'ไทย-เวียดนาม' หวังบรรลุเป้าการค้า 2 หมื่นล้านดอลลาร์ ปี2020
ประยุทธ์ เผยไทยพร้อมหนุนเวียดนามรับไม้ต่อ "ประธานอาเซียน" ปีหน้า ด้านนายกฯ เวียดนาม "เหวียน ซวน ฟุก" ขอบคุณที่ดูแลแรงงานเป็นอย่างดี หวังบรรลุเป้าการค้า 2 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐฯ ในปี 2020
วันนี้ (2 พ.ย.) เวลา 19.00 น. ที่ห้อง Sappire 108 ชั้น 1 อาคารอิมแพค ฟอรั่ม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ได้พบหารือกับ นายเหวียน ซวน ฟุก นายกรัฐมนตรีสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม ระหว่างการประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 35 และการประชุมสุดยอดที่เกี่ยวข้อง
ภายหลังเสร็จสิ้น นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยสาระสำคัญการหารือว่า นายกรัฐมนตรีได้ยืนยันความพร้อมของไทยที่จะสนับสนุนการเป็นประธานอาเซียนของเวียดนามในปี 2563 และขอบคุณที่เวียดนามสนับสนุนการเป็นเจ้าภาพของไทยในปีนี้ ซึ่งไทยได้พยายามผลักดันประเด็นที่เป็นประโยชน์หลายประเด็น แต่หากมีเรื่องใดที่ไม่สามารถบรรลุฉันทามติได้ขอรับการสนับสนุนของเวียดนามในปีหน้า
ขณะที่ นายกรัฐมนตรีเวียดนามชื่นชมบทบาทการเป็นประธานอาเซียนของไทย ซึ่งส่งผลให้อาเซียนมีพัฒนาการในเชิงสร้างสรรค์ ขอบคุณนายกรัฐมนตรีที่ให้ความสำคัญกับเวทีในภูมิภาคมาโดยตลอด และขอบคุณที่ดูแลแรงงานเวียดนามในไทยเป็นอย่างดี และยินดีที่ภายใต้การสนับสนุนของนายกรัฐมนตรี ทำให้มูลค่าการค้าระหว่างทั้งสองประเทศเพิ่มมากขึ้น ทั้งนี้ไทยหวังที่จะส่งเสริมความร่วมมือด้านการบริหารจัดการน้ำอย่างยั่งยืนในอนุภูมิภาค ผ่านกรอบคณะกรรมาธิการแม่น้ำโขง (Mekong River Commission) และกรอบแม่โขง-ล้านช้าง
ทั้งสองฝ่ายชื่นชมความสัมพันธ์ทวิภาคีไทย-เวียดนาม ที่มีพลวัตอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเห็นพ้องที่จะยกระดับความสัมพันธ์สู่การเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ที่เข้มแข็ง นายกรัฐมนตรีแสดงความห่วงกังวลต่อประเด็นความท้าทายเกี่ยวกับสภาพอากาศ อาทิ สถานการณ์ไฟป่าและมลพิษหมอกควันข้ามแดนซึ่งไทยและเวียดนามได้รับผลกระทบ จึงเห็นว่าอาเซียนควรร่วมมือกันมากขึ้น แลกเปลี่ยนข้อมูล และร่วมมือกับบริหารจัดการเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน
นอกจากนี้ ไทยและเวียดนามหวังว่ามูลค่าการค้าจะบรรลุเป้าหมาย 2 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐในปี ค.ศ. 2020 โดยผู้นำทั้งสองยินดีและพร้อมอำนวยความสะดวกให้แก่นักลงทุน
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีขอให้เวียดนามพิจารณาขยายระยะเวลาข้อกำหนดการนำเข้าชิ้นส่วนยานยนต์ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อการนำเข้าชิ้นส่วนจากไทย และยืนยันกับเวียดนามว่าไทยยินดีแลกเปลี่ยนประสบการณ์ในการแก้ไขปัญหาการประมง IUU เพื่อเป็นผลดีต่อการยกระดับมาตรฐานการประมงเวียดนามด้วย