กสศ.- Shrewsbury-JD Central สร้างพื้นที่เรียนรู้
3 องค์กรภาคีเครือข่าย "กสศ.- Shrewsbury-JD Central" สร้างพื้นที่เรียนรู้ ลดช่องว่างความเหลื่อมล้ำ ปลุกพลังเยาวชน รร.ชนบท-เมือง สร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ จำหน่ายผ่าน JD Central รายได้ไม่หักค่าใช้จ่าย ช่วยเหลือนักเรียนทุนเสมอภาค
วันที่(4 พ.ย.)ที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิร์ด กรุงเทพฯ กองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.) ร่วมกับโรงเรียนนานาชาติ Shrewsbury และบริษัท JD Central จัดกิจกรรมการพัฒนานวัตกรรมเครือข่ายโรงเรียนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (Equity Partnership’s School Network) ภายใต้โครงการดังกล่าว โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาแนวทางการทํางานร่วมกัน เพื่อเป้าหมายสร้างความเสมอภาคทางการศึกษาระหว่างสถานศึกษา ครู และนักเรียนในพื้นที่ชนบท และสถานศึกษาในเขตเมือง
ดร.ไกรยส ภัทราวาท รองผู้จัดการกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.) กล่าวว่า โครงการพัฒนานวัตกรรมเครือข่ายสถานศึกษาฯ เกิดจากความร่วมมือ 3 ฝ่าย คือ กสศ. โรงเรียนนานาชาติ Shrewsbury และบริษัท JD Central โดยทั้ง 2 แห่ง ต้องการร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการสร้างความเสมอภาคทางการศึกษา กับ กสศ. ผ่านกิจกรรมแลกเปลี่ยนเรียนรู้ การพัฒนาทักษะความคิดสร้างสรรค์
การใช้เทคโนโลยี e-commerce และการพัฒนาทักษะการเป็นผู้ประกอบการในศตวรรษที่ 21 (Entrepreneurial Skill) ระหว่างเครือข่ายโรงเรียน โดย กสศ.สนับสนุนให้โรงเรียนสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ในเครือข่ายตลาดวาดฝัน ซึ่งส่วนหนึ่งของกิจกรรมพัฒนาทักษะอาชีพ ทักษะชีวิตนักเรียนทุนเสมอภาค ที่มีความพร้อมและมีศักยภาพในการพัฒนาผลิตภัณฑ์สินค้า
มีนักเรียนผู้รับทุนเสมอภาคที่มีความพร้อมด้านภาษาอังกฤษเข้าร่วมในโครงการ เพื่อสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ร่วมกับนักเรียนโรงเรียนนานาชาติ Shrewsbury และนำมาจำหน่ายในช่องทางของ JD Central ซึ่งพร้อมจะมอบรายได้จากการจำหน่ายทั้งหมดโดยไม่หักค่าใช้จ่าย ให้กับนักเรียนทุนเสมอภาคในโรงเรียนสังกัด สพฐ. เพื่อให้เด็กๆ นำไปต่อยอดโครงการส่งเสริมทักษะอาชีพและกิจกรรมลดความเหลื่อมล้ำต่อไปในอนาคต
Mr.Greg Threlfall รองผู้อำนวยการระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย โรงเรียนนานาชาติ โชรส์เบอรี่ (Shrewsbury International School Bangkok) กล่าวว่า ถือเป็นการเปิดโอกาสให้นักเรียนจากหลากหลายบริบทได้ทำงานร่วมกัน เพื่อพัฒนาทักษะความเป็นผู้นำ เช่น ทักษะการทำงานร่วมกัน ทักษะการแก้ปัญหา และทักษะการสื่อสาร เป็นต้น
ดร.ไกรยส กล่าวว่า หัวใจสำคัญของเรื่องนี้คือ การสร้างพื้นที่เรียนรู้ร่วมกันระหว่างนักเรียนชนบทและเมือง อย่างไม่มีช่องว่างของความเหลื่อมล้ำ เด็กๆ ต่างมีศักยภาพที่แตกต่างกัน และนี่คือสิ่งพิเศษที่พวกเขาเติมเต็มซึ่งกันและกันได้ กสศ.และองค์กรภาคีเครือข่ายฯ อยากเห็นสังคมไทยก้าวหน้าเป็น Thailand 4.0 ที่มีการพัฒนาอย่างยั่งยืนและเป็นธรรม ผ่านระบบการศึกษาที่มีความเสมอภาค เด็กเยาวชนไทย วัยเรียนเป็นวัยที่มีพลัง และไม่ว่าจะเกิดที่ไหน เรียนที่ไหนก็สามารถร่วมกันสร้างประเทศไทยให้เจริญก้าวหน้าอย่างยั่งยืน
ซึ่งเป็นเรื่องที่ดีหากเด็กเยาวชนจากบริบทที่มีความหลากหลายได้มีโอกาสรู้จัก หรือทำงานเพื่อประโยชน์สาธารณะร่วมกันตั้งแต่ในวัยเรียน เมื่อก้าวพ้นจากสถาบันการศึกษา ภาพของสังคมไทยในอนาคตจะเป็นภาพที่ทุกคนสามารถทำงานเพื่อประโยชน์สาธารณะร่วมกันได้แม้จะมีความแตกต่างกัน เพื่อสร้างสังคมที่มีความเสมอภาค เมื่อเราเข้าใจกันทำงานร่วมกันปัญหาเรื่องการแบ่งแยกก็ไม่เกิดขึ้น
"เราหวังว่าการทำงานร่วมกันของสถานศึกษาจาก กทม. และทั้ง 7 จังหวัดจาก 4 ภูมิภาคทั่วประเทศ ที่เข้าร่วมโครงการในวันนี้ จะสามารถขยายผลสนับสนุนการทำงานของสถานศึกษาที่รับทุนเสมอภาคจาก กสศ. ไปพัฒนากิจกรรมฝึกทักษะอาชีพ ทักษะชีวิตให้แก่นักเรียนยากจนพิเศษในพื้นที่ต่างๆ ได้ในอนาคต"ดร.ไกรยส กล่าว
ที่สำคัญทั้ง 3 องค์กรร่วมจัดหวังอยากเห็นนักเรียนมากกว่า 100 ชีวิตที่ได้ร่วมกิจกรรมในโครงการนี้เมื่อเติบโตขึ้นในอนาคตจะเลือกศึกษาต่อในคณะ สาขาวิชาที่จะช่วยประเทศชาติ รวมถึงเมื่อจบการศึกษาแล้ว จะได้เลือกทำงานเพื่อช่วยให้ประเทศชาติมีความเสมอภาคมากขึ้นในอนาคต ไม่ว่าจะเป็นงานในฝั่งภาครัฐ หรือเอกชน
โดยทักษะทั้งหมดนี้เป็นทักษะที่จำเป็นในการเป็นผู้ประกอบการที่ดีในอนาคต นอกจากนี้นักเรียนยังได้มีโอกาสแลกเปลี่ยนแนวคิดและประสบการณ์ นำไปสู่การสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ร่วมกัน
น.ส.รวิศรา จิราธิวัฒน์ ประธานกรรมการบริหารฝ่ายการตลาด เจดี เซ็นทรัล กล่าวว่า การที่กลุ่มเยาวชนที่อยู่ใน กทม.และต่างจังหวัด ได้เข้ามามีส่วนร่วมกันคิดและเสนองานที่ทำ เห็นว่าเด็กทั้งสองกลุ่มสามารถทำงานร่วมกันได้ดี มีผลงานที่ดี ทางเจดีเซ็นทรัลก็ได้รับไอเดียใหม่ๆ ด้วยเช่นกัน
นอกจากนี้เห็นได้ถึงความตั้งใจของเด็กแต่ละคน จึงอยากให้ภาครัฐและภาคเอกชนทำโครงการลักษณะนี้ เพื่อส่งเสริมการเรียนรู้ให้กับเยาวชนของประเทศไทยมากยิ่งขึ้น
นายโชดก พิจารณ์จิตร กรรมการผู้จัดการใหญ่ฝ่ายบริหารสินค้า เจดีเซ็นทรัล กล่าวว่า กิจกรรมที่เกิดขึ้นเป็นการสร้างโอกาสเรื่องการศึกษา โดยเด็กจากชนบทได้พบกับเด็กใน กทม. เกิดการถ่ายทอดความรู้ให้กับเยาวชนที่อยู่ในต่างจังหวัด ขณะเดียวกันเด็กในเมืองก็ได้เรียนรู้จากน้องต่างจังหวัดถึงผลิตภัณฑ์ต่างๆ ทำให้เกิดการแลกเปลี่ยนซึ่งกันและกัน โดยเด็กจากตัวเมืองก็มีช่องทางการจำหน่ายสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์ เกิดเป็นกรอบการทำงานและโอกาสในการจำหน่ายผลิตภัณฑ์เพิ่มมากขึ้น สามารถสร้างรายได้ในอนาคต
กล่าวว่า เจดีเซ็นทรัล ต้องการสนับสนุนประชากรรุ่นใหม่ เราเชื่อว่าความร่วมมือระหว่าง เจดีเซ็นทรัล โรงเรียนนานาชาติโชรส์เบอรี่ และกสศ.จะช่วยนำโอกาสที่ดีมาสู่นักเรียนทุกคน โดยส่วนตัวมองว่าความเสมอภาคทางการศึกษาคือการที่คนทุกคนได้รับโอกาสทางการศึกษาที่เท่าเทียมกัน ไม่ว่าจะเกิดที่ไหนหรือมีทรัพยากรมากหรือน้อยเพียงใด
"Cindy เกิดในครอบครัวของผู้ที่ย้ายถิ่นฐานมาตั้งรกรากที่ประเทศไทย แต่โชคดีที่ได้มีโอกาสเข้าถึงการศึกษาที่ดี เช่น ได้ศึกษาที่โรงเรียนนานาชาติโชรส์เบอรี่ ได้มีโอกาสมาสร้างสรรค์โครงการเพื่อสังคมในนามบริษัทเจดีเซ็นทรัล ร่วมกับโรงเรียนนานาชาติโชรส์เบอรี่ และกสศ. เพื่อส่งต่อโอกาสสู่นักเรียนรุ่นใหม่ในวันนี้"Ms.Cindy กล่าว