"โมโน"ผนึกกำลัง"แกรมมี่" ดิสรัปตัวเองรับมือโอทีทีโลก 

ทันทีที่อุตสาหกรรมทีวีดิจิทัลมีความชัดเจนขึ้น หลังมีผู้ประกอบการโบกมือลาคืนใบอนุญาตประกอบกิจการ(ไลเซ่นส์)ไป 7 ช่อง ทำให้เหลือ “ผู้รอดชีวิต” บนสังเวียนจอแก้วประเภทธุรกิจ 15 ช่อง จึงเห็นหลายผู้ประกอบการทีวี “ปรับตัว” วางหมากรบใหม่ เพื่องัดอาวุธ กลยุทธ์การตลาดที่มีมาสู้กันในช่วงอายุใบอนุญาตที่เหลืออยู่อีก 10 ปี

โมโน 29 หน้าใหม่ แต่สร้างแบรนด์ มีคอนเทนท์ภาพยนต์แอ๊คชั่น ซีรี่ส์จากต่างประเทศ ตรึงคนดู โกยเรทติ้งเป็นเบอร์ 3 เหนียวแน่น 2 ปี แกรมมี่ มี 2 ช่องทั้ง ช่องวัน 31 ละคร รายการวาไรตี้ครบ เสิร์ฟคนดูรั้งเรทติ้งท็อป 5 และมีช่องจีเอ็มเอ็ม25 ส่งละครดราม่า เจาะคนดูผู้หญิง คนเมืองฯ ทั้ง 2 ค่าย เห็นชัดแล้วว่าอยู่รอด จึงเดินหน้าเขย่าวงการทีวีดิจิทัล ด้วยการพลิกบทบาท “คู่แข่ง” มาผนึกกำลังเสริมแกร่งแก่กัน ดิสรัปตัวเองให้พร้อมก่อนสู้ศึกใหญ่จากแพลตฟอร์มรับชมคอนเทนท์ออนไลน์(โอทีที)ระดับโลกทั้งเน็ตฟลิกซ์ ดิสนีย์ พลัส ฯ

นายปฐมพงศ์ สิรชัยรัตน์ ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการ บริษัท โมโน เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า หลังอุตสาหกรรมทีวีดิจิทัลมีผู้รอดชีวิตจำนวนชัดเจนทำให้บริษัทต้องการสร้างความแปลกใหม่ให้วงการทีวี จึงใช้เวลาหารือกับแกรมมี่ เป็นเวลา 3 เดือน ก่อนประกาศความร่วมมือครั้งใหญ่หรือ Super Giant Alliance เพื่อขับเคลื่อนธุรกิจในระยะ3-5 ปีร่วมกัน

ผนึกพลังสร้าง 5 โปรเจค

ทั้งนี้ การผนึกกำลังครั้งนี้ จะสร้าง 5 โปรเจค ได้แก่ 1.ร่วมสร้างศิลปินกลุ่มใหม่ เน้นเกิร์ล กรุ๊ป เป็นหลัก เพื่อเติมเต็มช่องว่างอุตสาหกรรมเพลงของไทยเซ็กเมนต์นี้ยังไม่โตมากนัก เป้าหมาย 5 ปี จะมี 12 กลุ่มศิลปิน ปีแรกจะมี 2 กลุ่ม 4 อัลบั้ม 2.ผลิตละคร ซีรี่ส์ออริจินัล คอนเทนท์ แนวแอ๊คชั่น สืบสวนสอบสวน ป้อนช่องโมโน 29 และแอพพลิเคชั่นโมโนแม็กซ์ เพื่อขยายฐานคนดูให้กว้างขึ้น เป้าหมายเพิ่มสัดส่วนคอนเทนท์ไทย(โลคัล)เป็น 5-8% จาก 2% โดย 98% เป็นคอนเทนท์ต่างประเทศ และข่าว 

3.ส่งคาราโอเกะ และซีรี่ส์บางส่วนป้อนแพลตฟอร์ม 3BB ทีวี ซึ่งเป็นอินเตอร์แอ๊คทีพทีวีหรือสตรีมมิ่ง ออนไลน์ที่ร่วมกับ เคที คอร์ปอเรชั่น ประเทศเกาหลีพัฒนาขึ้น โดยโมโน เป็นผู้จัดหาคอนเทนท์ให้เป็นหลัก 4.ทำการตลาดและโปรโมทคอนเทนท์ร่วมกัน ผ่านทุกสื่อของโมโนและแกรมมี่ และ5.วิเคราะห์การขายโฆษณาทางดิจิทัลทีวีร่วมกัน ให้สอดคล้องกับสถานการณ์ตลาดและลูกค้ามีการใช้จ่ายเม็ดเงินโฆษณาขึ้นลงแต่ละช่วงเวลา

“แกรมมี่น่าจับมือมากที่สุด เพราะจักรวาลธุรกิจและคอนเทนท์แกรมมี่มีมหาศาล ฐานแฟนคลับวัยรุ่น ผู้หญิงที่เสพละครดราม่า ขณะที่โมโนมีแพลตฟอร์มสื่อหลากหลาย มีความต้องการคอนเทนท์จำนวนมาก เมื่อกลุ่มเป้าหมายทั้ง 2 บริษัทไม่ทับซ้อนหรือแย่งกัน ส่วนแนวคิด การบริหารธุรกิจตรงกันทั้งความเร็ว คิดใหม่ ทันสมัย จึงซีนเนอร์ยีกันระดับองค์กรเพื่อทำแผนยึดคนดูหน้าจอ”

รับมือ“โอทีที”ระดับโลก

อดีตการทำธุรกิจเซ็คเตอร์เดียวกัน มักมองบริษัทอื่นเป็น “คู่แข่ง” ปัจจุบันมองเป็นพันธมิตรมากขึ้น เพียงแต่ที่ผ่านมาอุตสาหกรรมทีวีดิจิทัลต่างฝ่ายต่างต้องหาทางวางแผนธุรกิจ กำหนดกลยุทธ์เพื่อทำให้องค์กรอยู่รอดก่อน แต่ตอนนี้บริษัทต้องมองหาพาร์ทเนอร์ที่เก่งมาช่วยเสริมแกร่งธุรกิจยิ่งขึ้น เช่น ผู้ผลิตอื่น มีประสิทธิภาพในการทำงาน ผลิตในต้นทุนต่ำกว่า การร่วมมือกันจึงมีผลลัพธ์ดีกว่า เกิดการประหยัดจากขนาดหรืออีโคโนมี ออฟ สเกลด้วย

ดิสรัปตัวเองก่อนถูกดิสรัป

สำหรับโมโนผนึกกำลังแกรมมี่ครั้งนี้ ยังเป็นการดิสรัปตัวเอง ปรับกลยุทธ์ให้พร้อมกับการแข่งขันในอุตสาหกรรมบันเทิงทีวีในอนาคต โดยเฉพาะการเตรียมเปิดแพลตฟอร์ม 3BB TV เป็นการปลุกตลาดอินเตอร์แอ๊คทีพทีวีของไทยอีกครั้งจากอดีตคือไอพีทีวี ขณะที่การแข่งขันจากแพลตฟอร์มโอทีทีระดับโลก ไม่ว่าจะเป็นเน็ตฟลิกซ์ ดิสนีย์ พลัสฯ จะส่งผลกระทบอุตสาหกรรมทีวีดิจิทัลของไทยใน 2-3 ปีข้างหน้าอย่างแน่นอน

ลงทุนคอนเทนท์1.2-1.8พันล้าน 

นายปฐมพงศ์ กล่าวอีกว่า การร่วมมือกับแกรมมี่ บริษัทคาดว่าจะใช้งบลงทุนหลักร้อยล้านบาท ในการผลิตคอนเทนท์และสร้างโปรเจคต่างๆ ขณะที่งบลงทุนในการซื้อและผลิตคอนเทนท์ของบริษัทปีนี้อยู่ที่ 1,200-1,800 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนใช้ 1,000 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นลงทุนโลคัลคอนเทนท์ 10%

ปี 63 จ่อขึ้นค่าโฆษณา 200%

ปัจจุบันโมโน 29 เป็นช่องทีวีดิจิทัลที่มีเรทติ้งเป็นอันดับ 3 อย่างเหนียวแน่นมา 2 ปี เมื่อฐานผู้ชมเติบโตแข็งแรง ทำให้ปีหน้าเตรียมปรับขึ้นค่าโฆษณา 200% จากที่ผ่านมาถูกมองเป็นหน้าใหม่และตัดราคาโฆษณา

อย่างไรก็ตาม แผนดังกล่าว ตั้งเป้าว่าจะทำให้บริษัทมีเรทติ้งก้าวเป็นเบอร์ 2 ของทีวีดิจิทัลในปีหน้า

ย้ำยักษ์คอนเทนท์โปรวายเดอร์

นายฟ้าใหม่ ดำรงชัยธรรม ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลยุทธ์ สายธุรกิจ จีเอ็มเอ็ม มิวสิค บริษัท แกรมมี่ จำกัด(มหาชน) กล่าวว่า ครึ่งปีแรก 2563 โปรเจคแรกที่จะเจาะตลาดคือการปั้นศิลปินเกิร์ลกรุ๊ป เจาะกลุ่มเป้าหมายคนฟังเพลง เสริมแกร่งอุตสาหกรรมเพลงป๊อปมากขึ้น ส่วนครึ่งปีหลังจะผลิตซีรีส์ ป้อนโมโน โดยเป้าหมายความร่วมมือครั้งนี้จะมีเกิร์ลกรุ๊ป 12 วง 12 อัลบั้ม มีคอนเสิร์ต ซึ่งเป็นกิจกรรมออนกราวด์ 12 งาน เป็นต้น

ทั้งนี้ แผนดังกล่าว คาดว่าจะส่งผลให้รายได้บริษัทเติบโตขึ้น และมีฐานกลุ่มเป้าหมายใหม่ๆขยายตัวตามไปด้วย ที่สำคัญบริษัทต้องการผลักดันให้อุตสาหกรรมบันเทิงไทยมีขนาดตลาดใหญ่ขึ้นด้วยการรวมตัวของจักรวาลแกรมมี่และโมโน

“แกรมมี่ยึดมั่นในการเป็นคอนเทนท์โปรวายเดอร์ ผลิตปริมาณมากให้ดีมีคุณภาพ มุ่งขยายบริการด้านคอนเทนท์ให้ดี และเรายังเดินหน้าหาพันธมิตรทางธุรกิจเสริมแกร่งเพิ่มขึ้น เพื่อป้อนคอนเทนท์ไปทุกแพลตฟอร์ม เพื่อสร้างการเติบโตให้กว้างและไกล ไม่จำกัดอยู่แค่ช่องทางทีวีดิจิทัลเท่านั้น และการร่วมมือครั้งนี้เรามองการ Win win 2 จักรวาล ได้แก่การเปิดตลาดให้กว้าง และเราเติบโต”