คุก 2 เดือนไม่รอลงอาญา 'หมอเปรม' พร้อมพวก แก้ผ้านักข่าว
ศาลอุทธรณ์ภาค4 พิพากษายืนตามศาลชั้นต้น ตัดสินจำคุก "หมอเปรม" และ อดีตเลขานุการ เป็นเวลา 2 เดือน โดยไม่รอลงอาญา ชี้จำเลยเป็นผู้นำท้องถิ่นและบุคคลสาธารณะสามารถปฏิเสธให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนได้อย่างสุภาพ แต่กลับใช้วิธีการที่ผิดกฎหมาย
เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 5 พ.ย.62 ที่ศาลจังหวัดพล จ.ขอนแก่น ได้มีการนัดฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค4 ในคดีหมายเลขดำที่ อ.1519/60 ในคดีที่สื่อมวลชน จ.ขอนแก่น 5 คนเข้าแจ้งความดำเนินคดีต่อ นพ.เปรมศักดิ์ เพียยุระ หรือ “หมอเปรม” อดีตนายกเทศมนตรีเมืองบ้านไผ่ จำเลยที่1 และ ร.ต.บัวทอง โลขันธ์ อดีตเลขานุการนายกเทศมนตรีเมืองบ้านไผ่ จำเลยที่ 2 ในข้อกล่าวหา กระทำอนาจารต่อหน้าธารกำนัน จากกรณีการจับผู้สื่อข่าวอาวุโสหนังสือพิมพ์เดลินิวส์ ศูนย์ข่าวภาคอีสานตอนบน ถอดกางเกง เหตุเกิดเมื่อวันที่ 26 พ.ค. 2559 ภายในห้องปฏิบัติราชการนายกเทศมนตรีเมืองบ้านไผ่ อ.บ้านไผ่ จ.ขอนแก่น
โดย นพ.เปรมศักดิ์ และ ร.ต.บัวทอง ได้เดินทางมาพร้อมกับภรรยา รวม 4 คน ก่อนจะหลบหน้าสื่อมวลชนที่มารอติดตามทำข่าวที่บริเวณด้านหน้าอาคารศาลจังหวัดพล จ.ขอนแก่น เข้าประตูศาลอีกด้านไป ก่อนจะเดินเข้าห้องพิจารณาคดี บัลลังก์ 2 ทันที
ต่อมา องค์คณะผู้พิพากษาศาลจังหวัดพล จ.ขอนแก่น ได้ขึ้นอ่านคำพิพากษาของศาลอุธรณ์ภาค4 โดยพิพากษายืนตามคำตัดสินของศาลชั้นต้น ให้จำคุกจำเลยทั้ง 2 คน เป็นเวลา 2 เดือน โดยไม่รอลงอาญา โดยก่อนหน้านี้ จำเลยทั้ง 2 ได้ยื่นอุทธรณ์เพื่อขอให้รอการลงโทษจำคุก และต่อมาได้ยื่นคำร้องขอรับสารภาพผิดตามฟ้องตลอดข้อกล่าวหา ซึ่งการรับสารภาพในชั้นอุทธรณ์นี้ ศาลชี้ว่า จะต้องกระทำก่อนที่ศาลชั้นต้นจะตัดสิน จึงไม่มีเหตุให้ต้องพิจารณา และการรับสารภาพผิดของจำเลยทั้ง 2 จึงเป็นการรับผิดโดยไม่ต้องโต้แย้ง เป็นการยืนยันว่าจำเลยทั้ง 2 ได้กระทำผิดตามฟ้องจริง
คำตัดสินของศาลอุทธรณ์ภาค4 ยังระบุด้วยว่า การที่สื่อมวลชนเดินทางไปติดต่อจำเลย เพื่อขอสัมภาษณ์จากกรณีภาพถ่าย นพ.เปรมศักดิ์ คู่กับหญิงสาว ที่ปรากฎในสังคมออนไลน์ หาก นพ.เปรมศักดิ์ จะไม่ขอให้ข้อมูลก็สามารถปฏิเสธได้อย่างสุภาพ แต่ นพ.เปรมศักดิ์ ซึ่งขณะนั้นมีหน้าที่การงานที่มั่นคง เป็นผู้นำท้องถิ่นและเป็นบุคคลที่มีชื่อเสียง แต่กลับกระทำการโดยผิดกฎหมาย จึงพิพากษายืนตามศาลชั้นต้น ให้จำคุก จำเลยทั้ง 2 คน เป็นเวลา 2 เดือน โดยไม่รอลงอาญา
หลังฟังคำตัดสิน จำเลยทั้ง 2 คน ได้ยื่นคำร้องขอประกันตัวเพื่อต่อสู้คดีในชั้นฎีกา โดยใช้หลักทรัพย์เป็นโฉนดที่ดิน มูลค่า 250,000 บาท เป็นหลักทรัพย์ในการยื่นประกันตัว ซึ่งศาลได้รับคำร้อง โดยมนพ.เปรมศักดิ์ จำเลยที่ 1 ได้ขึ้นรถยนต์ส่วนตัวกลับไปทันที มีเพียง ร.ต.บัวทอง จำเลยที่ 2 ที่เดินออกมาทักทายกับสื่อมวลชน โดยบอกเพียงสั้นๆ ว่า "ไม่มีอะไร ขอบคุณมากๆ" ก่อนจะเดินไปขึ้นรถยนต์ส่วนตัวกลับไป
สำหรับคดีนี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 26 พ.ค. 2559 โดยผู้สื่อข่าวจาก 5 สำนักข่าวในจังหวัดขอนแก่น ได้ติดตามทำข่าวกรณีที่มีการเผยแพร่ภาพทางโซเชียลมีเดีย เป็นภาพ นพ.เปรมศักดิ์นั่งคู่กับหญิงสาว คล้ายพิธีหมั้นหรือพิธีมงคลสมรสของภาคอีสาน ผู้สื่อข่าวทั้งหมดจึงได้ขอพบและสัมภาษณ์ นพ.เปรมศักดิ์ ภายในที่ทำการสำนักงานเทศบาลเมืองบ้านไผ่ ซึ่งสร้างความไม่พอใจให้ นพ.เปรมศักดิ์ นำมาสู่การกระทำอนาจารผู้สื่อข่าว และเกิดการฟ้องร้องดำเนินคดี