ญี่ปุ่นจัดพิธีบรมราชาภิเษกยิ่งใหญ่

ปีนี้ถือเป็นปีแห่งการเริ่มต้นใหม่ของประเทศญี่ปุ่น สมเด็จพระจักรพรรดินารุฮิโตะทรงครองราชย์สืบต่อจากพระราชบิดา ทรงรับการถวายเครื่องราชกกุธภัณฑ์ และเสด็จออกมหาสมาคม เมื่อวันที่ 1 พ.ค. ที่ผ่านมา วันนี้ (22 ต.ค.) เป็นวันประกอบพระราชพิธีบรมราชาภิเษก ซึ่งเป็นการประกาศอย่างเป็นทางการ ให้ผู้คนทั้งในญี่ปุ่นและต่างประเทศทราบถึงการครองราชย์โดยสมบูรณ์ของสมเด็จพระจักรพรรดิพระองค์ใหม่

สำนักข่าวเกียวโด รายงานว่า ตามหมายกำหนดการเดิม พระราชพิธีระยะเวลา 30 นาที เริ่มต้นขึ้นในเวลา 13.00 น. สมเด็จพระจักรพรรดิสมเด็จพระจักรพรรดินี และพระบรมวงศานุวงศ์ทรงฉลองพระองค์โบราณตามแบบราชสำนัก สมเด็จพระจักรพรรดินารุฮิโตะประทับยังพระบัลลังก์ทาคามิคูระ (Takamikura) สมเด็จพระจักรพรรดินีมาซาโกะ ประทับบนพระบัลลังก์ไมโชได (Michodai) ในห้องโถงใหญ่ของพระราชวังอิมพิเรียล จากนั้นสมเด็จพระจักรพรรดิทรงมีพระบรมราชโองการประกาศการครองราชย์ โดยมีพระราชอาคันตุกะต่างชาติร่วมถวายพระพรราว 2,000 คน

ระหว่างนั้นตามแผนการเดิมเจ้าพนักงานอัญเชิญดาบและธนู พร้อมพนักงานบรรเลงกลองและฆ้องตั้งแถวที่ลานนอกพระราชวัง ที่ตกแต่งด้วยธงสีสันสดใสและพลหอก

แต่กรณีที่อากาศไม่เป็นใจ เนื่องจากพยากรณ์อากาศวันนี้ระบุว่า กรุงโตเกียวมีโอกาสฝนตกได้มาก ขบวนอัญเชิญดาบและธนูจะเลื่อนมาทำในโถงทางเดิน

การตัดสินใจปรับเปลี่ยนกระทำกันในเช้าวันนี้ เจ้าหน้าที่สำนักพระราชวังรายหนึ่งเผยว่า ค่อนข้างตัดสินใจยากทีเดียว ว่าต้องให้ฝนตกลมแรงขนาดไหนจึงจะเปลี่ยนแผนการได้

เดิมทีหลังเสร็จพิธีบรมราชาภิเษก สมเด็จพระจักรพรรดิและสมเด็จพระจักรพรรดินี ต้องเสด็จพระราชดำเนินโดยรถยนต์พระที่นั่งไปตามถนนในกรุงโตเกียวเพื่อทรงทักทายพสกนิกร เนื่องในวาระเฉลิมฉลองพระราชพิธีบรมราชาภิเษก แต่ริ้วขบวนดังกล่าวต้องยกเลิกไปกระทำในวันที่ 10 พ.ย.แทน เนื่องจากประเทศญี่ปุ่นยังโศกเศร้ากับเหตุพายุไต้ฝุ่นฮากิบิสพัดถล่มเมื่อหลายวันก่อน ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 77 ราย สูญหาย 10 คน

สมเด็จพระจักรพรรดิพระองค์ใหม่ของญี่ปุ่นทรงสืบทอดบัลลังก์ดอกเบญจมาสในวันที่ 1 พ.ค. หลังจากสมเด็จพระราชบิดาสละราชบัลลังก์ เป็นพระองค์แรกในรอบกว่า 200 ปี คล้ายคลึงกับหลายราชวงศ์ในยุโรประยะหลัง เช่น อดีตสมเด็จพระราชินีนาถเบียทริกซ์แห่งเนเธอร์แลนด์ ทรงสละราชสมบัติให้พระราชโอรส “วิลเลม-อเล็กซานเดอร์” ในเดือน เม.ย.2556

สมเด็จพระราชาธิบดีอัลเบิร์ตที่ 2 แห่งเบลเยียมสละราชสมบัติ เมื่อเดือน ก.ค.2556 โดยราชวงศ์เบลเยียมและญี่ปุ่นนั้นทรงเป็นพระสหายกัน สมเด็จพระจักรพรรดิพระเจ้าหลวงอากิฮิโตะ ทรงสนิทชิดเชื้อกับสมเด็จพระราชาธิบดีโบดวงที่ 1 ผู้ล่วงลับ

ส่วนสมเด็จพระราชาธิบดีเฟลิเปที่ 6 แห่งสเปนทรงสืบบัลลังก์ต่อจากพระราชบิดาที่ทรงสละราชย์เมื่อเดือน มิ.ย.2557 ว่ากันว่าสมเด็จพระจักรพรรดินารุฮิโตะ พระชนมายุ 59 พรรษา ทรงติดต่อกับสมเด็จพระราชาธิบดีวิลเลม-อเล็กซานเดอร์ พระชนมายุ 52 พรรษา และพระราชวงศ์ต่างประเทศอีกจำนวนหนึ่งที่พระชนมายุรุ่นราวคราวเดียวกันด้วยอีเมล

ด้านสถานีโทรทัศน์เอ็นเอชเคของญี่ปุ่น เผยผลสำรวจความคิดเห็นประชาชน 2,790 คน ทางโทรศัพท์เป็นเวลา 2 วัน ในเดือน ก.ย.ที่ผ่านมา มีผู้ให้ข้อมูล 1,539 คน หรือ 55% ในจำนวนนี้ 72% ระบุว่า มีความสนใจต่อราชวงศ์มากหรือสนใจระดับหนึ่ง ขณะที่27% สนใจน้อยหรือไม่สนใจเลย

ทั้งนี้ กว่า 70% ของผู้ที่อายุมากกว่า 40 ปี บอกว่ามีความสนใจเรื่องราชวงศ์ขณะที่คนรุ่นใหม่มีความสนใจน้อยกว่า

ส่วนคำถามเกี่ยวกับความรู้สึกที่มีต่อราชวงศ์นั้น ชาวญี่ปุ่น71% ระบุว่า รู้สึกใกล้ชิดกับราชวงศ์มาก หรือใกล้ชิดในระดับหนึ่ง ขณะที่27% ระบุว่า รู้สึกใกล้ชิดบ้าง หรือไม่รู้สึกใกล้ชิดเลย

ผลสำรวจถามด้วยว่า ประชาชนรู้สึกว่าระยะห่างระหว่างราชวงศ์กับประชาชนแคบลงหรือไม่ นับตั้งแต่เริ่มยุคเฮเซ เมื่อปี 2532 โดยชาวญี่ปุ่นส่วนใหญ่69% ระบุว่า ระยะห่างระหว่างราชวงศ์กับประชาชนแคบลงอย่างมากหรือแคบลงเล็กน้อย ขณะที่24% บอกว่าเหมือนเดิม และ3% ระบุว่า ระยะห่างกว้างขึ้นกว่าเดิม

ก่อนหน้านี้ เอ็นเอชเคเคยสำรวจความคิดเห็นเกี่ยวกับราชวงศ์ญี่ปุ่นมาแล้วครั้งหนึ่งเมื่อปี 2552 แต่ใช้วิธีการต่างกัน โดยผลสำรวจในครั้งนั้นระบุว่า ชาวญี่ปุ่นราว60% รู้สึกใกล้ชิดกับราชวงศ์ และรู้สึกว่าระยะห่างระหว่างราชวงศ์กับประชาชนแคบลง

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

-ญี่ปุ่นเลื่อนจัดริ้วขบวนฉลองพระราชพิธีบรมราชาภิเษก

-'ประยุทธ์' ถึงญี่ปุ่น ร่วมพระราชพิธีบรมราชาภิเษก 'จักรพรรดินารุฮิโตะ'

-ทุกภาคส่วนเตรียมพร้อมพระราชพิธีบรมราชาภิเษก 2562