำไรตอบแทนเป็นการซื้อทองคำในราคาถูกกว่าท้องตลาด สูงถึงร้อยละ 15- 20 หรือหากเป็นการออมทองคำ หรือ ซื้อแล้วฝากบริษัทขาย หากราคาทองขึ้น ก็จะโอนค่าส่วนต่าง ให้กับสมาชิกโดยภายใน 1 เดือน โดยจะเปิดให้สมาชิกซื้อขาย 2 รอบ ทุกวันที่ 15 และ 25 ของทุกเดือน หรืออ้างว่า ซื้อทองจาก 15,000 บาท นำออกไปขายได้ในราคา 19,000 บาท ซึ่งมีผู้เสียหายหลงเชื่อและโอนเงินไปให้กับบริษัท โดยผ่านทางบัญชีบริษัท และผ่านทางบัญชีของประธานบริษัท ครั้งละหลายแสน หรือ หลายสิบล้านบาท รวมเงินหมุนเวียน กว่า 1,500 ล้านบาท โดยมีแผนประทุษกรรมจะให้สมาชิกหลงเชื่อ โอนเงินมาซื้อทองคำและทองรูปพรรณ จากนั้นแกล้งส่งมอบทองคำ และ ส่วนต่างหากทองคำราคาขึ้น ให้จริงเพียง 4 ถึง 5 เดือนเท่านั้น
กระทั่งสบโอกาสมีสมาชิกและลูกค้าจำนวนหลายพันราย โอนเงินเข้ามาซื้อทองคำเป็นพันล้านบาท นางสาวปริยันก้าฯ กับพวก ได้บ่ายเบี่ยง ไม่ส่งมอบทองคำ และ ผลตอบแทน สมาชิกตามเงื่อนไข ช่วงประมาณ เดือนธันวาคม 2560 ก่อนปิดบริษัทหลบหนีเวลาต่อมา ทำให้สมาชิกได้รับความเสียหายอย่างหนักทั่วประเทศ สมาชิกหลายพันคน ต่างร้องขอความเป็นธรรม สถานที่ราชการต่างๆ และเข้าแจ้งความหลายท้องที่ เพื่อดำเนินคดีกับขบวนการนี้
ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวนในพื้นที่ ได้ทำการจับกุมนายชนุตม์ สามีผู้ร่วมขบวนการ ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดขอนแก่น ที่ 237/2562 ลงวันที่ 15 สิงหาคม 2562 ในข้อหา ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน ร่วมกันกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน ได้แล้ว ส่วนนางสาวปริยันก้า ตั้งภาวนาสกุล ผู้ก่อตั้ง ตัวการสำคัญยังอยู่ระหว่างการหลบหนี พร้อมพยานหลักฐานสำคัญ และ ซุกซ่อนทรัพย์สินของผู้เสียหายจำนวนมากไว้ด้วย ต่อมาเมื่อวันที่ 16 ต.ค.62 เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมสืบสวนทราบว่า นางสาวปริยันก้า หลบหนีการจับกุมของเจ้าหน้าที่ตำรวจไปกบดานในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา จึงนำกำลังปิดล้อมทางเข้า-ออก พื้นที่เป้าหมาย ก่อนนำขออนุมัติหมายค้นต่อศาลจังหวัดสีคิ้ว (ปากช่อง) ที่ 13/2562 ลง 16 ต.ค.62 บุกตรวจค้น รีสอร์ทบ้านไร่เพชรรัตน์ หลังที่ 3 หรือสิริลักษณ์เพลส หมู่ที่8 หนองตะภู ต.ขนงพระ อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา เข้าจับกุมนางสาวปริยันก้า พร้อมพยานหลักฐานสำคัญ และ หลักฐานการเงินต่างๆมากมาย
จากการ ตรวจสอบ พบว่า นางสาวปริยันก้า ตั้งภาวนาสกุล และ นายชนุตม์ สีสังข์ มีเอกสารประกาศ จบดอกเตอร์ จาก EDMONTON UNIVERSITY ประเทศอเมริกา โดยทั้งคู่อ้างว่าเรียนออนไลน์ผ่านอินเตอร์เน็ต และ ส่งใบจบการศึกษามาให้โดยไม่ต้องไปรับที่อเมริกาแต่อย่างใด เบื้องต้นฝ่ายสืบสวนไม่ปักใจเชื่อ น่าจะเป็นใบประกาศสร้างความน่าเชื่อถือให้กับสมาชิก เพื่อหลอกประชาชน อีกทั้งยังพบว่าก่อนหน้านี้ตัวนางสาวปริยันก้า ยังมีการเปลี่ยนชื่ออีกถึงกว่า 6 ชื่อ และจากการตรวจสอบยังพบหมายจับและอยู่ระหว่างออกหมายจับ
1. หมายจับศาลจังหวัดอุบลราชธานี ข้อหา “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน” สภ.วารินชำราบ
2. หมายจับศาลจังหวัดอุบลราชธานี ข้อหา “ฉ้อโกงประชาชน” สภ.วารินชำราบ
3. หมายจับศาลจังหวัดอุบลราชธานี ข้อหา “ฉ้อโกงประชาชน” สภ.วารินชำราบ
4. หมายจับศาลจังหวัดอุบลราชธานี ข้อหา “ฉ้อโกงประชาชน” สภ.วารินชำราบ
5. หมายจับศาลจังหวัดขอนแก่น ข้อหา “ร่วมกันฉ้อโกง” สภ.เมืองขอนแก่น
6. หมายจับศาลจังหวัดภูเก็ต ข้อหา “ ให้กู้ยืมเงินหรือจะกู้ยืมเงินมีการโฆษณาหรือประกาศแก่บุคคลทั่วไป” สภ.กระทู้
7. หมายจับศาลจังหวัดภูเก็ต ข้อหา “ให้กู้ยืมเงินหรือจะกู้ยืมเงินมีการโฆษณาหรือประกาศแก่บุคคลทั่วไป” สภ.กระทู้
8. สภ.วารินชำราบ อยู่ระหว่าง ออกหมายจับ อีก 3 หมาย
เบื้องต้นผู้ต้องหาให้การรับสารภาพ โดยหลังจากนี้นำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองขอนแก่น เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป