คนทำงานในอาคารเสี่ยงเป็น Sick Building Syndrome
โรคอาการ Sick Building Syndrome เป็นการเจ็บป่วยของผู้ที่ทำงานภายในอาคาร อาจมาจากวัสดุโครงสร้าง สารเคมีต่าง ๆ ที่ใช้ภายในอาคาร อุปกรณ์สำนักงาน แนะหลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยงพร้อมปรับปรุงสภาพแวดล้อมในการทำงานให้ดีขึ้น
นายแพทย์มานัส โพธาภรณ์ รองอธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวว่า โรคอาการอาคารป่วย Sick Building Syndrome หรือเป็นกลุ่มอาการที่เกิดขึ้นเมื่อร่างกายได้รับมลภาวะภายในอาคารจากปัจจัยบางอย่าง เช่น วัสดุโครงสร้างของอาคาร สีที่ใช้ภายในอาคาร การถ่ายเทอากาศ เป็นต้น แต่จะมีอาการดีขึ้นหากออกจากตัวอาคาร ซึ่งอาการป่วยที่พบเมื่ออยู่ในอาคาร คือ เจ็บตา หรือเจ็บคอ แสบร้อนในจมูก มีน้ำมูก หนาว เป็นไข้ ผิวแห้งเป็นผื่น อ่อนเพลียหงุดหงิด ปวดหัว ปวดท้อง ปวดเมื่อยตามร่างกาย หายใจไม่สะดวก นอกจากนี้โรคดังกล่าว อาจทำให้ผู้ป่วยที่เป็นโรคทางเดินหายใจหรือเป็นภูมิแพ้อยู่ก่อนแล้วมีอาการรุนแรงมากยิ่งขึ้น ทั้งนี้สาเหตุแม้ไม่สามารถระบุได้อย่างแน่ชัด แต่ก็มีหลายปัจจัยที่อาจทำให้เกิดโรคกลุ่มอาการอาคารป่วย เช่น น้ำยาถูพื้น สารฟอร์มาลดีไฮด์ สีที่ใช้ทาภายในอาคาร อุปกรณ์สำนักงานอย่างจอคอมพิวเตอร์ที่ไม่กรองแสงเป็นอันตรายต่อสายตา ฝุ่นภายในอาคาร หรือมลพิษอื่น ๆ ในบริเวณใกล้เคียง เสียงรบกวน อากาศที่ไม่ถ่ายเท ไฟที่ส่องสว่าง ความร้อนหรือความชื้น แบคทีเรีย เชื้อรา
นายแพทย์สมบูรณ์ ทศบวร ผู้อำนวยการโรงพยาบาลนพรัตนราชธานี กล่าวว่า โรคอาการอาคารป่วยไม่มีอาการที่จำเพาะเจาะจง และอาการหลายอย่างก็คล้ายคลึงกับโรคทั่วไป จึงทำให้ยากต่อการวินิจฉัยโรค อย่างไรก็ตาม แพทย์อาจสอบถามเกี่ยวกับระยะเวลาในการทำงานและสภาพแวดล้อมในที่ทำงาน เพื่อหาความเกี่ยวข้องหรือความเป็นไปได้ของการเกิดโรคอาการอาคาร ซึ่งผู้ป่วยสามารถสังเกตตนเองได้ว่าอาการต่าง ๆ มักเกิดขึ้นเฉพาะตอนอยู่ภายในอาคารหรือไม่ วิธีการนี้จะช่วยให้แพทย์วินิจฉัยโรคได้อย่างถูกต้อง สำหรับการรักษายังไม่มีวิธีเฉพาะเจาะจง แต่เป็นการรักษาเพื่อบรรเทาอาการตามที่เป็น และผู้ป่วยควรหลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยงต่าง ๆ ที่จะทำให้อาการกำเริบ โดยปรับปรุงสภาพแวดล้อมในที่ทำงานให้ดีขึ้น เช่น เปิดประตู หน้าต่างให้อากาศถ่ายเทสะดวกเพื่อป้องกันความอับชื้นหรือเชื้อรา ทำความสะอาดสถานที่ทำงานอยู่เสมอ ใช้เครื่องดูดฝุ่นเพื่อลดมลภาวะ ทำความสะอาดเครื่องกรองอากาศเป็นประจำ เปลี่ยนหลอดไฟเพื่อปรับความสว่าง หรือเปลี่ยนจอคอมพิวเตอร์ เป็นต้น ทั้งนี้หากป้องกันเบื้องต้นด้วยวิธีต่าง ๆ แต่อาการไม่ดีขึ้นควรรับการรักษาเพื่อให้แพทย์วินิจฉัยโดยทันที หรือปรึกษาได้ที่ คลินิกโรคจากการทำงาน กลุ่มศูนย์การแพทย์เฉพาะทางด้านอาชีวเวชศาสตร์และสิ่งแวดล้อม โรงพยาบาลนพรัตนราชธานี ได้ในวันและเวลาราชการ